สินค้าอาหารไทยบนห้างสรรพสินค้าหรู KaDeWe

• ห้างสรรพสินค้า KaDeWe จัดเป็นห้างสรรพสินค้าหรูระดับบนใหญ่ที่สุดในเยอรมนี ตั้งอยู่บนถนนTauentzienstr. 21-24 ใจกลางเมืองหลวงกรุงเบอร์ลิน ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าอาหารไทยร่วมกับสคร. เบอร์ลินติดต่อกันมาหลายครั้ง และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีมาโดยตลอด โดยห้างได้สั่งซื้อสินค้าอาหารไทยมาวางจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสินค้าอาหารนานาชนิด ผักผลไม้ไทยสด อาหารทะเลสด/แช่แข็ง วางจำหน่ายจำนวน 350 รายการ โดยสั่งซื้อสินค้าอาหารไทยผ่านบริษัทผู้นำเข้า/ตัวแทนจำหน่ายสินค้าอาหารเยอรมันจำนวน 37 บริษัท และในช่วงเวลาปกติห้างจะมีชั้นวางจำหน่ายสินค้าเอเซียและอาหารไทยอย่างถาวรอยู่บริเวณชั้น 6 รวมทั้งมีร้านจำหน่ายอาหารไทยตามสั่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน- ห้าง KaDeWe จัดได้ว่าเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชมกรุงเบอร์ลินมากเป็นอันดับที่สาม รองจากการเข้าเยี่ยมชมรัฐสภา (Reichtag) และประตูเมือง Brandenburger Tor โดยเฉลี่ยจะมีลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อสินค้าในห้างประมาณวันละ 50,000 คน โดยในช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาสจะมีลูกค้าสูงถึง 100,000 คนต่อวัน ลูกค้าของห้างประมาณร้อยละ 40 จะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก ซึ่งในบริเวณชั้น 6 ที่เป็นชั้นจำหน่ายสินค้าอาหารของห้าง ถือเป็นชั้นจำหน่ายสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยมีสินค้าอาหารนานาชาติวางจำหน่ายประมาณ 34,000 รายการ รวมทั้งมีร้านจำหน่ายอาหารตามสั่งนานาชาติและเครื่องดื่ม ตั้งอยู่ทั่วบริเวณชั้น 6 ซึ่งมีที่นั่งรวมประมาณ 1,000 ที่นั่ง จัดได้ว่าเป็นศูนย์จำหน่ายอาหารที่ใหญ่สุดในกรุงเบอร์ลิน

• กิจกรรมในปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์คือ ในระหว่างวันที่ 14-25 มิถุนายน 2554 โดยกำหนดจัดขึ้นในช่วงหลังเทศกาลวันหยุดยาวประจำปีทางศาสนา (Pfngston) ที่จะมีนักท่องเที่ยวและชาวเยอรมันเดินทางมาท่องเที่ยวในกรุงเบอร์ลินเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมาจับจ่ายซื้อสินค้าในห้างKaDeWe โดยในปีนี้ได้มีการก่อสร้างและประดับตกแต่งศาลาไทยสำหรับจัดวางจำหน่ายสินค้าไทยและจัดกิจกรรมพิเศษขึ้นใน 2 ด้านบริเวณทางขึ้นหลักชั้น 6 ของห้าง โดยแบ่งเป็นศาลาไทยจำหน่ายสินค้าอาหารไทยนานาชนิด อาทิ อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง ข้าว/ก๋วยเตี๋ยว ซอสปรุงรสต่างๆ เครื่องแกง อาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารพร้อมรับประทาน เครื่องดื่ม ฯลฯ จำนวนประมาณ 280 รายการ และจัดมุมสาธิตปรุงอาหารไทยให้ลูกค้าชิมในบริเวณเดียวกัน บนพื้นที่รวม 50 ตรม. โดยกิจกรรมพิเศษสาธิตปรุงอาหารไทยกำหนดจัดขึ้นใน 4 วันคือ ในช่วงวันศุกร์-วันเสาร์ที่ 17 - 18 และ 24 - 25 มิถุนายน 2554 โดยรายการอาหารที่นำมาปรุงสาธิตให้ลูกค้าชิมจำนวน 3 รายการ ได้แก่แกงเขียวหวาน แกงเผ็ด และขนมหวานคือ ข้าวเหนียวมะม่วง
• ส่วนในบริเวณอีกด้านหนึ่ง ได้จัดตกแต่งเป็นศาลาไทยเช่นเดียวกัน บนพื้นที่ 50 ตารางเมตร สำหรับจัดวางจำหน่ายสินค้าประเภทผักผลไม้สด และจัดกิจกรรมสาธิตแกะสลัก/ผักผลไม้ไทย โดยห้างKaDeWe ได้จัดเจ้าหน้าที่ผู้มีความชำนาญมายืนประจำบู๊ธจำหน่ายสินค้าผักผลไม้ เพื่อคอยให้คำแนะนำแก่ลูกค้าและปอกผลไม้แจกให้ลูกค้าชิมหลากหลายรายการ อาทิ มะม่วง มะละกอ แก้วมังกร เป็นต้น นอกจากนี้ได้มีการจัดกิจกรรมพิเศษประชาสัมพันธ์สินค้าไทยขึ้นในบริเวณเดียวกัน ได้แก่ การสาธิตแกะสลักผักผลไม้ไทย การโชว์ผลงานแกะสลักดอกไม้ที่ปั้นขึ้นจากดินเผาและสบู่ การจัดแสดงสินค้าเครื่องประดับตกแต่งบ้านในตู้โชว์ และมุมจัดแสดงสินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ซึ่งได้รับความร่วมมือจากบริษัทผู้ส่งออกไทย Exotique Craft จัดส่งสินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารประเภทชุดมีดช้อนส้อมบรรจุในกล่องผ้าไหมมาร่วมจัดแสดงในครั้งนี้ โดยบริษัทดังกล่าวมีตัวแทนจัดจำหน่ายตั้งอยู่ในเยอรมัน