รายงานผลการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Mipel 2011 ระหว่างวันที่ 18-21 กันยายน 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 1, 2011 15:29 —กรมส่งเสริมการส่งออก

รายงานผลการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Mipel 2011 ระหว่างวันที่ 18-21 กันยายน 2554

ณ Fiera Milano Rho เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี

1.ลักษณะและรูปแบบงาน
          ชื่องานแสดงสินค้า              MIPEL 2011 (International Leather Goods Exhibition)
          ระยะเวลาการจัดงาน           18-21 กันยายน 2554
          สถานที่จัดงาน                 Fiera Milano Rho (Fiera Milano Strada Stratale del Sempione,28

2001 Rho Milano) Tel. +39 02 49971 Fax. +39 02 4997 7379

          ผู้จัดงาน                     สมาคมเครื่องหนังแห่งชาติอิตาลี(AIMPES SERVIZI Srl Viale Beatrice d'

Este,43-20112 Milano) Tel. +39 02 584511 Fax.+39 02 58451320

          ประเภทสินค้าที่จัดแสดง          สินค้าเครื่องหนัง กระเป๋า
          พื้นที่จัดแสดง                  จัดภายในอาคารแสดงที่ 8,12 และ 16 รวมพื้นที่ประมาณ 20,000 ตร.ม.

2.ภาพรวมของงาน

งานแสดงสินค้า Mipel เป็นงานแสดงสินค้าเครื่องหนังที่ทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดีมีขนาดไม่ใหญ่ แต่เน้นคัดสรร ผู้เข้าร่วมงานฯ ที่มีคุณภาพเหมาะกับตลาด โดยสมาคมเครื่องหนังแห่งชาติอิตาลีเป็นผู้จัดงาน จัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ในช่วงเดือนมีนาคม และเดือนมิถุนายน งานในครั้งนี้ได้รับความสำเร็จจากจำนวนผู้เข้าชมงานฯ ที่เพิ่มขึ้นสวนกระแสวิกฤตเศรษฐกิจโลก

2.1 ผู้เข้าร่วมแสดงงาน

มีจำนวนทั้งหมด 429 ราย (+9.7% เทียบกับเดือนกันยายน 2553) จากอิตาลี 270 ราย และจากต่างประเทศ 159 ราย

2.2 ผู้เข้าชมงาน

มีจำนวนทั้งหมด 17,630 ราย (จากต่างประเทศ 8,700 ราย และในอิตาลี 8,930 ราย) เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เทียบกับเดือนกันยายน 2553 (+8.1% จากอิตาลี และ+9.6% จากต่างประเทศ)

3.การดำเนินงานในขั้นตอนต่างๆ

3.1 ทำเลคูหาประเทศไทย

บริษัทไทยทั้ง 8 บริษัทได้รับจัดสรรพื้นที่ในอาคาร 8 Zone Glamour ซึ่งเป็น Zone ที่นำเสนอสินค้าเครื่องหนัง และเครื่องประดับหนังที่มีดีไซน์ระดับกลางถึง High end ใกล้กับ Zone Oversea ซึ่งบริษัทจากจีน อินเดีย เป็นต้น พื้นที่คูหาขนาด 24 ตร.ม. รวมพื้นที่คูหาไทยทั้งสิ้น 192 ตารางเมตร

3.2 การตกแต่งคูหา

การแสดงานทุกครั้งคูหาไทยจะใช้คูหามาตรฐาน แต่ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้มีการตกแต่งคูหาเอง โดยได้ว่าจ้างบริษัท Pubblicitเ spazio ซึ่งโดยภาพรวมแล้วผู้เข้างานทุกบริษัทพอใจมากกับรูปแบบคูหา เพราะดูดี โดดเด่น และสวยงาม ด้วยการนำเฟอร์นิเจอร์สีดำ เทา ขาว ที่มีขนาดลดลั่นกันมาจัดวาง ทำให้สินค้าที่นำเสนอสะดุดตาผู้เข้าเยี่ยมชมเป็นอย่างมาก ยกเว้นบริษัท MBP ที่ตกแต่งภายในเอง แต่ผู้แสดงงานยังไม่พอใจเท่าใดนักกับคุณภาพของเฟอร์นิเจอร์ครั้งนี้ เนื่องจากบางชิ้นเป็นของเก่าที่มีรอยแตก หรือมีรูซึ่งยังไม่ได้ซ่อม และพื้นผิวของเฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างหยาบ รวมทั้งความล่าช้าในการก่อสร้าง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลจากบริษัทรับเหมามีเวลาเพียง 2 วัน ดำเนินกการ ก่อนวันจัดแสดงงาน จึงมีผลต่อฝีมือการทำงาน

