นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังจากให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานสัมมนา “จับตา คว้าโอกาส ตลาดแอฟริกา” ว่า กระทรวงพาณิชย์ยังคงตั้งเป้าการส่งออกในปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 15 เช่นเดิม แม้ว่าเศรษฐกิจโลกยังคงไม่ฟื้นตัวขึ้น ทั้งสหรัฐ ยุโรป เนื่องจากที่ผ่านมาไทย ได้หาตลาดการส่งออกใหม่ๆ มาทดแทนมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในแถบแอฟริกา ที่ยังมีการนำเข้าสูง ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายในการส่งออกสินค้าไปแอฟริกาในปีนี้ประมาณร้อยละ 10 ของการส่งออกทั้งหมด หรือคิดเป็นมูลค่า 7624 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
“สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับแอฟริกาในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ไทยได้ดุลการค้าถึง 3,009.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีมูลค่าการส่งออก ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฏาคม 2554 จำนวน 4,404.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 21.51 และมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 1395 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 46.47 โดยสินค้าที่มีอัตราการขยายตัวการส่งออกได้แก่ ข้าว เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ และเม็ดพลาสติก โดยประเทศในภูมิภาคแอฟริกาที่ไทยส่งออก 5 อันดับแรก ได้แก่ แอฟริกาใต้ ไนจีเรีย อียิปต์ กานา และโกตดิวัวร์” นายกิตติรัตน์ กล่าวเพิ่มเติม
ด้านนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวเพิ่มเติมว่า การสัมมนาในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้จากเดิมถึงกว่า 600 ราย เพื่อผลักดันการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศของเอกชนไทยสู่ตลาดแอฟริกาให้เพิ่มขึ้น และเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของทั้งสองฝ่าย เประเทศแอฟริกาเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ มีประชากรสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมีประชากรร่วม 930 ล้านคน และเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญ โดยมีสินแร่ ป่าไม้ น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งอัญมณี นอกจากนี้ภูมิภาคดังกล่าวยังต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคจากต่างประเทศ ในปี 2554 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าแอฟริกาจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจขยายตัวที่ร้อยละ 5.2 ซึ่งปัจจุบันประเทศในภูมิภาคแอฟริกาได้มีนโยบายสนับสนุนและต้อนรับนักธุรกิจเข้าไปดำเนินธุรกิจการค้าการลงทุน ซึ่งเป็นโอกาสของนักธุรกิจไทย เนื่องจากสินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม และเป็นที่ต้องการของชาวแอฟริกาอย่างมาก
ที่มา: http://www.depthai.go.th