ณ เมือง Ludwigsburg นอกจากนี้ตลอดช่วงการจัดกิจกรรมได้มีการนำแผ่นป้ายแบนเนอร์สินค้าไทยขนาดใหญ่ (375x285 ซม.) จำนวน 6 แผ่น มาติดตั้งบริเวณด้านข้างทางขึ้นบันไดเลื่อนให้ลูกค้าเห็นได้ชัดเจน รวมทั้งการจัดแสดงป้ายประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมบริเวณทางเข้าหลักของห้างด้านหน้าและทางเดินหลักบริเวณชั้น 6 ของห้าง นอกจากนี้ห้างได้จัดมุมพิเศษต่างๆ ทั่วบริเวณชั้น6 วางสินค้าอาหารไทยจำหน่ายในราคาพิเศษ มุมจำหน่ายสินค้าอาหารทะเลสด มุมจำหน่ายสินค้าอาหารไทยและอาหารเอเซียถาวรของห้าง และมุมร้านจำหน่ายอาหารไทยตามสั่ง ที่ติดป้ายประชาสัมพันธ์ด้านหน้า Thailand: Kitchen of the World ซึ่งจะมีลูกค้าแวะเวียนมาสั่งอาหารไทยรับประทานตลอดทั้งวัน โดยราคาอาหารขั้นต่ำจานละ 10 ยูโร (หรือคิดเป็นประมาณ 450 บาท)
• ในช่วงการจัดกิจกรรมในวันอื่นๆ ห้างได้ร่วมกับบริษัทผู้นำเข้าสินค้าไทยรายใหญ่ ได้แก่ บริษัทHeuschen & Schrouff Oriental Food Trading และบริษัท Fuchs Gewuerze GmbH จัดแม่ครัวมาสาธิตการปรุงอาหารในบริเวณศาลาไทยให้ลูกค้าชิมเช่นกัน โดยรายการอาหารที่นำมาปรุงสาธิตได้แก่ ต้มข่าไก่ ผัดก๋วยเตี๋ยว แกงเผ็ด ผัดวุ้นเส้น
• รายการอาหารในปีนี้ได้มีการนำผักสดในท้องถิ่นมาใช้เป็นวัตถุดิบส่วนผสมหลายรายการ สาเหตุเนื่องจากในช่วงการจัดกิจกรรม รายการผักไทยอาทิ มะเขือ ใบโหระพา พริกชี้ฟ้า ยังคงมีปัญหาไม่สามารถนำเข้ามาวางจำหน่ายในเยอรมนีได้ ดังนั้นแม่ครัวจึงได้นำผักท้องถิ่นมาปรุง ได้แก่ แกงเผ็ดซึ่งใช้มะเขือสีม่วงในท้องถิ่นผสมกับซุกินี ซึงจะมีรสชาติกรอบอร่อย นำปาปริก้ามาปรุงแทนพริกชี้ฟ้าแดง และใช้ใบโหระพาในท้องถิ่นมาปรุงแทน ซึ่งอาหารที่ปรุงออกมาถึงแม้ว่าจะไม่มีกลิ่นหอมและรสชาติอร่อยเท่ากับใช้ผักไทยแต่ก็เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า หลังจากได้ทดลองชิมอาหารไทย รายการสินค้าที่ลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อในทันที ได้แก่ เครื่องแกง หน่อไม้กระป๋อง กะทิ น้ำปลา อาหารประเภทแกงพร้อมรับประทาน ข้าวหอมมะลิ สำหรับรายการสินค้าประเภทผักสดประเภทมะเขือ ปาปริก้าส่วนใหญ่ลูกค้าจะไปเลือกซื้อในซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้าน