3.3 การขนส่งสินค้า

ผู้ส่งออกไทยขนส่งสินค้ามาด้วยตนเอง(Hand carry)

3.4 การอำนวยความสะดวกผู้เข้าร่วมงาน

สำนักงานฯ มิลาน ได้ดูแลผู้เข้าร่วมงานทั้งการสมัคร การทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ รวมทั้งได้จัดหาล่ามเพื่ออำนวยความสะดวกด้านภาษาแก่ผู้เข้าร่วมงานฯ ตลอด 4 วันงานฯ

การประชาสัมพันธ์

  • ประชาสัมพันธ์บน Billborad ซึ่งติดตั้งระหว่างทางเดินไปอาคาร 8-12
  • ลงโฆษณาใน Mipel Catalogue จำนวน 1 หน้า
  • ลงโฆษณาใน Mipel Magazine จำนวน 4 หน้า และเอกสารแจก 1,000 ชุด
  • ลงโฆษณาใน Map Guide
  • ประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซด์ thaitradeitaly.com

3.5 ผู้เข้าร่วมงานคูหาประเทศไทยและสินค้าที่นำไปแสดง

รูปแบบสินค้า

สินค้ากระเป๋าที่ผู้ประกอบการไทยนำมาแสดงในงานส่วนใหญ่เป็นกระเป๋าแฟชั่น กระเป๋าทำงาน กระเป๋าใส่เอกสาร กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าเดินทาง ทั้งสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย โดยเน้นโทนสีเข้ม คลาสสิค และสีสัดสดใส รูปแบบ/ดีไซน์ที่ทันสมัยมากขึ้น

ผู้ประกอบการไทย จำนวน 8 ราย ได้แก่

                   บริษัท                                               สินค้า
1) Classic Inter Leather Products                     กระเป๋าบุรุษ ยี่ห้อ Klass และ OEM
2) Miah Bag                                           กระเป๋าสตรี ยี่ห้อ Miah
3) Oriental Bag                                       กระเป๋าสตรี ยี่ห้อ Vazzini และ OEM
4) Ring                                               กระเป๋าแฟชั่นสตรี ยี่ห้อ Eleganza
5) Michel Angelo International                        กระเป๋าแฟชั่นสตรี ยี่ห้อ Michel Angelo
6) Thanulux                                           กระเป๋าสตางค์สตรี บุรุษ ยี่ห้อ Stefano Cellini
7) All Nine                                           กระเป๋าสตรี ยี่ห้อ Vazzini และ OEM
8) MBP Leathers Industries                            กระเป๋าบุรุษ ยี่ห้อ Alberdo

3.6 มูลค่าการสั่งซื้อ

ในครั้งนี้ผู้ประกอบการไทยทั้ง 8 ราย พบว่า 6 รายได้รับการสั่งซื้อจากลูกค้าเกินกว่าที่คาดหมาย โดย การสั่งซื้อส่วนใหญ่มาจากผู้นำเข้า/ลูกค้าจากประเทศอื่นๆ ในยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง มีอิตาลีเพียงเล็กน้อย ซึ่งสินค้าที่ได้รับความสนใจเช่น กระเป๋าสตรี กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าใส่โทรศัพท์ และกระเป๋าเอกสาร มียอดสั่งซื้อทันทีรวมทั้งสิ้น 530,000 เหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะสั่งซื้อภายใน 1 ปีประมาณ 1,492,000 เหรียญสหรัฐ

3.7 ผลการเจรจาการค้า

ผู้ประกอบการไทยทุกรายมีความพอใจกับผลการเจรจาครั้งนี้ เนื่องจากได้รับความสนใจจากลูกค้าที่เข้ามาเจรจามากกว่าครั้งก่อน ๆ ส่วนผู้เข้างานรายใหม่ได้รับความสนใจเช่นกันแต่น้อยกว่ารายที่เข้างานมาหลายครั้งแล้ว โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีจำนวนลูกค้าที่เข้ามาเจรจาธุรกิจประมาณ 21-30 ราย ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่สินค้าไทยเริ่มเป็นที่ยอมรับและได้รับความเชื่อถือจากผู้นำเข้าทั้งในและต่างประเทศ โดยลูกค้าที่สนใจและเข้ามาเจรจาส่วนใหญ่มาจากฝรั่งเศส รัสเซีย อังฤกษ สเปน โปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และอิตาลี นอกจากนี้ มีลูกค้าสนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า/ดำเนินธุรกิจร่วมกับผู้ประกอบการไทย 6 ราย

