ภาวะเงินเฟ้อใกล้ถึงจุดสูงสุด

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 5, 2011 14:23 —กรมส่งเสริมการส่งออก

การปรับตัวลดลงของราคาสินค้ามาจากการช่วยเหลือของการควบคุมทางการเงินและสภาพคล่องที่ลดลง

กระทรวงการพัฒนาและปฏิรูปของจีน (NDRC) ระบุว่าภาวะเงินเฟ้อในจีนกำลังใกล้ถึงระดับสูงสุด และสถานการณ์ในครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวขึ้น จากการผันผวนของวัฏจักรราคา โดยราคาที่ปรับขึ้นสูงในรอบนี้ใกล้เคียงกับจุดเปลี่ยนแปลง ซึ่งจีนควรระมัดระวังในครึ่งปีหลัง

นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการต่อสู้กับราคาที่สูงขึ้นคือภาระเบื้องต้นที่ควรดำเนินการ อย่างไรก็ตามจากข้อมูลสถิติระบุ ปัจจัยที่เกิดภาวะเงินเฟ้อยังคงมีมาก โดยดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนมิถุนายนสูง ๖.๔ เปอร์เซ็นต์จากช่วงต้นปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบสามปี และตัวเลขดังกล่าวเป็นผลมาจากราคาภายใต้การควบคุม แต่ราคาสินค้าทั่วโลกกลับปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับตัวเลขในเดือนเมษายน การใช้นโยบายทางการเงินของจีน ที่รัดกุมมีบทบาทในทางบวก และสภาพคล่องที่ลดลงเป็นตัวการสำคัญในการทำให้ราคามีเสถียรภาพ ในระยะนี้จีนมีสินค้าสำคัญจากการจัดหาภายในประเทศ ในช่วงฤดูร้อนผลผลิตเมล็ดพืชเพิ่มขึ้น ๒.๕ เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ผัก และสินค้าอุปโภคบริโภคอุตสาหกรรมมีปริมาณการจัดหาที่เพียงพอ

จีนประสบเหตุการณ์ราคาสูงมาแล้วสามรอบ คือ ปี ๒๕๔๖, ๒๕๕๐ และปัจจุบัน โดยแต่ละรอบจะเกิดรวมระยะเวลา ๒๔ เดือน

นาย Zhou รองผู้อำนวยการกระทรวงการพัฒนาและปฏิรูปของจีนแผนกกำหนดราคาสินค้าเปิดเผยว่า ขณะที่อยู่ในระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ของการจัดตั้งระบบประกันราคาผักที่มีความหลากหลาย เพื่อเป็นการการันตีผลกำไรของเกษตรกรและช่วยให้ราคาผักมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น โดยคาดการณ์ว่าปีหน้าราคาเนื้อหมูจะปรับตัวสูงขึ้นถ้าเกษตรกรเพิ่มการผลิตเพราะในขณะนี้ได้รับผลกำไรสูง ราคาเนื้อหมูที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้จะทรงตัวหรือเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วงระยะการบริโภคสูงสุด ซึ่งเป็นช่วงตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนมกราคม

ถึงแม้ว่าราคาสินค้าจะลดลง แต่ราคาน้ำมันที่กลับปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน และความเป็นไปได้ในรอบที่สามของการทำให้ผ่อนคลายขึ้นในเชิงปริมาณของสหรัฐอเมริกาจะยังคงกดดันราคาน้ำมันต่อไป ส่วนราคาเนื้อหมู ถึงแม้ว่าภายในประเทศจะไม่มีการปรับตัวสูงขึ้น แต่สินค้าอื่นๆยังคงปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันที่ใช้ประกอบอาหาร ซึ่งการจำกัดราคาน้ำมันที่ใช้ประกอบอาหารของกระทรวงการพัฒนาและปฏิรูปของจีนจะหมดวาระในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะส่งผลให้หลังจากนี้ราคาจะปรับตัวสูงขึ้น

ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