• เนื่องจากในช่วงการจัดกิจกรรม ผู้บริโภคเยอรมันยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาผลกระทบการระบาดของเชื้อ Ecoli ซึ่งมีสาเหตุมาจากถั่วงอก ดังนั้นกิจกรรมในครั้งนี้ได้งดปรุงรายการอาหารผัดไทย ซึ่งเป็นเมนูยอดนิยมที่มีถั่วงอกเป็นส่วนผสมสำคัญ โดยให้คงเหลือแต่รายการอาหารแกงเขียวหวานและแกงเผ็ด ข้อสังเกตจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะเห็นได้ว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะยึดติดกับตราสินค้าที่แม่ครัวนำมาปรุงให้ชิมอย่างมาก โดยหลังจากที่ได้ทดลองชิมอาหารแล้วจะสอบถามข้อมูลและต้องการเลือกซื้อสินค้าเฉพาะตราที่แม่ครัวนำมาปรุงให้ชิมเท่านั้น ซึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคเยอรมันจำนวนมาก หากติดใจในรสชาติอาหารใดแล้ว จะไม่ค่อยยอมเปลี่ยนแปลงไปทดลองสินค้ารายการอื่นๆ สำหรับรายการสินค้าเครื่องดื่มที่นำมาให้ลูกค้าทดลองชิมหลังจากชิมรายการอาหารหลักได้แก่ เครื่องดื่มไวน์คูลเลอร์ (Wine Cooler) ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะคุ้นชินในรสชาติแล้วเพราะเป็นเครื่องดื่มที่มีลักษณะเดียวกับเครื่องดื่มเยอรมันที่มีชื่อว่า Wineschorle (ไวน์ผสมกับน้ำดื่มที่มีส่วนผสมแก็ส) ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องดื่มที่ผู้หญิงนิยมดื่มมากกว่า โดยเป็นไวน์ที่รสชาติค่อนข้างหวานและราคาจะถูกกว่าไวน์แบบทั่วไป สำหรับสินค้าถั่วอบกรอบรสชาติต่างๆ จะขายดีมากหลังจากที่ลูกค้าได้ทดลองชิม โดยเฉพาะถั่วอบกรอบรสวาซาบิจะขายดีที่สุด นอกจากนี้จะเห็นได้ว่ารายการสินค้าประเภทแกงพร้อมรับประทานที่วางจำหน่ายควบคู่กับเครื่องแกงสด จะไม่ค่อยได้รับความนิยมซื้อจากผู้บริโภคมากเท่ากับสินค้าเครื่องแกงสดที่ต้องนำไปปรุงเอง ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าสินค้าที่ปรุงรับประทานสดๆ จะให้คุณค่าทางสารอาหาร มีประโยชน์ต่อสุขภาพและปลอดภัยมากกว่า แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเยอรมันให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ
• สำหรับรายการของหวานข้าวเหนียวมะม่วงที่นำมาแจกให้ลูกค้าชิม จัดได้ว่าเป็นรายการอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเมื่อเทียบกับอาหารหลักอีกสองรายการ โดยสังเกตุได้จากระยะเวลาที่นำข้าวเหนียวมะม่วงมาแจกให้ลูกค้าชิมแต่ละรอบจะไม่ถึง 10 นาทีข้าวเหนียวมะม่วงก็จะหมดเกลี้ยง โดยผู้บริโภคจะชื่นชอบรสชาติหวานของมะม่วงน้ำดอกไม้ไทย และรสชาติข้าวเหนียวที่หอมหวานนุ่มอย่างมาก แต่ยังมีลูกค้าหลายรายที่ให้ความเห็นว่า มะม่วงไทยราคาสูงมาก (1.49 ยูโร/100 กรัม เฉลี่ยราคาลูกละประมาณ 5 - 6 ยูโรหรือประมาณ 225-270 บาท) ทั้งนี้ลูกค้าหลายรายสนใจวิธีการมูลข้าวเหนียว ซึ่งสำนักงานฯ ได้บรรจุไว้ใน Flyer สูตรปรุงอาหารไทยและแจกให้ลูกค้าผู้สนใจ
• สินค้าอีกรายการที่ลูกค้าสนใจซื้อเป็นจำนวนมากคือ น้ำมะพร้าว 100% บรรจุในกล่องที่ทำขึ้นคล้ายรูปมะพร้าวจริง โดยห้าง KaDeWe ได้สั่งมาทดลองจำหน่ายครั้งแรกตามคำแนะนำของสคร. เบอร์ลินในช่วงการจัดกิจกรรมในปี 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งสินค้าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคและขายดีเป็นอย่างมาก เพราะบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ดึงดูดลูกค้า และเป็นน้ำมะพร้าวจากธรรมชาติ 100% ทั้งนี้ ห้างฯแจ้งว่า ในช่วงที่ผ่านมาประสบปัญหาบริษัทผู้นำเข้าที่ห้างสั่งซื้อสินค้าไม่สามารถจัดส่งสินค้าดังกล่าวให้ได้ แต่หลังจากได้เปลี่ยนมาสั่งสินค้ากับบริษัทผู้นำเข้าสินค้าไทยรายใหม่ ก็มีสินค้ามาวางจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงการจัดกิจกรรมห้างฯ ได้นำสินค้าน้ำมะพร้าวมาจัดวางตกแต่งอย่างสวยงามบริเวณทางเดินหลักใจกลางห้าง ทำให้สินค้าขายดีมากๆ พนักงานห้างต้องมาเพิ่มสินค้าที่วางจำหน่ายวันละหลายรอบ
• ในส่วนของสินค้าของตกแต่งบ้านที่ลูกค้าชื่นชอบมากเป็นพิเศษและเข้ามาติดต่อขอซื้อ คือ ฝาชีที่ทำจากไม้ไผ่ เพราะนอกจากรูปแบบจะมีความสวยงาม ขนาดกระทัดรัดเหมาะแก่การใช้งานแล้ว ยังเป็นสินค้าที่ผลิตจากวัสดุจากธรรมชาติ ซึ่งผู้บริโภคให้ความเห็นว่าต้องการของใช้ที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติมากกว่าพลาสติก สินค้าลักษณะนี้จึงน่าจะทำตลาดได้ดีในเยอรมนี โดยที่ผู้ผลิตไทยควรคำนึงถึงการรักษามาตรฐานสินค้าให้ได้อย่างสม่ำเสมอ

