๑.ภาวะเศรษฐกิจบังกลาเทศดีขึ้น การค้าในประเทศเริ่มคึกคักขึ้น เนื่องจากเป็นเดือน รามาดอล ซึ่งชาวมุสลิมถือศีลอด ก่อนจะเริ่มศักราชปีใหม่หลังจากสิ้นสุดรามาดอล ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น แม้ว่าปัญหาหลายด้านยังไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งปัญหาการขาดแคลนพลังงานก๊าซและกระแสไฟฟ้า การจราจรติดขัด ถนนสายต่างๆชำรุดเสียหายอย่างมากในช่วงฤดูมรสุม มีการปิดถนน ประท้วงรัฐบาลขอให้ซ่อมแซมถนนเป็นการด่วน เป็นต้น
๒.รายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจของธนาคารกลาง ณ ๒๔ ส.ค.๕๔ รายงานว่าค่าเงินตากา แข็งค่าขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่อ่อนค่าลงเมื่อมี.ค.ปีก่อน เงินสำรองเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้น จากการโอนเงินจากแรงงานต่างประเทศทรงตัว การส่งออกและการนำเข้าลดลงเล็กน้อย และอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นสูงสุดในรอบ ๔ ปี ตามรายละเอียด ดังนี้
๒.๑.เงินสำรองเงินตราต่างประเทศ ณ ๒๓ ส.ค.๕๔ มีจำนวน ๑๐,๙๘๕.๕๙ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๖.๑๒ จาก ๒๖ ก.ค.๕๔ (๑๐,๓๕๑.๖๙ ล้าน) ซึ่งมีมูลค่าต่ำสุดในรอบ ๖เดือนที่ผ่านมา แต่ใกล้เคียงกับ ๒๓ สค.ปีก่อน ซึ่งเท่ากับ ๑๐,๙๙๒.๐๒ ล้าน
๒.๒ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตากาต่อเงินUSD ณ ๒๓ ส.ค.๕๔ ๑ USD= ๗๓.๙๘๔๖ ตากาแข็งค่าขึ้นจาก ๒๖ ก.ค.๕๔ ซึ่ง ๑ USD= ๗๔.๖๗๒๗ ตากา เป็นการแข็งค่าขึ้นครั้งแรกหลังจากที่เงินตากาอ่อนค่าลงเป็นลำดับตั้งแต่ปลายปี ๒๕๕๓ (ธ.ค.๕๓(๗๐.๗๔๙๗) และพ.ย.๕๓(๗๐.๓๔๘ตากา) แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับ ๒๓ ส.ค..ปีก่อน ๑ USD = ๖๙.๕๔๐๓ ตากา เงินตากาอ่อนค่าลงถึงร้อยละ ๖.๓๙ เพราะความต้องการดอลลาร์เพิ่มขึ้นจากการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอย่างมาก รวมทั้งการนำเข้าอุปกรณ์ เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าใหม่ ซึ่งเริ่มดำเนินการผลิตแล้ว
๒.๓ .เงินโอนจากแรงงานในต่างประเทศ เดือนก.ค.๕๔ มีจำนวน ๑,๐๒๘.๑๔ ล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับมิ.ย.๕๔ (๑,๐๓๘.๑๓ล้าน) เป็นการเพิ่มขึ้น๒เดือนต่อเนื่องหลังจากที่ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ มี.ค.๕๔ (๑,๑๐๒.๙๘ ล้าน) และเมื่อเทียบกับก.ค.ปีก่อนซึ่งมีมูลค่า๘๕๗.๓๑ ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ ๑๙.๙๓ เนื่องจากมีการส่งออกแรงงานไปซาอุดิอารเบียเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีการนำแรงงานกลับจากเหตุการณ์ประท้วงในตะวันกลางหลายหมื่นคน แต่ก็ยังมีแรงงานบังกลาเทศทำงานในต่างประเทศอีกจำนวนมาก
๒.๔ มูลค่าส่งออกของบังกลาเทศเดือนก.ค.๕๔ รวม ๒,๓๓๙.๕๒ ล้านดอลลาร์ ลดลงจากมิ.ย.๕๔ ( ๒,๓๘๖.๐๔ ล้าน) ร้อยละ ๑.๙๕ ซึ่งเป็นยอดส่งออกสูงสุดในรอบปี แต่เพิ่มขึ้นจากพ.ค.(๒,๒๙๕.๑๐ ล้าน) และเม.ย. ( ๒,๐๓๖.๑๗ ล้าน)ร้อยละ๑.๙๓ และร้อยละ๑๔.๙๐ ตามลำดับ และเพิ่มขึ้นจาก ก.ค.ปีก่อน (๑,๘๑๗.๘๑ ล้าน)ถึงร้อยละ ๒๘.๗๐
