นายสมชาติ สร้อยทอง ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมพัฒนาธุรกิจ พร้อมคณะได้เดินทางเยือนสาธารณรัฐอิตาลี ระหว่างวันที่ 8 - 9 กันยายน 2554 โดยได้พบปะหารือ/แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นด้านธุรกิจสร้างสรรค์และนวัตกรรมทางธุรกิจกับสมาคมและบริษัทในอิตาลีต่าง ๆ ดังนี้
1. Promos เป็นหน่วยงานพิเศษสำหรับการจัดกิจกรรมระหว่างประเทศของหอการค้าประจำเมืองมิลาน ดำเนินงานทั้งในระดับสากล และระดับท้องถิ่น ภายใต้นโยบายพื้นฐานในการสนับสนุนการแข่งขัน และการพัฒนาของแคว้นลอมบาร์เดียในตลาดต่างประเทศ อีกทั้งเสริมสร้างศักยภาพของเมืองมิลาน และแคว้นลอมบาร์เดียในการดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ
2. Assolombarda เป็นสมาคมการค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลีโดยมีสมาชิกที่ตั้งอยู่ในเขตมิลานกว่า 6,000 บริษัท โดยทำหน้าที่เป็นตัวแทนปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทสมาชิกในการทำธุรกิจ อีกทั้งสนับสนุนการบริหารจัดการของการทำธุรกิจ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ และจัดหาคู่มือที่มีประสิทธิภาพ โดยสมาชิกของสมาคมร้อยละ 30 เป็นบริษัทในอุตสาหกรรมโลหะและเครื่องจักรกล และร้อยละ 30 เป็นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
3. สมาคมการค้าระหว่างประเทศแห่งอิตาลี (AICE) คือสมาคมที่ไม่แสวงหาผลกำไรทำงานเพื่อส่งเสริมการทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศอิตาลีและต่างประเทศ ก่อตั้งมานานกว่า 60 ปี AICE ทำหน้าที่เป็นผู้แทนบริษัทอิตาเลียนในการดำเนินกิจกรรมการค้าทุกประเภทกับต่างประเทศ อีกทั้งยังสนับสนุนบริษัทต่างชาติที่สนใจทำธุรกิจกับบริษัทอิตาเลียนโดยให้ความช่วยเหลือในการบริษัทคู่ค้าอิตาเลียนที่มีศักยภาพ
สรุปผลการเข้าพบของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้รับความรู้จากหน่วยงานต่างๆ เกี่ยวกับรูปแบบการช่วยเหลือนักธุรกิจอิตาเลียน และการให้การสนับสนุนบริษัทอิตาลีขนาดเล็กและกลาง (SME) ซึ่งหน่วยงานทั้ง 3 หน่วยงานได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบการทำงานของทั้ง 3 หน่วยงานในภาพรวม ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจสามารถนำไปปรับใช้กับระบบการทำงานของกรมฯ ต่อไปได้
ในโอกาสนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ถือโอกาสไปเยี่ยมชมสตูดีโอ Massimo Zucchi ซึ่งมีนาย Massimo Zucchi เป็นเจ้าของ โดยได้พบกับนักออกแบบซึ่งทำงานในสตูดีโอนี้ ซึ่งได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าธรรมดาให้มีรูปแบบหรูหรามากขึ้น ซึ่งทางกรมพัฒนาธุรกิจสามารถนำข้อมูลที่ได้รับดังกล่าวไปถ่ายทอดให้กับผู้ประกอบการไทย เพื่อเพิ่มการแข่งขันในตลาดโลกต่อไป
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมิลาน
ที่มา: http://www.depthai.go.th