รายงานการเข้าพบผู้นำเข้า บริษัท NINO CASTIGLIONE SRL (วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๔)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 14, 2011 14:21 —กรมส่งเสริมการส่งออก

๑. ข้อมูลบริษัท

๑.๑ ชื่อบริษัท NINO CASTIGLIONE SRL

๑.๒ ที่อยู่ Via E.Di Savoia,5 04100 LATINA

โทรศัพท์ ๐๗/๗๓๖๙๒๒๘๐

โทรสาร ๐๗/๗๓๖๙๒๒๘๒

อีเมล์ : amministrazione@ninocastiglione.it

เวปไซด์ : www.ninocastiglione.it

๑.๓ ประเภทธุรกิจ

ผู้นำเข้า, ผู้ค้าส่ง, ผู้กระจายสินค้า

๑.๔ ข้อมูลบริษัท

ปีที่ก่อตั้ง ๒๔๘๐

เงินทุนหมุนเวียน ๘๓ ล้านยูโร

จำนวนพนักงาน ๑๕๔ คน

๑.๕ สินค้าหลัก อาหาร

๑.๖ ผู้ที่เข้าเยี่ยมพบ

Mr. Franco Castiglione (กรรมการผู้จัดการ)

๒. ข้อมูลที่ได้รับ

๒.๑ ภาพรวมของบริษัท

บริษัท Nino Castiglione Srl ตั้งอยู่ที่เมืองลาตีน่า (แคว้นลาซิโอ) มีโรงงานแปรรูปตั้งอยู่ที่ San Cusumano เมืองทราปานี แคว้นซิชีลี โดยบริษัทเติบโตขึ้นเรื่อยๆจนปัจบันบริษัทมีร้านค้าใหม่ๆและโรงงานแปรรูปหลายแห่งที่มีศักยภาพในการผลิตสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูง และมีคุณภาพดีได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยบริษัทสามารถประกันคุณภาพสินค้าที่ดีที่สุดจากกระบวนการผลิต นวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตอย่างต่อเนื่อง การเก็บรักษาสินค้าเพื่อตอบสนองต้องการของลูกค้าได้อย่างดี

  • กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทคือระดับกลาง-สูง โดยมีช่องทางการกระจายสินค้าทั่วอิตาลีได้แก่ ซุปเปอร์มาร์เกต,ร้านค้าส่ง, โรงงานแปรรูป,ร้านอาหาร, ภายใต้แบรนด์ San Cusumano
  • แหล่งนำเข้า บริษัทนำเข้าจากประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ จีน ไต้หวัน เอกวาดอร์และประเทศไทย โดยนำเข้าจากไทย ๓๕% ของการนำเข้าทั้งหมด ทั้งนี้สินค้าส่งมาที่ท่าเรือ Gioia Tauro และเนเปิลส์

๒.๓ โอกาสของสินค้าไทย

Mr. Castiglione แจ้งว่าจากประสบการณ์ในการผลิตสินค้ามาหลายปี (ดูจากสินค้าทูน่าที่ผลิตมีโปรตีนสูงและแคลอรี่ต่ำ) ทำให้บริษัทตัดสินใจลงทุนสร้างโรงงานแปรรูปเพิ่มอีกที่ที่เมืองทราปานี ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์เครื่องมือสมัยใหม่ ทำให้บริษัทสามารถรับประกันคุณภาพสินค้าตลอดกระบวนการผลิตได้

Mr. Castiglione ยังกล่าวอีกว่าไทยเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาที่ดีที่สุด ดังนั้นบริษัทจึงต้องการเสาะหาบริษัทผู้ผลิตสินค้าปลาของไทยเพื่อเป็นซัพพลายเออร์ในระยะยาว และขยายประเภทสินค้าของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มการนำเข้าปลาทูน่าแช่แข็งแบบทั้งตัว

ขณะนี้บริษัทได้นำเข้าสินค้าจากบริษัทของไทย ดังต่อไปนี้

  • Royal Foods Co.,Ltd,
  • Ampro Intertrade Co.,Ltd
  • Asian Union Exporting Co.,Ltd

บริษัทนำเข้าปลาทูน่าจากไทยมากที่สุดโดยในปีพ.ศ. ๒๕๕๓ บริษัทนำเข้าปลาทูน่าแช่แข็งจากไทย จำนวน ๑,๒๒๗,๕๒๕ กิโลกรัม และตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ เป็นต้นไป บริษัทนำเข้าปลาทูน่าแช่แข็งมาแล้ว จำนวน ๑,๒๔๓,๗๔๓ กิโลกรัม

ราคาสินค้า

  • ปลาทูน่า ๔.๙๐ ยูโร/กก

ในเรื่องของราคา Mr. Franco Castiglione กล่าวว่าสินค้าที่นำเข้าจากประเทศไทยมีราคาสูงกว่า(+๑๐%) เมื่อเทียบกับแหล่งนำเข้าอื่นๆ ของบริษัท เช่น จีน ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม แต่คุณภาพของปลาทูน่าและสินค้าอื่นๆที่คล้ายคลึงกันของไทยมีคุณภาพสมบูรณ์ดีกว่ามาก

๒.๔ สินค้าที่นำเข้า/สนใจนำเข้าจากไทย

  • ปลาทูน่า
  • ปลาหมึกและกุ้งเสียบ
  • อาหารทะเลสำเร็จรูป
  • ปลาซาร์ดีน

๒.๕ แหล่งนำเข้า

  • นำเข้า ๓๕% จากไทย (ของการนำเข้าทั้งหมด)
  • นำเข้า ๑๕% จากจีน (ของการนำเข้าทั้งหมด)
  • นำเข้า ๑๕% จากเอควาดอร์ (ของการนำเข้าทั้งหมด)
  • นำเข้า ๑๕% จากเวียดนาม (ของการนำเข้าทั้งหมด)
  • นำเข้า ๑๕% จากไต้หวัน (ของการนำเข้าทั้งหมด)
  • นำเข้า ๑๐% จากฟิลิปปินส์ (ของการนำเข้าทั้งหมด)
๓. สรุปผลการหารือ

Mr. Castiglione ชี้แจงว่าบริษัทมีความต้องการที่จะเพิ่มการค้ากับไทยและสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น โดยบริษัทมีความพึงพอใจอย่างยิ่งกับสินค้าไทยและต้องการที่จะขยายความหลากหลายของสินค้า ทั้งนี้ สคร.โรม ได้ให้ข้อมูลและสถิติการค้าให้แก่ Mr. Castiglione รวมถึงข้อมูลงานแสดงสินค้าอาหารที่จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน ปี๒๕๕๕ ในไทยด้วย

Mr. Castiglione แจ้งว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเดินทางไปประเทศไทยก่อนเดือนมิถุนายน ๒๕๕๕ โดยจะแจ้งให้สำนักงานทราบเพื่อจัดทำนัดหมายกับผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพด้านอาหารทะเล และปลาทูน่าต่อไป

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโรม

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