อินโดนีเซียมีแผนการนำเข้าข้าวจากเวียดนามทั้งสิ้น 500,000 ตันในปีนี้ โดยล็อตแรก 3,500 ตันได้มาถึงท่าเรือ Palembang แล้วเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2554 โดยภายในวันที่ 10 กันยายน 2554 นั้น กำหนดการนำเข้าข้าวจากเวียดนาม จะมีปริมาณถึง 173,950 ตัน การนำเข้าข้าวขาวหัก 15% จากเวียดนามมายังอินโดนีเซียก็เพื่อรักษาปริมาณข้าวในคลังให้คงอยู่ที่ 1.5 ล้านตัน และเพื่อป้องกันการขาดแคลนอาหารของประชากรในประเทศ
โดยปัจจุบัน นอกจากการขายข้าวผ่านผู้ประกอบการในตลาดขายส่งแล้วนั้น Bulog ได้เข้ามามีบทบาทในการจัดการตลาด ข้าวร่วมกับรัฐวิสาหกิจในการตั้งตลาดขายข้าวที่ให้ราคาถูกกว่า นอกจากนั้น Bulog ยังร่วมมือกับรัฐบาลภูมิภาคในการจัดการ ตลาดข้าวโดยรัฐบาลภูมิภาคได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐวิสาหกิจ ซึ่งทำให้ราคาข้าวถูกกว่าราคาในตลาดขายส่ง โดยในปีนี้ ปริมาณ ข้าวที่จัดการโดย Bulog มีปริมาณถึง 174,743 ตัน
เพื่อให้การซื้อข้าวในประเทศมีปริมาณเพิ่มขึ้น Bulog จึงเพิ่มราคารับซื้อข้าวขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2554 อยู่ที่ราคา 6,000 รูเปียห์ต่อกิโล สำหรับเขต Java, South Sulawesi, และ West Nusa Tenggara และราคา 6,100 รูเปียห์ต่อกิโล ในเขตอื่นๆ ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นราคาที่สูงกว่าราคาที่รัฐบาลกำหนดในการรับซื้อถึง 1,000 รูเปียห์ต่อกิโล นอกจากนั้น Bulog ยังเพิ่มราคา รับซื้อข้าวกล้องจาก 3,345 รูเปียห์ต่อกิโล เป็น 4,100 รูเปียห์ต่อกิโล สำหรับการเพิ่มราคารับซื้อข้าวเปลือกในปีนี้ Bulog ใช้เงินกองทุนไปสนับสนุน โดยไม่ได้ของบประมาณเพิ่มจากสำนักงบประมาณแต่อย่างใด
การจัดซื้อข้าวของหน่วยงานภาครัฐมีจำนวนถึง 1.2 ล้านตัน แต่สำหรับการจัดซื้อในภาคธุรกิจมีจำนวน 184,361 ตัน ยังถือว่าอยู่ในปริมาณที่ต่ำกว่าเกณฑ์ อย่างไรก็ตามการบริโภคข้าวภายในประเทศมีปริมาณ 6,000 ตันต่อวัน หรือ 150,000 ตันต่อเดือน
ที่มา: Jakarta, Business News ฉบับวันที่ 19 สิงหาคม 2554
แปล และรวบรวม : สำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศ ณ กรุงจาการ์ตา
ที่มา: http://www.depthai.go.th