          1. มะม่วงน้ำดอกไม้                             6. ถั่วอบกรอบทานเล่น
          2. เครื่องแกง                                 7. ข้าวหอมมะลิ
          3. น้ำมะพร้าวจากธรรมชาติ 100%                  8. กุ้งกุลาดำ
          4. กะทิ                                      9. ซอสปรุงรสต่างๆ
          5. น้ำจิ้มไก่                                  10. ซุปพร้อมรับประทานประเภทต้มข่าไก่ ต้มยำกุ้ง


5. ตราสินค้าไทยที่วางจำหน่ายในห้าง KaDeWe ได้แก่

5.1 สินค้าอาหารแห้ง/กระป๋อง

• ตรา Lobo สินค้า เครื่องแกง น้ำจิ้ม ซอสต่างๆ 11 รายการ
• ตรา Asian Home Gourmet สินค้า ซุปพร้อมรับประทาน ซอสปรุงรส เครื่องแกง จำนวน 57 รายการ
• ตรา Chaokoh สินค้า กะทิ จำนวน 3 รายการ
• ตรา Exotic Food สินค้า ซอสปรุงรส น้ำจิ้ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เส้นก๋วยเตี๋ยว เครื่องแกง กะทิ ผลไม้กระป๋อง ผักกระป๋อง อาหารพร้อมรับประทาน จำนวน 53 รายการ
• ตรา Flying Goose สินค้า ซอสปรุงรส เครื่องเทศกระป๋อง น้ำจิ้ม จำนวน 7 รายการ
• ตรา Mama สินค้า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต่างๆ จำนวน 5 รายการ
• ตรา Wai Wai สินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต่างๆ จำนวน 10 รายการ
• ตรา Mei Asia (Heuschen & Schrouff) สินค้า ก๋วยเตี๋ยว แผ่นปอเปี๋ย ของขบเคี้ยว ซอสปรุงรส เครื่องแกง น้ำจิ้ม กะทิ ขนมทานเล่น อาหารพร้อมรับประทาน เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร จำนวน 39 รายการ
• ตรา Golden Ph๖nix สินค้าข้าว ข้าวเหนียว จำนวน 2 รายการ
• ตรา Healthy Boy สินค้าซอสปรุงรสต่างๆ จำนวน 17 รายการ
• ตรา Cock สินค้าน้ำจิ้มไก่ จำนวน 3 รายการ
• ตรา Suree สินค้าน้ำจิ้มไก่ จำนวน 2 รายการ
• ตรา Thin Boy สินค้าน้ำมันหอย ซีอิ้วหวาน จำนวน 4 รายการ
• ตรา Mae Ploy สินค้าเครื่องแกง จำนวน 4 รายการ
• ตรา Windmill สินค้าซอสปรุงรส จำนวน 3 รายการ
• ตรา Aloe Vista สินค้าเครื่องดื่มอโรเวรา จำนวน 4 รายการ
• ตรา Singha / ตรา Chang / สินค้าเครื่องดื่มเบียร์
• ตรา Mekhong สินค้าเครื่องดื่มสุรา
• ตรา Coco Loto สินค้าเครื่องดื่มน้ำผลไม้
• ตรา King Bran สินค้าน้ำมันรำข้าว
• ตรา Snack Jack สินค้าขนมขบเคี้ยวถั่วอบกรอบ
• ตรา Kao Shong สินค้าขนมขบเคี้ยวถั่วอบกรอบ จำนวน 11 รายการ
• ตรา Urlaub im Glas สินค้าแย้มป้ายขนมปังรสสับปะรด มะละกอ มะม่วง มะพร้าว จำนวน 4 รายการ
• ตรา Peal Royal สินค้าเครื่องดื่มน้ำมะพร้าวสด
• ตรา Wine Cooler สินค้าเครื่องดื่มไวน์ขาว/แดงผสมน้ำดื่มแก็ส

5.2 อาหารทะเล ได้แก่ ปลานกแก้ว ปลากระพง กุ้งกุลาดำ ปลาทูน่า ปลาซาบะทอง ฯลฯ

5.3 ผัก/ผลไม้สด ได้แก่ มะม่วง เงาะ มังคุด ขนุน มะขามหวาน มะละกอ แก้วมังกร เสาวรส ตะไคร้ ขิง ข่า พริก ฯลฯ

