เทศกาลงานสัปดาห์แฟชั่นของเมืองมิลาน Milan Fashion Week จะจัดขึ้นทุกปี โดยครั้งนี้จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 21-27 กันยายน 2011 ซึ่งแสดงคอลเลคชั่นสำหรับสตรีในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนของปี 2012 โดย มีดีไซเนอร์ชื่อดังทั้งอิตาเลียนและต่างชาติ 74 ราย กว่า 70 แบรนด์ชั้นนำที่นำคอลเลคชั่นใหม่ 119 คอลเลคชั่น มาจัดแสดงทั่วเมืองมิลาน โดยมีจุดแสดงสำคัญได้แก่ Fashion Hub (ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิลาน ประกอบไปด้วย 3 อาคารเชื่อมต่อกันด้วยพรมแดงเป็นสัญลักษณ์ จาก Palazzo Giureconsulti, Palazzo Clerici ถึง Palazzo Filologico) Piazza Duomo , Piazza Cordusio ,Cairoli, Corso Magenta, Piazza Oberdana และ Piazza San Babila และหน้าต่างร้านค้าแบรนด์ดังต่างๆ ที่เข้าร่วมเทศกาลครั้งนี้ทั่วเมืองมิลาน โดยบรรยากาศระหว่าง สัปดาห์งานแสดง ณ จุดแสดงหลัก แคทวอล์ก และบนท้องถนน ดูคึกคักกว่าปกติ ด้วยมีสื่อมวลชนกว่า 2,000 ราย จาก 37 ประเทศทั่วโลก นักท่องเที่ยว ตลอดจนผู้ซื้อและผู้ชมที่เดินกันขวักไขว่
ทั้งนี้ การนำเสนอหลักของงาน Milan Fashion Week ประกอบไปด้วย การจัด Fashion Shows ของแบรนด์ต่างๆ กว่า 80 walkways โดยไม่ซ้ำเวลากัน ทุกวัน เริ่มต งแต่เวลา 09.30 น. นอกจากนั้น ยังมี Presentations ของแบรนด์ต่างๆ อีกกว่า 70 รายการ และ Events by appointment ได้แก่ งานเปิดร้านบูติค Gucci/Louis Vuitton บนถนนแบรนด์เนม Montenapoleone หรือ ค อกเทลเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม ของ Bulgari/Trussardi อีกกว่า 50 จุดในเมืองมิลาน
Milan Fashion Week จัดโดย Camera Nazionale della Moda Italiana (www.cameramoda.it) มีจุดมุ่งหมายให้ แฟชั่นดีไซเนอร์, fashion houses และแบรนด์ต่างๆ ได้นำคอลเลคชั่นล่าสุดของตนมาแสดง ประชันบน walkway เพื่อให้ผู้ซื้อและสื่อได้ชมเทรนด์ล่าสุดของแต่ละค่าย โดยงาน Fashion Week ที่สำคัญและเด่นที่สุดจัดขื้นใน 4 เมืองใหญ่ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำเมืองแห่งแฟชั่นของโลกได้แก่ New york , London, Milan และ Paris นอกจากนี้ ยังมีงาน Fashion Week ที่น่าสนใจอื่นๆ จัดขึ้นที่ Tokyo, Sao Paulo, Los Angeles, Hong Kong , Buenos Aires, Singapore และ Toronto
เหมือนทุก ๆ ปี งาน Milan Fashion Week เปิดโอกาสสำหรับนักออกแบบร นใหม่ โดยได้จัดสรรพื้นที่ สำหรับนำเสนอผลงานของผู้ชนะการประกวดการออกแบบ ได้แก่ การประกวดโครงการ N-U-De ซึ่งเป็นโครง การสร้างสไตสลิสต์รุ่นใหมให้เกิดขึ้นในวงการ ผลงานของผู้ชนะ Next Generation และ Mittelmoda Award ซึ่งครั้งนี้เป็นผลงานของนักออกแบบอิตาเลียน 2 คนและรัสเซีย 1 คนคือ Mauro Gasperi , Francesca Liberatore และ Sergei Grinko นอกจากนั้น ยังมีนิทรรศกาลที่จัดแสดงโดยสไตสลิสต์รุ่นใหม่จากยูเครน และการแสดงผลงานดีไซน์รักษ์สิ่งแวดล้อม(Green Technology) จาก So Critcal So Fashion
นอกจากนั้น สำหรับผู้ที่ชอบการถ่ายภาพและแฟชั่น CNMI ร่วมกับ Canon ได้จัดการประกวดภาพถ่าย แฟชั่นที่เกิดขึ้น ในโครงการ Catch and Color ภาพที่ชนะการประกวดจะได้ลงในเวบไซต์ของ CNMI และ Canon
อุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญของอิตาลี ในอดีตมียอดขายต่อปีประมาณ 7 หมื่นล้านยูโร แต่จากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นปี 2008 ส่งผลให้ยอดขายลดลงถึง 15% ในปี 2009 แต่เริ่มปรับตัวดีขึ้นในปี 2010 จนถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากปี 2010 ซึ่งเป็นผลจากการบริโภคภายในประเทศอ่อนตัวไม่เฉพาะในอิตาลีแต่ครอบครอบคลุมทั่วทั้งยุโรปโดยเฉพาะในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สื่อให้เห็นถึงภาวะขาดความเชื่อมั่นอย่างมากในระบบเศรษฐกิจ ส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เทียบกับปี 2010 ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเดิม
คอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อนปี 2012 ที่จัดแสดงในงาน Milan Fashion Week ที่ผ่านมา หลายแบรนด์ได้ปรับตัวให้เหมาะสมกับวิกฤติเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งปีนี้ กลุ่มสินค้าหรูหรา(Luxury goods) เป็นแม่งานของคอลเลคชั่นนี้ โดยมีแนวโน้มรูปแบบดูประนีประนอมไม่หวือหวาเกินไป ใส่ง่าย ดีไซน์ที่ออกมาคำนึงถึงต้นทุนและราคาที่จะจำหน่ายมากขึ้น ซึ่งหลายๆ แบรนด์ดังได้นำเสนอคอลเลคชั่นที่จะทำให้ลูกค้าพอใจโดยคำนึงถึงทั้งกระเป๋าและความจำเป็นของลูกค้า กลยุทธ์การตลาดและดีไซน์แต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นของตนเอง ซึ่งแบรนด์ดังได้แก่ Dior, Chanel, Valentino, Stephane Rolland และอื่นๆ ได้หันไปทำตลาดแถบเอเซียซึ่งช่วยกระตุ้นอัตราการเติบโตเกือบร้อยละ 50 (ข้อมูลจาก Ledbury Research) และตลาดใหม่มาแรงอย่างกลุ่มประเทศอาหรับโดยเฉพาะซาอุดิอาราบีย คูเวต กาตาร์ และอิมิเรตส์ ซึ่งปัจจุบันถือเป็น Top buyers ที่โตเร็วมากในช่วง 2-3 ปีหลังนี้
อย่างไรก็ตาม หลายแบรนด์ได้นำเสนอทางเลือกเพื่อดึงดูดลูกค้าเช่น Ferragamo ผู้ผลิตรองเท้าแบรนด์ดังของอิตาลีออกคอลเลคชั่นเครื่องประดับ jewelry ในราคา 300-15,000 ยูโร , Antonio Marras หรือ Alessandro Oteri ผู้ผลิตรองเท้าชื่อดังมุ่งหาลูกค้าที่ชอบความเป็น unique โดยจุดขายตรงที่รับสั่งทำรองเท้า handmade แบบ made-to-order, Domenico Dolce & Stefano Gabbana ประกาศยกเลิกแบรนด์ D&G สำหรับวัยรุ่นเพื่อตั้งใจทำงานให้กับแบรนด์หลัก Dolce&Gabbana ระดับ high-end อย่างเดียว โดยได้ทิ้งท้ายคอลเลคชั่นสุดท้ายของ D&G ในงาน Milan Fashion Week ครั้งนี้ด้วย
งาน Milan Fashion Week คอลเลคชั่นสตรีสำหรับฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อนปีหน้า มิลานได้ประกาศเปลี่ยนแปลงวันในการจัดงานในเดือนกันยายน โดยกำหนดเป็นวันที่ 19-25 กันยายน 2012 ซึ่งคาบเกี่ยวกับการจัดงาน Fashion Week ในนิวยอร์ก(13-20 กันยายน 2012) และลอนดอน(21-27 กันยายน 2012 )
Giorgio Armani เป็นแบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับระดับต้นของอิตาลีและโลก ซึ่งเน้นเจาะกลุ่มตลาด Hign End โดยทุกปี Giorgio Armani จะเข้าร่วมงาน Milan Fashion Week โดยในโอกาส Milan Fashion Week ครั้งนี้สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมิลาน มีโอกาสเข้าชมการเดินแบบของ Armani โดยคอลเล็คชั่นได้รับแรงบันดาลใจจากท้องทะเล ไข่มุก หอย ผิวทะเล ประการัง ซึ่งมีการนำผ้าไหมมาตัดเย็บ ซึ่งเน้นโทนสีฟ้าเข้ม น้ำเงิน ขาวนวล เขียว ครีม เนื้อ ดำ เน้นความหรูหรา เรียบง่าย ใช้งานได้จริง โดยบรรยากาศภายในงานได้รับความสนใจจากดีไซน์เนอร์ สื่อมวลชน และคนในแวดวงแฟชั่นเป็นอย่างมาก
งาน Fashion Week จะจัด 2 ครั้งต่อปี และปกติจะเริ่มต้นจากเมือง New York, London , Milan และ Paris ตามลำดับ โดยคอลเลคชั่นหลักที่จัดแสดงมี 2 คอลเลคชั่นคือ ฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว และ ฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อนสำหรับแฟชั่นสตรี ซึ่งคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว จะจัดประมาณเดือนกุมภาพันธ์ที่ New York และจบในเดือนมีนาคมที่ Paris ส่วนคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน เริ่มที่ New York ในเดือนกันยายนและจบที่ Paris เดือนตุลาคม
ในช่วงปีหลัง ดีไซเนอร์หลายรายได้ออกคอลเลคชั่น Inter-seasonal collections เพื่อตอบสนองความ ต้องการลูกค้า ซึ่งไม่ต้องคอย Traditional collections ถึง 5-6 เดือน นอกจากนี้ Inter-seasonal collections ยังสามารถขายได้ง่ายกว่า เนื่องจากเป็นแฟชั่นใส่สบาย ง่ายสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ แฟชั่นสำหรับรีสอร์ท หรือทะเล (resort/cruise-before spring/summer) และ pre-fall collections
นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายเมืองที่ร่วมกันจัดงาน Fashion Week ขึ้น (กรุงเทพฯ เริ่มจัดขึ้นเมื่อปี 2005) ส่วนเมืองที่ถือได้ว่าเป็นตลาดใหม่มาแรงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาและจะจัดงาน Fashion Week ขึ้นเช่นกันเป็น ครั้งแรกคือเมือง Qatar ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมีนาคม 2012 นี้
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมิลาน
ที่มา: http://www.depthai.go.th