ภาพรวมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ประเทศฮังการี

ในระหว่างปี 2007-2010 ผลผลิตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มีส่วนสนับสนุนค่า GDP ของประเทศที่ร้อยละ 5 และมีส่วนแบ่งร้อยละ 24.5 ของภาคอุตสาหกรรมโดยรวม มีการจ้างงาน 92,000 คน ประกอบด้วยผู้ประกอบการประมาณ 8,300 บริษัท เป็นบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่จำนวน 170 แห่ง (เช่น Electrolux, Flextronics, Foxconn, IBM, Jabil, National Instruments, Nokia, Philips,Samsung) โดยส่วนใหญ่ตั้งโรงงานผลิตอยู่นอกบูดาเปสต์ (เช่น Szekesfehervar, Szombathely, Zalaegerszeg, Komarom, Vac ฯลฯ )

เมื่อพิจารณาถึงระดับมูลค่าเพิ่มของผลผลิต อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในฮังการี นับว่าเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำของโลก โดยมีอันดับที่ 4 รองจากเกาหลี ฟินแลนด์ และญี่ปุ่น แม้ว่า 90% ของการผลิตจะมาจากบริษัทข้ามชาติ แต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์นั้นล้วนแล้วแต่เกิดจากทักษะความรู้และภูมิปัญญาของบริษัทชาวฮังการีแทบทั้งสิ้น

แม้ว่าวิกฤตเศรษฐกิจทางการเงินจะมีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับสาขาอื่นๆแล้ว อุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์ได้รับผลกระทบน้อยกว่ามาก ยืนยันได้จากข้อมูลทางการผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ ที่ยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับ เครื่องมือทางการแพทย์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ที่ยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทข้ามชาติอาจจะย้ายฐานการผลิตชิ้นส่วนสำคัญ จากประเทศในแถบเอเชียตะวันตก คืนสู่ฮังการี เนื่องจากสาเหตุของค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ปัญหาที่ยังไม่สามารถหาทางแก้ไข และความไม่ลงตัวทางด้านสิทธิบัตรอุตสาหกรรม เป็นต้น

ในปี 2010 ผลผลิตอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.7 ในขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมเพิ่มขึ้นเพียง 15% จึงนับได้ว่าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในฮังการี เป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการแข่งขัน ทั้งทางด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพและความคุ้มทุน ใกล้เคียงกับคู่แข่งในเขตยุโรปตะวันตก

อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นหมวดย่อยๆ เช่นการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การสื่อสาร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ และเครื่องมือที่ใช้ในการผลิตยานยนต์ มีตลาดส่งออกที่สำคัญคือยุโรปกลางและตะวันตก และมีแนวโน้มที่จะขยายไปในประเทศแถบเอเชียตะวันออกมากขึ้น

สคร. ณ กรุงบูดาเปสต์

ที่มา: http://www.depthai.go.th