ความต้องการสินค้าจากตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะยานพาหนะและเครื่องจักรกลยังคงมีมากจึงทำให้ตลาดยางรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่ทำด้วยยางของเยอรมนีมีแนวโน้มที่แจ่มใส ส่วนผลิตภัณฑ์ทำด้วยยางอื่นๆ ที่สำคัญๆ ได้แก่ ชิ้นส่วน ส่วนประกอบเครื่องจักรกล ตลาดมีความแจ่มใสเช่นกัน
ในช่วง 5 เดือนแรกปี 2554 ยอดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำด้วยยางของผู้ผลิตในประเทศเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 7,153 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.5 โดยเป็นยางรถยนต์ มูลค่า 2,944 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.8 ในจำนวนนี้เป็นการจำหน่ายในประเทศมูลค่า 2,006 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.1 ในต่างประเทศมูลค่า 939 ล้านยูโร ลดลงร้อยละ 5.9 สำหรับผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ ที่สำคัญๆ ได้แก่ แท่นยาง ปะเก็น และยางผสมสารเคมีสำหรับการใช้งานพิเศษต่างๆ เป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 4,209 ล้านยูโร มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.9 เป็นการจำหน่ายในประเทศมูลค่า 2,377 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.7 การขายในต่างประเทศมูลค่า 1,832 ล้านยูโร มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.9
ความต้องการสินค้าผลิตภัณฑ์ทำด้วยยางในตลาดเยอรมนียังคงมีสูงอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ไทยสามารถส่งออกสินค้ารายการนี้ไปตลาดเยอรมนีมูลค่าที่เพิ่มขึ้น ยกเว้น ยางยานพาหนะที่ลดลงเล็กน้อย และผลิตภัณฑ์ยางใช้ทางเภสัชกรรม โดยในช่วง 7 เดือนแรกปี 2554 (ม.ค.-ก.ค.) ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ทำด้วยยางไปเยอรมนีเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 135.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3 ที่สำคัญๆ ได้แก่
- ถุงมือยางใช้ในด้านการแพทย์ มูลค่า 71.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.9 คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 52.8 ของการส่งออกสินค้ารายการนี้ไปเยอรมนี ในตลาดเยอรมนีไทยมีส่วนแบ่งประมาณร้อยละ 15 แหล่งนำเข้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ มาเลเชีย เนเธอร์แลนด์ และออสเตรีย มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 41, 12 และ 10 ตามลำดับ
- ยางใหม่สำหรับยานพาหนะ มูลค่า 51.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 0.53 คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 37.9 ของการส่งออกสินค้ารายการนี้ไปเยอรมนี ในตลาดเยอรมนีไทยมีส่วนแบ่งเล็กน้อยประมาณร้อยละ 1.1 แหล่งนำเข้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ฝรั่งเศสมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 14 เช็คร้อยละ 11 สโลเวเกียร้อยละ 6
- หลอดและท่อยาง มูลค่า 2.8 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 2.1 ของการส่งออกสินค้ารายการนี้ไปเยอรมนี ในตลาดเยอรมนีไทยมีส่วนแบ่งประมาณร้อยละ 0.4 แหล่งนำเข้าสำคัญๆ ได้แก่ ฮังการี เช็ค และอิตาลี มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 16, 12 และ 10 ตามลำดับ
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน
ที่มา: http://www.depthai.go.th