โลกป่วน ไทยหยุดผลิตฮาร์ดดิสก์

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 7, 2011 13:53 —กรมส่งเสริมการส่งออก

          ปัญหาอุทกภัยในประเทศไทยส่งผลกระทบต่อการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก     หนักที่สุดดูเหมือนจะเป็นอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ เนื่องจากประเทศไทยถือว่าเป็นฐานผลิตฮาร์ดดิสก์ ไดร์ฟที่สำคัญราว 40% ของโลก จากอุทกภัยครั้งนี้ทำให้เกิดเหตุการณ์ฮาร์ดดิสก์ขาดแคลนขึ้น    ตลาดสินค้า IT ในเมืองกวางโจว ราคาสินค้าประเภทฮาร์ดดิสก์พุ่งสูงขึ้นเท่าตัว  เนื่องจากสินค้าเริ่มขาดตลาด ไม่เพียงแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เท่านั้นที่ขึ้นราคา  ยังมีสินค้าพวกรถยนต์และกล้องดิจิตอลที่ผลิตในไทยก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน  มีการคาดการณ์ว่าราคาจะขยับขึ้นไปเรื่อยๆ ในระยะเวลา 2 - 3 เดือนข้างหน้า ยกตัวอย่างราคาสินค้าในเขตเทียนเหอ แหล่ง IT ขนาดใหญ่ในเมืองกวางโจว ฮาร์ดดิสก์ขนาด 500 G ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 500 หยวน /1 อัน  จากแต่ก่อนแค่ 250 หยวน/  1 อัน, ฮาร์ดดิสก์ขนาด 1 TB ราคา 680 หยวน จากแต่ก่อนแค่ 380 หยวน กลายเป็นว่าตอนนี้ราคาแต่ละวันผันผวนมาก ถึงขนาดในบางวันช่วงตอนเช้าและตอนเย็นราคายังต่างกัน   สาเหตุหลัก ๆ ที่ราคาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้เพิ่มขึ้นคงหนีไม่พ้นเหตุอุทกภัยในประเทศไทย เพราะไทยเป็นแหล่งส่งออกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์อันดับสองของโลก  เมื่อการผลิตต้องหยุดชะงัก  ทำให้ซัพพลายเชนชิ้นส่วนและอะไหล่ เสียหายตามกันเป็นลูกโซ่  เลยมีผลทำให้ราคาในตลาดโลกสูงขึ้น คาดว่าสินค้าจะขาดแคลนตั้งแต่ปลายปีนี้ไปจนถึงต้นปีหน้า  บริษัทผู้ผลิตทั้งจากยุโรปและญี่ปุ่นต่างก็ต้องหยุดการผลิตไปก่อนเนื่องจาก 6 นิคมอุตสาหกรรมในเมืองไทยได้จมไปกับสายน้ำแล้ว  ทำให้แบรนด์อื่น ๆ นอกเหนือจากโซนี่, เวสเทิร์น ดิจิตอล, ฮิตาชิและแคนนอนที่มีฐานการผลิตอยู่ในเมืองไทย ต่างพากันฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าของตัวเองด้วย ทำให้แนวโน้มราคาสินค้าจำพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์เสียหายหนักที่สุด

นักลงทุนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ คือนักลงทุนญี่ปุ่น นักลงทุนเบอร์ 1 ตลอดกาลของไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิต เพื่อป้อนตลาดโลก โดยลักษณะการลงทุนส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นจะลงทุนกัน "ยกแผง" หรือทั้งซัพพลายเชน ดังนั้นจึงได้รับผลกระทบไปแบบเต็มๆ แต่สถานการณ์น้ำท่วมในไทยไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ในจีนเท่าไหร่ เพราะไทยไม่ได้ส่งออกชิ้นส่วนอะไหล่และอุปกรณ์ต่าง ๆ มายังจีนมากนัก

โซนี่เตรียมย้ายฐานการผลิตจากไทยมาจีน

โรงงานโซนี่ในเขตจังหวัดอยุธยาต้องหยุดเดินสายพานแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระดับไฮเอนด์ของโซนี่, กล้องดิจิตอลรุ่นต่างๆ และอุปกรณ์เลนส์ขาดตลาด ทั้งนี้โซนี่ได้ย้ายฐานการผลิตจากอยุธยาไปที่ชลบุรีแทน บางส่วนย้ายมาที่เมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซูและศูนย์เทคโนโลยีโตไคในประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้ราคาของกล้องสัญชาติญี่ปุ่นมีราคาผันผวนมากในจีน คือมีราคาเพิ่มขึ้นจากเดิมมากกว่า 100 หยวนในแต่ละชนิดของสินค้า

ข้อคิดเห็นของ สคต. กวางโจว

น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศชาติเพราะทำความเสียหายขนาดใหญ่ไปแล้วไม่ต่ำไปกว่าแสนล้านบาท การเรียกความเชื่อมั่นในการลงทุนคืนมาอีกครั้งในระยะเวลาถัดจากนี้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากทางรัฐบาลและเอกชน ยังมีข้อมูลระบุว่าจะต้องใช้เวลานานถึงกลางปี 2555 กว่าสถานการณ์ต่างๆ จะเริ่มคลี่คลาย ความเชื่อมั่นในการลงทุนไทยในยามนี้จึงไม่ต้องพูดถึง นักลงทุนเก่ามีแนวโน้มจะย้ายฐานการผลิตชั่วคราว หากใช้ระยะเวลานานในการฟื้นฟู ขณะที่ "นักลงทุนใหม่" น่าจะมองถึง "ทางเลือก" การลงทุนในประเทศอื่นๆ ในอาเซียน หรือหันไปลงทุนในนิคมของไทย ในโซนที่ปลอดจากน้ำท่วม อย่าง จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี

"ภาคอุตสาหกรรมถือเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ" ผลิตเพื่อส่งออก และสร้างรายได้จากภาษีให้กับรัฐฯ เพราะฉะนั้นจึงต้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือให้กลุ่มเหล่านี้ก่อน อีกสิ่งที่น่ากลัวสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ คือลูกค้าจะย้ายไปสั่งสินค้ากับคู่แข่ง คู่แข่งคนสำคัญอย่างเช่น "จีน" นั้นน่ากลัวมาก เพราะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพในด้านการผลิตที่สุดในโลก ดังนั้นรัฐฯ คงต้องกำหนดหลายมาตรการในการเยียวยาผลกระทบ พร้อมทั้งต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนถึงการบริหารจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติให้เป็นระบบ ไม่เกิดผลกระทบรุนแรงเหมือนเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ "ยิ่งจบเร็ว จัดการเร็วได้เท่าไหร่ ประเทศไทยก็กลับมาเป็นปกติสุขได้เร็วเท่านั้น"

สคต. เมืองกวางโจว

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