3.8 ปัญหา/อุปสรรค

จากปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปที่กำลังเป็นที่จับตามองเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอิตาลีว่าจะล้มสลายเหมือนกรีซหรือไม่ ส่งผลให้ผู้บริโภคเพิ่มความระมัดระวังในการบริโภคสินค้า ซึ่งสาเหตุดังกล่าวส่งผลให้การที่จะเข้ามาเจาะตลาดกระเป๋าเครื่องหนังอิตาลีเป็นเรื่องที่ยากขึ้น ประกอบกับตลาดกระเป๋าเครื่องหนังอิตาลีเป็นตลาดที่เน้นรูปแบบของสินค้าที่มีดีไซน์ ทันสมัย โดย Trend ของสินค้าจะเปลี่ยนแปลงค่อนข้างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นผู้นำทางด้านแฟชั่น ดังนั้น ผู้มาเข้าชมงานเครื่องหนังอิตาลีจะเห็นว่าสินค้าของบริษัทอิตาลีจะมีรูปแบบที่โดดเด่นและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอทุกฤดูกาล

สินค้าของผู้ส่งออกไทยที่มาออกงานในครั้งนี้ยังพบปัญหาและอุปสรรคแบ่งได้ ดังนี้

1.ราคาค่อนข้างสูง สินค้าไทยยังถูกมองจากผู้นำเข้าว่ามีราคาสูง โดยเฉพาะเมื่อนำไปเทียบกับสินค้า ของประเทศจีน และอินเดีย นอกจากนี้ สินค้าของไทยบางตัวมีราคาสูงกว่าสินค้าของอิตาลี เนื่องจากต้องบวกค่าขนส่ง

2.กฎระเบียบการนำเข้า อิตาลีมีกฎระเบียบในการนำเข้าค่อนข้างซับซ้อน และมีกระบวนการทำงาน ที่ค่อนข้างล่าช้า ส่งผลให้สินค้าอาจถึงมือผู้นำเข้าช้ากว่ากำหนด

3.การลอกเลียนแบบ พบว่าสินค้าของไทยบางตัวถูกลอกเลียนแบบจากประเทศคู่แข่งอย่างอินเดีย

4.เงื่อนไขการชำระเงิน ผู้นำเข้าอิตาเลียนส่วนใหญ่ยังไม่เคยทำการสั่งซื้อสินค้าจากไทย ซึ่งโดยปกติ จะต้องมีการชำระเงินมัดจำเมื่อทำการสั่งซื้อทันทีและส่วนที่เหลือจะต้องชำระก่อนที่สินค้าจะถูกส่งจากไทย แต่ผู้นำเข้าอิตาเลียนส่วนใหญ่ต้องการชำระเงินทั้งหมดเมื่อสินค้ามาถึงมือ

5.การขนส่งและระยะเวลาการส่งมอบสินค้า ผู้ประกอบการไทยที่มาออกงานส่วนใหญ่ยังไม่มี ตัวแทนจำหน่ายสินค้าในอิตาลีหรือในยุโรปส่งผลให้ผู้นำเข้าจะต้องสั่งซื้อสินค้าโดยตรงจากไทย ซึ่งปกติผู้นำเข้าส่วนใหญ่จะสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าในระยะเวลาที่สั้น แต่สำหรับการสั่งซื้อจากผู้ประกอบการไทยอาจจะใช้ระยะเวลาในการขนส่งและการส่งมอบสินค้านานเกินความต้องการของผู้นำเข้า

3.9 ข้อเสนอแนะ

1)ปัญหาการตกแต่งคูหา แม้จะมีความไม่ราบรื่นเกิดขึ้นในระหว่างการตกแต่งคูหาจากผู้รับเหมาก่อ สร้าง เนื่องจากเวลาก่อสร้างจำกัด แต่อย่างไรก็ดี ภาพรวมของการตกแต่งคูหาได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าไทยยิ่งขึ้น ต่างจากคูหามาตรฐานของผู้จัดงานอย่างเห็นได้ชัด และผู้ประกอบการไทยได้รับการสั่งซื้อมากกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา สำหรับการเข้าร่วมงาน Mipel ในครั้งต่อไป หากกรมฯอนุมัติให้มีการก่อสร้างตกแต่งคูหาเองอีก สคร.มิลาน จะระบุเงื่อนไขวัสดุก่อสร้างให้เป็นไปตามที่ผู้ส่งออกขอให้แก้ไขไว้ตั้งแต่ต้น และแก้จุดบกพร่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ หรือหากกรมฯ ประสงค์ให้กลับไปใช้คูหามาตรฐานของผู้จัดงานเช่นเดิมก็สามารถทำได้