• กิจกรรมส่งเสริมการขายที่จัดขึ้นในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจเหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาห้างKaDeWe มียอดการสั่งซื้อสินค้าไทยมาวางจำหน่ายในงาน คิดเป็นจำนวนเงิน 52,000 ยูโร หรือประมาณ 2,340,000 บาท และคาดว่าห้างจะมียอดสั่งซื้อสินค้าไทยใน 1 ปี คิดเป็นจำนวนเงิน170,000 ยูโร หรือประมาณ 7,650,000 บาท โดยผู้บริหารฝ่ายจัดซื้อห้าง KaDeWe ได้แสดงความพึงพอใจเกี่ยวกับผลสำเร็จของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นอย่างดี และให้ความเห็นว่าอาหารไทยยังคงเป็นเทรนด์ (Trend) ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเยอรมันเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยปกตินโยบายการสั่งซื้อสินค้ามาวางจำหน่ายของ ห้าง KaDeWe จะยึดสินค้าคุณภาพสูงเป็นอันดับแรก สำหรับสินค้าอาหารต้องเป็นสินค้าอาหารที่มีรสชาติดี มีบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามสะดุดตาผู้บริโภคและควรเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ โดยราคาสินค้าจะเป็นข้อพิจารณาอันดับรองลงมา ซึ่งที่ผ่านมาสินค้าอาหารไทยที่ห้างสั่งซื้อมาวางจำหน่ายเป็นสินค้าคุณภาพสูงเป็นที่น่าพอใจและยังไม่เคยได้รับการร้องเรียนจากผู้ซื้อแต่อย่างใด โดยปกติห้างจะไม่ได้นำเข้าสินค้าอาหาร ผัก/ผลไม้จากไทยโดยตรงแต่จะสั่งซื้อผ่านบริษัทผู้นำเข้า/ผู้ค้าเยอรมันจำนวน 37 บริษัท จากผลสำเร็จการจัดกิจกรรมในปีนี้ห้างได้แจ้งความประสงค์ต้องการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับสำนักงานฯ อีกในปีต่อไป และแจ้งว่าในปีนี้ห้างได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าอาหารร่วมประเทศอื่นๆ อาทิ สหรัฐอเมริกา อิตาลี แต่รูปแบบการนำเสนอสินค้าอาหารไทยโดยผ่านขั้นตอนการสาธิตปรุงอาหารให้ลูกค้าชิมพร้อมการจัดเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาคอยให้คำอธิบายขั้นตอนการปรุงและข้อมูลสินค้าอย่างละเอียดและโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดตกแต่งชั้นวางจำหน่ายสินค้าภายในศาลาไทยที่ก่อสร้างขึ้นมาอย่างสวยงามเพื่อให้ได้บรรยากาศความเป็นไทย สามารถดึงดูดความสนใจให้ลูกค้าเข้ามาชมพร้อมทดลองชิมและเลือกซื้อสินค้าอาหารไทยได้อย่างมาก
• สำนักงานฯ ได้รับแจ้งจากห้างฯ ว่า สินค้าอาหารไทยที่สั่งซื้อมาวางจำหน่ายในปีนี้ประสบปัญหาสินค้าที่สั่งซื้อไปไม่สามารถส่งเข้ามาวางจำหน่ายได้สูงถึง 30 รายการ ซึ่งรายการสินค้าผักสดไทยจะประสบปัญหามากที่สุด ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าในช่วงที่ผ่านมาสินค้าผักไทยจำนวน 16 รายการที่มีปัญหาศัตรูพืชปนเปื้อนและกรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการมาตรการควบคุมพิเศษระบบบัญชีรายชื่อ (Establishment List) การส่งออกผักไปยุโรป ทำให้ไม่มีผักสดไทยดังกล่าวส่งออกมาในตลาดเยอรมนีตั้งแต่ 14 มีนาคม 2554 ส่งผลกระทบต่อการขาดแคลนผักไทยในห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ตร้านจำหน่ายอาหารเอเซีย ร้านอาหารไทย ผู้บริโภคชาวไทยและผู้รักการรับประทานอาหารไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะร้านอาหารไทยบางแห่งได้ตัดรายการอาหาร อาทิ ผัดกระเพรา แกงเลียง ซึ่งใช้ใบกระเพราและใบแมงลักเป็นวัตถุดิบสำคัญ ออกไปจากเมนูของร้าน เพราะถึงแม้ว่าขณะนี้มีบริษัทผู้ส่งออกไทยจำนวน 