กรมการค้าต่างประเทศของอินเดียออกประกาศเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2554 ห้ามส่งออกน้ำมันที่ใช้บริโภคต่อไปอีก 1 ปีจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2555 ยกเว้นน้ำมันพืชบางชนิด เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันละหุ่ง เป็นต้น หลังจากที่ห้ามส่งออกมาตั้งแต่ วันที่ 17 มีนาคม 2551
อินเดียเป็นตลาดสำหรับสินค้าน้ำมันที่ใช้บริโภค(Edible Oil) ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐฯ จีน และบราซิล ทั้งนี้ ด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ จนผ่านหลัก 1,200 ล้านคน ทำให้อัตราการบริโภคน้ำมันฯเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อีกทั้ง ปัจจุบันอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียอยู่ในระดับที่สูง ธุรกิจอุตสาหกรรมขยายตัว กอร์ปกับชาวอินเดียมีรายได้มากขึ้น ความต้องการใช้น้ำมันฯจึงยิ่งมากขึ้น ซึ่งเป็นเหตุให้น้ำมันฯไม่เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ ทางการอินเดียจึงต้องมีประกาศห้ามส่งออกฯดังกล่าว แต่ไม่ได้ห้ามนำเข้าฯ
อินเดียถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีการนำเข้าน้ำมัน Edible Oil มากที่สุดในโลก โดยส่วนใหญ่จะนำเข้าน้ำมันปาล์ม และน้ำมันถั่วเหลือง รองลงมาคือน้ำมันถั่วลิสง น้ำมัน มาสตาร์ด และน้ำมันพืชอื่นๆ ซึ่งในแต่ละปีจะมีการบริโภค Edible Oil เหล่านี้มากกว่า 10 ล้านตัน ทั้งนี้ ผู้บริโภคฯไม่ใช่เฉพาะประชาชนเท่านั้น แต่หมายความรวมถึงอุตสาหกรรมต่างๆที่ต้องใช้น้ำมันฯดังกล่าว เช่น อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป ภัตราคารและโรงแรม เป็นต้น
น้ำมันพืชเป็นที่นิยมบริโภคมากของประชาชนชาวอินเดีย และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากประชากรส่วนใหญ่เป็นมังสวิรัต อย่างไรก็ตามโดยเฉลี่ยแล้วใน 1 ปีชาวอินเดีย 1 คนจะบริโภค Edible Oil ประมาณ 11.2 กิโลกรัมซึ่งถึอว่ายังไม่สูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ปากีสถาน ซึ่งมีสถิติอยู่ที่ประมาณ 16.1 กิโลกรัม
ดังนั้น สินค้าน้ำมันที่ใช้บริโภคฯโดยเฉพาะน้ำมันพืช ก็น่าสนใจสำหรับนักลงทุนไทยที่พร้อมจะเข้ามาบุกตลาดอินเดีย เนื่องจากน้ำมันฯเป็นสิ่งจำเป็นต้องใช้ฯ ทั้งในระดับครัวเรือน และระดับอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าและบริการต่างๆ
ที่มา: http://www.depthai.go.th