ในขณะที่มูลค่านำเข้า เดือนมิ.ย.๕๔ มีมูลค่า ๒,๙๑๐.๔๐ ล้านดอลลาร์ ลดลงจากพ.ค.๕๔ (๓,๒๙๑.๘ล้าน) ซึ่งใกล้เคียงกับ เม.ย.(๓,๒๒๙.๒๐ล้าน) ซึ่งสูงสุดในรอบ12 เดือนร้อยละ ๑๑.๕๙ และ ๙.๘๗ ตามลำดับ และเพิ่มขึ้นจากมิ.ย.ปีก่อน(๒,๒๐๐.๒๐ ล้าน) ถึงร้อยละ๓๒.๒๗ โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นจากนำเข้าข้าว ข้าวสาลี เครื่องจักร วัตถุดิบสิ่งทอ และน้ำมันปิโตรเลียม
สำหรับยอดดุลการชำระเงินเดือนมิ.ย.๕๔ เกินดุล ๓๘๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากมิ.ย.ปีก่อนซึ่งเกินดุล ๗๕๘ ล้านดอลลาร์สหรัฐ
๒.๕. อัตราเงินเฟ้อ เดือนก.ค.๕๔ = ๑๐.๙๖ สูงสุดในรอบ ๔ ปี สูงขึ้นจาก มิ.ย.๕๔ ซึ่งเท่ากับ ๑๐.๑๗ และพ.ค.๕๔(=10.20)แม้แต่ เม.ย. ๕๔ (= ๑๐.๖๗) ซึ่งสูงสุดก่อนหน้านี้ และเมื่อเทียบกับก.ค.ปีก่อน ซึ่งเท่ากับ ๗.๒๖ เท่านั้น เนื่องจากราคาสินค้าจำเป็นต่างๆและน้ำมันเชื้อเพลิง มีราคาสูงขึ้น สำหรับอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย๑๒ เดือน ก.ค.๕๔ = ๙.๑๑สูงขึ้นจาก มิ.ย.๕๔ (= ๘.๘๐) และ พ.ค.๕๔(๘.๖๗)
๓. ภาวะการค้าในประเทศ การค้าในประเทศ เริ่มคึกคักมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลถือศีลอดของชาวมุสลิม ซึ่งหลังจากสิ้นสุดการถือศีลอด ก็จะเป็นตรุษหรือเริ่มศักราชปีใหม่ มีการจับจ่ายซื้อเสื้อผ้าของใช้สำหรับตัวเอง ของใช้ในบ้านต่างๆ ใหม่ๆรวมทั้งเป็นของขวัญสำหรับญาติพี่น้อง ครอบครัว
๓.๑ ภาวะการค้าข้าว ราคาข้าวส.ค.ทรงตัวเท่ากับก.ค.๕๔ หลังจากราคาสูงขึ้นจากมิ.ย. ๕๔ โดยราคาข้าวคุณภาพดีมีราคา ๒๓-๒๖ บาท/กก.สูงขึ้นจากมิ.ย.(๒๑-๒๕)และข้าวคุณภาพต่ำเดือนส.ค.ทรงตัวเท่ากับก.ค.มิ.ย.พ.ค.ราคา= ๑๕-๑๙ บาท/กก. เนื่องจากเป็นเทศกาลถือศีลอด รัฐบาลแจกข้าวฟรีแก่คนจน และมีการนำเข้าสำรองไว้ในปริมาณมากกว่า และข้าวฤดูใหม่มีผลผลิตมากกว่าเป้าที่ตั้งไว้
๓.๒ สถานการณ์ราคาน้ำตาล ราคาจำหน่ายยังทรงตัวในระดับสูง ราคาน้ำตาลเดือนสค.=ก.ค.= ๓๘ บาท/กก.สูงขึ้นจากมิ.ย.ซึ่งเท่ากับ ๓๒-๓๔ บาท/กก.อย่างมาก ในขณะที่ราคาพ.ค.เพียง ๓๐-๓๒ บาท/กก.หลังจากรัฐบาลกำหนดราคาขายปลีกไม่เกิน ๓๒.๕ บาท/กก. และจำหน่ายน้ำตาลราคานี้ให้ไม่เกินคนละ ๒ กก.
๔. ภาวะการส่งออกสินค้าจากไทยไปบังกลาเทศ ปริมาณการส่งออกรวมเดือนก.ค.๕๔ มีมูลค่า ๖๘.๖๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจาก มิ.ย๕๔ ซึ่งมีมูลค่า ๑๖๘.๘ ล้านดอลลาร์ และพ.ค.๕๔(๑๘๙.๒๔ล้าน) ร้อยละ ๕๙.๓๕ และ ๖๓.๗๔ตามลำดับ เนื่องจากมีการส่งออกข้าวในเดือนเม.ย.สูงมาก อย่างไรก็ตาม มูลค่าช่วงมค.-ก.ค.๕๔.= ๘๘๘.๓๖ ล้านดอลลาร์ ยังคงเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน.ปีก่อน(๔๗๖.๒๖ ล้าน)ถึงร้อยละ๘๖.๕๓ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ๐.๖๕ ของการส่งออกทั้งหมดของไทย จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นของสินค้าข้าว น้ำตาล รถยนต์และอะไหล่ ผ้าผืน ด้าย เส้นใยประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศ รองเท้า น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องเทศ และน้ำมันปรุงอาหาร เป็นต้น
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงธากา บังกลาเทศ
ที่มา: http://www.depthai.go.th