4 รายที่ได้รับอนุญาตให้สามารถส่งผักไทยมาจำหน่ายในเยอรมันและยุโรปได้แล้วหลายรายการ แต่เนื่องจากปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นติดต่อกันเป็นระยะเวลานานและได้สร้างความเดือดร้อนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้นำเข้าเยอรมันเป็นอย่างมาก จึงได้มีการหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวคือ ได้มีการนำผักไทยประเภทใบโหระพามาทดลองปลูกในเยอรมันและเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกไทยควรตระหนักในเรื่องนี้อย่างมาก รวมทั้งปัญหาการขาดแคลนสินค้ามะเขือไทย ส่งผลให้ร้านอาหารไทยร้อยละ 95 หันไปซื้อมะเขือจากอินเดีย มาปรุงในรายการอาหารแกงเผ็ดและแกงเขียวหวานแทน โดยราคามะเขือจากไทยประมาณ 2 ยูโรต่อ 100 กรัม ในขณะที่มะเขือจากอินเดียราคา 0.75 ยูโรต่อ 100 กรัม
• ในขณะนี้ มีบริษัทผู้ส่งออกไทยที่ได้รับอนุญาตให้สามารถส่งออกผักไทยมาจำหน่ายในตลาดยุโรปได้4 บริษัทคือ 1). Swift Co.,Lt. ได้รับอนุญาตเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 54 เป็นสินค้าใบโหระพา กระเพรา มะเขือพวง มะเขือเหลือง พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู 2). Thai World Import Export Co.,Ltd ได้รับอนุญาตเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 54 เป็นสินค้าใบโหระพา มะเขือพวง 3). Koener Agro Export ได้รับอนุญาตเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 54 เป็นสินค้าพริกชี้ฟ้า มะเขือพวง 4). Agri Fresh Co.,Ltd. เป็นสินค้าใบกระเพรา ใบโหระพา และพริกชี้ฟ้า
• ห้าง KaDeWe แจ้งว่าสินค้าอาหารที่นำมาจัดวางจำหน่ายในช่วงกิจกรรม จะยังคงมีวางจำหน่ายให้ลูกค้าอยู่ตลอดในบริเวณชั้น 6 ของห้าง โดยเฉพาะสินค้าขายดีประเภทน้ำมะพร้าว มะม่วงน้ำดอกไม้เครื่องแกง กะทิ ถั่วขบเคี้ยวทานเล่น น้ำจิ้มไก่ ซอสปรุงรส ฯลฯ สำหรับสินค้าประเภทแยมผลไม้ที่ได้สั่งมาวางจำหน่ายเป็นครั้งแรก ได้รับความสนใจซื้อจากลูกค้าพอสมควร ถึงแม้ว่าลูกค้าบางรายจะติงว่าราคาค่อนข้างสูงก็ตาม (ปริมาณ 125 กรัมราคา 5.98 ยูโรหรือประมาณ 270 บาท ขณะที่แยมผลไม้ทั่วไปในท้องตลาดราคาประมาณ 1-2 ยูโร) แต่ทั้งนี้ห้างให้ความเห็นว่าเป็นสินค้าใหม่ที่น่าสนใจ รสชาติดี และบรรจุในขวดแก้วมีสีสรรสวยงาม ทั้งนี้ห้างได้สั่งซื้อมาวางจำหน่ายเพิ่มอีก สำหรับสินค้าWine Cooler เป็นสินค้าที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าน้อยที่สุด ถึงแม้ว่าในช่วงการจัดกิจกรรมห้างได้จำหน่ายสินค้าดังกล่าวในราคาพิเศษ คือจากราคาขวดละ 1.98 ยูโรลดเหลือราคาขวดละ 0.99 ยูโรก็ตาม โดยห้างฯ ให้ความเห็นว่า รสชาติของสินค้าไม่เป็นที่ถูกปากชาวเยอรมัน
• สินค้าที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติเป็นเทรนด์ของตลาดในเยอรมัน ทั้งนี้ จะต้องคำนึงถึงการออกแบบให้สวยงามทั้งรูปแบบและประโยชน์ในการใช้งาน อาทิ สินค้าฝาชีไม้ไผ่สานที่นำมาจัดโชว์ ได้รับความสนใจจากผู้ที่มาชมงานมาก มีหลายรายจะขอซื้อ และสินค้าน้ำมะพร้าวจากธรรมชาติ 100% ที่สามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าจำนวนมาก และตัดสินใจซื้อสินค้าทันที เพราะรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ที่สะดุดตามและสวยงาม

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน

ที่มา: http://www.depthai.go.th

---