2)ยกระดับเป็นผู้ผลิตสินค้ามีดีไซน์ สคร.มิลาน เห็นว่าไทยควรยกระดับตัวเองให้เป็นผู้ผลิตสินค้าที่มี ดีไซน์เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ซึ่งจะทำให้สามารถพัฒนาต่อไปจนสามารถจำหน่ายแบรนด์ของตนเอง และทำให้สามารถขายสินค้าได้ราคาดี ไม่ควรทำตัวเป็นแค่ผู้ผลิตตาม order เท่านั้น นอกจากนี้ ไทยควรที่จะยกระดับตัวเองให้เป็นผู้ผลิตสินค้าที่แตกต่างไปจากผู้ผลิตในจีนหรืออินเดียที่มีรูปแบบสินค้าธรรมดาและราคาถูก

3)ให้ความสำคัญกับ Trend แฟชั่น โดยผู้ผลิตไทยควรให้ความสำคัญในด้านรูปแบบดีไซน์และเทรนด์ สินค้าที่เหมาะสมกับตลาดเป้าหมาย เช่น งานเครื่องหนัง Mipel เป็นตลาดเครื่องหนังระดับนานาชาติ ดังนั้น บริษัทอิตาเลียนที่มาออกงานจะแสดงสินค้าที่มีรูปแบบนำสมัย โดยคำนึงถึง Trend แฟชั่นที่ถูกกำหนดสำหรับแต่ละฤดูกาล ถ้าผู้ส่งออกไทยให้ความสำคัญในเรื่อง Trend ดังกล่าว จะถือเป็นการยกระดับตัวเองให้เทียบเท่าผู้ผลิตอิตาเลียน ซึ่งจะช่วยให้สามารถแข่งขันและขายได้มากขึ้นในราคาที่ดี

4)สร้างแบรนด์ในเมืองผู้นำแฟชั่น การจะสร้างแบรนด์ได้ผู้ส่งออกไทยไม่ควรหวังว่าผู้นำเข้าจะเป็นผู้ทำ แบรนด์ให้ เพราะโดยปกติผู้นำเข้ารายใหญ่ไม่อยากได้สินค้าที่ติดแบรนด์ของผู้ส่งออกในการวางจำหน่าย ยกเว้นผู้นำเข้าที่มีร้านจำหน่ายขนาดเล็ก การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลกได้จะต้องเริ่มจากการเปิด Shop และ Corner ในเมืองผู้นำแฟชั่นของโลก ได้แก่ มิลาน ปารีส นิวยอร์ก ลอนดอน และโตเกียว โดยมีประเด็นสำคัญคือ การสร้างภาพลักษณ์ให้เป็นที่ยอมรับและถือเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์แบรนด์เกิดใน Land Mark แฟชั่นของโลก ซึ่งจะส่งผลให้สามารถผลักดันให้ผู้นำเข้าในตลาดอื่น ๆ ยอมรับแบรนด์ดังกล่าวได้ง่ายขึ้น และเพิ่มยอดส่งออกของผู้ประกอบการไทยในที่สุด

5)เข้าร่วมแสดงงานฯ อย่างสม่ำเสมอ กรมส่งเสริมการส่งออก ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการไทยใน การเข้าร่วมฯ งานนี้มาโดยตลอด โดยพบว่าสินค้ากระเป๋าไทยได้รับการยอมรับเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้นำเข้าเกิดความเชื่อมั่นในตัวสินค้าและบริษัท ดังนั้น ผู้ส่งออกไทยควรให้ความสำคัญในการมาออกแสดงงานฯ สำคัญ ๆ ของโลกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อผู้นำเข้าจะได้เกิดความคุ้นเคยและเชื่อมั่นในภาพลักษณ์ที่ดีต่อสินค้าไทยเพิ่มมากขึ้น

6) ใช้งาน Mipel เป็นด่านสำคัญในการดึงผู้ซื้อทั่วโลกมาชมงานฯ Biff & Bil ด้วยการสนับสนุนและ คัดเลือกผู้ส่งออกที่มีผลงานคุณภาพและสร้างดีไซน์ใหม่ๆ มาเข้าร่วมงานฯ อย่างต่อเนื่อง จะช่วยสร้างภาพลักษณ์กระเป๋าไทยและดึงดูดให้ผู้ซื้อทั่วโลกที่มาชมงานฯ นี้ สนใจที่จะมาชมงานฯ Biff & Bil โดยผู้ซื้อสามารถพบปะ/เลือกซื้อสินค้ากับหลายบริษัทอย่างใกล้ชิด

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมิลาน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


แท็ก อิตาลี  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