บริษัท Sony, Toshiba และ Hitachi ได้ควบรวมการผลิต LCD ของแต่ละบริษัทเข้าด้วยกันตั้งเป็นบริษัทใหม่ โดยบริษัทใหม่มีชื่อว่า Japan Display และได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจำนวน 2 แสนล้านเยน จาก Innovation Network Corp. of Japan (INCJ) ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนของรัฐบาล
INCJ และบริษัททั้ง 3 รายได้บรรลุข้อตกลงในการควบรวมกิจการ โดยแต่ละบริษัทจะโอนบริษัทลูกคือ Hitachi Display,Sony Mobile Display และ Toshiba Mobile Display เข้ารวมกันเป็น Japan Display โดย INCJ จะถือหุ้นร้อยละ 70 และ Hitachi,Sony, Toshiba ถือหุ้นร้อยละ 10
หลังจากการรวมกันจะทำให้ Japan Display มีส่วนแบ่งตลาดโลกเป็นร้อยละ 22 จากเดิมที่ Toshiba มีเพียงร้อยละ 9.2 Hitachi ร้อยละ 6.3 และ Sony ร้อยละ 6 ทำให้เป็นเจ้าตลาดโดยชนะ Sharp ที่มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 15 ยอดขายคิดเป็นยูนิต Japan Display จะมีส่วนแบ่งร้อยละ10 ในขณะที่ชาร์ปร้อยละ 7 คาดว่าจะมียอดขาย 570 พันล้านเยนภายในปีนี้ และถึง 750 พันล้านเยนในปี 2015
2.1 บริษัท Panaso nic วางแผนจะสร้างโรงงานผลิตพัดลมเพดานที่ประเทศอินเดีย พัดลมเพดานใช้มากในบ้านพักอาศัย และมียอดขายถึง 17.5 ล้านยูนิตต่อปี บริษัทหวังที่จะได้ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 10 โดยจำหน่ายประมาณ 2 ล้านยูนิตภายในปี 2013 ส่วนยอดขายเครื่องปรับอากาศของ Panasonic ในอินเดียเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าจะเปิดโรงงานในอินเดียภายในปีหน้า
นอกจากนี้บริษัทยังวางแผนจะเพิ่มยอดผลิตตู้เย็นถึง 800,000 ยูนิตในเวียดนามที่โรงงานชานเมืองฮานอย ภายในตุลาคม 2012 และจะสร้างโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าจำนวน 800,000 ยูนิต เช่นกันภายในเดือนเมษายน 2013 รวมทั้งตั้งศูนย์ค้นคว้าวิจัยสินค้า ซึ่งรวมการวางแผนการผลิต การจัดซื้อ ตลาดเวียดนามคาดว่าจะเป็นตลาดใหญ่โดยมีประชากรถึง 85 ล้านคนซึ่งมากกว่าประเทศไทย และอัตราการเติบโตของตลาดสูงกว่าไทย แม้ว่าสัดส่วนของประชากรเพียงร้อยละ 12.6 มีเครื่องซักผ้าในบ้าน และ ร้อยละ 29.9 มีตู้เย็น แต่จากค่าจ้างแรงงานที่ถูกกว่าไทยเกือบครึ่ง รวมทั้งมีการศึกษาสูง ทำให้บริษัทผู้ผลิตสามารถได้แรงงานฝีมือที่ราคาถูก
2.2 Toshiba จะเริ่มจำหน่ายเครื่องปรับอากาศที่สามารถควบคุมด้วยเสียง (Voicecontroll ed A/C) เป็นรายแรกของโลกในเดือนพฤศจิกายน โดยผู้ใช้สามารถพูดสั่งปรับอุณหภูมิได้ภายหลังจากตบมือ 3 ครั้ง หรือกดปุ่มบนรีโมตเพื่อให้เครื่องจำเสียง โดยไมโครโฟนที่ควบคุมสามารถจำเสียงที่แตกต่างกันได้ถึง 26 เสียง ราคาจำหน่ายอยู่ที่เครื่องละ 210,000-300,000 เยน ตั้งเป้าจำหน่ายที่เดือนละ 20,000 เครื่อง
2.3 So ny จะออกเครื่องเล่น Walkman ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ โดยเครื่องนี้จะสามารถใช้ LAN ที่จะดาวน์โหลด เพลง วีดิโอ เกมส์ และซอฟต์แวร์ต่างๆ ขนาด 64 GBจำหน่ายที่ราคา 43,000 เยน และ 16 GB ราคา 28,000 เยน แม้ว่าผู้บริโภคปัจจุบันนิยมที่จะฟังเพลงจากสมาร์ทโฟนมากขึ้น แต่บริษัทคาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายจากคุณภาพของเสียง
ยอดการส่งออกสินค้าอิเล็คทรอนิกส์ลดลงอย่างต่อเนื่องในเดือนกรกฎาคม 2554 มีมูลค่า 8.41 แสนล้านเยน ลดลง ร้อยละ 11.5 จากเดือนกรกฎาคม ปี 2553 โดยสินค้าเกือบทุกหมวดปรับตัวลดลง ได้แก่ เครื่องเสียงลดลงร้อยละ 18.1 คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ลดลงร้อยละ 13.1 เครื่องมืออิเล็คทรอนิกส์ ลดลงร้อยละ 15 อะไหล่และส่วนประกอบ ลดลงร้อยละ 15.3 ส่วนสินค้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ส่วนบุคคล เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.1 ระบบโทรคมนาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 92 .2 เครื่องจักรธุรกิจ เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.6
ส่วนการนำเข้าสินค้าอิเล็คทรอนิกส์ในเดือนมิถุนายน 2554 ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกันมีมูลค่า 6.79 แสนล้านเยน โดยลดลงร้อยละ 6.3 จากเดือนมิถุนายน ปี 2553 สินค้าเกือบทุกหมวดปรับตัวลดลง ได้แก่ เครื่องเสียงลดลงร้อยละ 25.5 ระบบโทรคมนาคมลดลงร้อยละ 26.2 คอมพิวเตอร์ลดลง ลดลงร้อยละ 10.6 ส่วนสินค้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ หลอดไฟ จากความต้องการที่สูงขึ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ81.5 อุปกรณ์สื่อสารเพิ่มขึ้นร้อยละ 39 และอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2
สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ นครโอซากา
ที่มา: http://www.depthai.go.th