สอ.มองกาลไกล เศรษฐกิจชะลอตัว มะกันอยู่บ้านทำครัว-ดูแลสุขภาพ กระซิบผู้ประกอบการไทยวางแผนตลาดผ่านสื่อทีวี —ไอโฟน เผยกลุ่มสินค้าเจาะตลาด —วางกลยุทธ์ของแถมจูงใจผู้บริโภค
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐฯและยุโรปอาจชะลอตัวในไตรมาสสุดท้ายและปี 2555 พร้อมกับเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ส่งผลถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีแนวโน้มว่า จะใช้เวลาอยู่บ้าน ทำครัว และดูแลใส่ใจสุขภาพนานเพิ่มขึ้นจึงเป็นโอกาสเหมาะสมกับการรุกตลาดของสินค้าเครื่องใช้ในบ้าน ในครัว ของตกแต่งบ้านและสินค้าสุขภาพ รวมถึงการวางแผนโฆษณาผ่านสื่อทางโทรทัศน์จะให้ผลทางการตลาดหลักที่เป็นเลิศ
“กลยุทธ์ในการวางสินค้าประเภทนี้ ควรผลักดันการจำหน่ายสินค้าให้มีของสมนาคุณ/ของขวัญ/ของระลึก ซึ่งผู้ที่ได้รับไปแล้ว สามารถนำไปใช้ได้ นอกจากนั้นการผลักดันสินค้าด้วยกลยุทธ์นี้ จะช่วยสินค้าทั้งในด้านการโฆษณาแบรนด์สินค้า และการส่งผลต่อไปยังเครือข่ายของผู้ได้รับอีกด้วย อาทิ ครอบครัว เพื่อนฝูง เป็นต้น” นางนันทวัลย์ กล่าว และว่า ผู้ประกอบการ หรือเอสเอ็มอีไทยมุ่งรักษาตลาดและเพิ่มกลุ่มเป้าหมายต้องปรับแผนการผลิตและการตลาด เพื่อออกแบบสินค้าให้เข้ากับไลน์สไตล์ของผู้ซื้อ ซึ่งนอกจากจะเป็นการคิดค้นสินค้าแนวใหม่แล้ว ยังเป็นการต่อยอดกับสินค้าเดิมที่มีอยู่ให้หลากหลายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 18-23 ตุลาคม 2554 กรมฯจัดงานแสดงสินค้าของขวัญและของชำร่วย(BIG & BIH OCT) ณ ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติไบเทค เพื่อโชว์ศักยภาพของสินค้ากลุ่มนี้ให้ตลาดโลกได้รับรู้
นอกจากนี้สินค้าและอุปกรณ์ที่ใช้กับสุขภาพ คาดว่าจะมีการนำเข้าสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีประยุกต์กับกระแสเพื่อสุขภาพ ซึ่งจะทำให้การดำรงชีวิตมีความสะดวกสบายและมีสุขภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม เช่น เครื่องชั่งน้ำหนัก ที่ค้นหาปริมาณน้ำ ในร่างกาย ดัชนีมวลกาย ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ หรือแม้แต่การตรวจเช็คจำนวนพลังงานที่ร่างกายต้องการ, เครื่องบดอาหาร และอุปกรณ์นึ่งแบบใหม่ที่ออกแบบสำหรับการปรุงอาหารเองที่บ้านให้เด็กอ่อน รวมทั้งผลิตภัณฑ์ปรุงอาหารสุขภาพสำหรับเด็กที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นลำดับ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารบีพีเอ (Bisphenol A ซึ่งเป็นสารเคมีที่พบในบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ทำมาจากพลาสติก) สินค้า-อุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดพลังงาน สินค้าที่เป็นผลจากการปรับสภาพและนำกลับมาใช้ใหม่ และ สินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นางสมรรัตน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก กล่าวว่า ข้อมูลจากผู้ประกอบการชั้นนำสินค้าของใช้ในบ้านของสหรัฐฯ เกี่ยวกับแนวโน้มสินค้าของใช้ในบ้าน 5 อันดับที่จะมาแรง ในตลาดสหรัฐฯ ในอนาคต มีดังนี้
1.สินค้าทันสมัยมีสีสันสว่างสดใส ( Hip, Bright and Young) เหมาะสำหรับคนหนุ่มสาว ผู้ประกอบการไทยควรเปลี่ยนรูปแบบภาชนะ ปรุงอาหารจากสเตนเลสสตีลเป็นโลหะเคลือบอีนาเมล(Enamel) ที่มีรูปแบบทันสมัย และมีสีสันเตะตา เพื่อดึงดูดกลุ่มวัยหนุ่มสาว ที่ถือเป็นคนรุ่นใหม่ ที่จะหันมานิยมปรุงอาหารรับประทานด้วยตนเองมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันกำลังมีโปรแกรมสอนทำอาหารผ่านโทรศัพท์ไอโพน หรือ แม้แต่รายการโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียงเปิดรายการหัดทำอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพรับประทานเองที่บ้าน
2. กาแฟสำหรับคนเดียว( Coffee for One ) ตลาดสินค้าเครื่องทำกาแฟเสิร์ฟดื่มคนเดียวของสหรัฐฯมีมูลค่า ปีละ 100 ล้านเหรียญฯ และมีอัตราการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ประกอบกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดเร่งทำการตลาดอย่างคึกคัก พร้อมผสมผสานความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้วย เครื่องทำกาแฟเสริฟดื่มคนเดียวที่สามารถเป็นเครื่องทำชา และเครื่องดื่มชอคโกเล็ตร้อน อีกด้วย และเครื่องยังบอกระดับอุณหภูมิของน้ำ ระยะเวลาในการต้ม/ชง เป็นต้น
3. สินค้าที่ให้ความสุข ความบันเทิงภายในบ้าน และความต้องการอุปกรณ์ที่ให้ความสะดวกสบาย เช่น เครื่องทำน้ำแข็งแบบพกพา หรือ ตู้แช่เครื่องดื่มแบบพกพา ที่ช่วยแปลงโฉมบ้านให้กลายเป็นสถานบันเทิง หรือการใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวที่เป็นมิตร ง่ายต่อการใช้ ไม่ต้องออกแรงมาก เช่น อุปกรณ์เปิดกระป๋อง ตัดพิชซ่า ฯลฯ
4.สินค้าจากเตาสู่โต๊ะอาหาร (From Oven to Table) ผู้บริโภคอเมริกันนิยมปรุงอาหารที่ใช้เวลาน้อยและใช้พื้นที่ใช้สอยไม่มาก ดังนั้นผลิตภัณฑ์สินค้าจะต้องใช้เวลาไม่นานในการปรุงอาหาร ตลอดจนมีขนาดกระทัดรัด หากเป็นภาชนะใส่/เก็บอาหาร จะต้องมีรูปแบบทันสมัย ใช้งานได้หลายอย่าง ทั้งประกอบอาหารและเสิร์ฟในคราวเดียวกัน ล้างทำความสะอาดง่าย
และ 5. สินค้าที่มีเซฟมีชื่อเสียงนิยมใช้( Celebrity Chefs Evolve) ซึ่งในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เชฟชื่อดังจำนวนหลายคนได้เข้าและจัดรายการโทรทัศน์หลายช่องและเข้ามามีบทบาท ทำให้ผู้ผลิตได้เรียนรู้ว่า ผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัว แบรนด์ของเชฟชื่อดังหลายๆ คน ที่มีสไตล์ ลักษณะเฉพาะตัว เป็นที่ต้องการของตลาดได้ หากมีการทำอาหารผ่านฝีมือเซฟเหล่านี้
ที่มา: http://www.depthai.go.th