“ส่งออก” จัดงานประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมภาพยนตร์และบันเทิงไทย Thai Night เผยพร้อมเจาะตลาดกลุ่ม Hispanic และหาทางช่วยเอกชนที่ประสบอุทกภัย
เมื่อเร็วๆ นี้ กรมส่งเสริมการส่งออกจัดงานประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมภาพยนตร์และบันเทิงไทย Thai Night ซึ่งได้รับเกียรติจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นประธานในพิธี โดยมีนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก นายวุฒิชัย ดวงรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก พร้อมผู้บริหารของกรมฯ เข้าร่วมงานฯ ดังกล่าว
นางนันทวัลย์ กล่าวว่า งานดังกล่าวเป็นการประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ และบันเทิงไทยปีนี้จัดขึ้น ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ซึ่งกรมฯ เข้าร่วมงานครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกในปี 2552 มียอดการสั่งซื้อทันที 2.36 ล้านยาท และยอดสั่งซื้อใน 3 เดือนกว่า 53.66 ล้านบาท และภายใน 6 เดือนอีกกว่า 46.92 ล้านบาท ซึ่งภาพยนตร์ที่เป็นที่นิยมได้แก่ภาพยนตร์ประเภทแอนิเมชั่น สยองขวัญ หนังการรบในรูปของไทยและมวลไทย
จากนั้นนางนันทวัลย์ ได้นำคณะเข้าร่วมประชุมหารือกับ U.S.Department of Commerce และ Los Angeles Metropolitan Hispanic Chamber of Commerce เพื่อหาความร่วมมือในการเจาะตลาดกลุ่ม Hispanic เพิ่มมากขึ้น ซึ่งตลาด Hispanic ถือเป็นตลาดใหม่และมีขนาดใหญ่มีประชากรรวมกว่า 117 ล้านคน แต่อย่างไรก็ตาม แม้ตลาด Hispanic จะมีขนาดใหญ่แต่รายได้ของประชากรในกลุ่มนี้อาจมีรายได้น้อยถึงปานกลาง แต่ในอนาคตผู้บริโภคในกลุ่มนี้จะมีกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้น ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพและมูลค่าสูงขึ้น เนื่องจากประชากรกลุ่มนี้ในเจเนอเรชั่นยุคต่อไปจะมีการศึกษาที่สูงขึ้นทำให้มีรายได้เพิ่มสูงขึ้น ตลาดกลุ่มนี้จึงเป็นตลาดที่ไม่น่าละเลย
“สินค้าอาหารไทยที่วางขายและเป็นที่นิยมในกลุ่ม Hispanic ในปัจจุบัน ได้แก่ ปลากระป๋อง มะขามสด มะพร้าวอ่อน น้ำมะพร้าว กะทิ และข้าวหอมมะลิ สินค้าที่ศักยภาพได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากมะขาม ใบตอง ซอสปรุงรสต่างๆ ส่วนสินค้าอื่นๆ ได้แก่ วัสุดก่อสร้าง เช่น เหล็กดัดทำประตูและหน้าต่าง ชิ้นส่วยยานยนตร์ ของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า เครื่องประดับ และอัญมณี โดยในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาทางกรมฯ ได้เดินทางเยือนมลรัฐเท็กซัส มลรัฐนิวเม็กซิโก และมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ทำให้ทราบว่าผู้บริโภคกลุ่ม Hispanic ต้องการสินค้าประเภท Frozen/Canned Food Vegetable, Canned Fruit, Frozen Mexican Meal และ Indian Food” นางนันทวัลย์ กล่าวเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไทยประสบปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดภาคกลาง ซึ่งในเรื่องนี้ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า ทางกรมฯ มีแนวทางการให้ความช่วยเหลือในระยะสั้น ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที อาทิ ถ้าผู้ผลิตยังพอมีคำสั่งซื้อ เครื่องจักรยังใช้การได้ มีวัตถุดิบ และแรงงานผลิต อาจจะให้ผู้ส่งออกขอเงินจากผู้ซื้อมาลงทุนก่อน 20 - 40% ของมูลค่าคำสั่งซื้อ เพื่อให้เกิดสภาพคล่องและการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งการดำเนินธุรกิจในลักษณะนี้ เคยใช้กับคู่ค้าใหม่ ที่ยังไม่คุ้นเคยกันและเชื่อถือกัน เพื่อเป็นหลักประกันความเสี่ยง โดยมีสถาบันการเงินการันตีการจ่ายเงิน
“ขณะนี้ทางกรมส่งเสริมการส่งออกเตรียมหารือร่วมกับภาคเอกชน โดยในเบื้องต้นสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยได้ให้ข้อเสนอแนะสำหรับช่วยเหลือเยียวยาผู้ส่งออกไทยในเรื่องมาตรการยกเว้นภาษีสำหรับการนำเข้าวัตถุดิบ การนำเข้าเครื่องจักรใหม่ รวมถึงอุปกรณ์ชิ้นส่วนและอะไหล่ และสามารถที่จะนำค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมโรงงานและเครื่องจักรที่ได้รับความเสียหายรวมถึงการลงทุนใหม่เพื่อทดแทนส่วนที่เสียหายนั้นมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้ 3 เท่า ส่วนมาตรการด้านการเงินทางกรมฯ เตรียมยื่นขอให้รัฐบาลลดดอกเบี้ย Packing Credit เหลือ 50% จากอัตราปกติ และขอให้รัฐบาลจัดหาการประกันภัยอัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับภาคเอกชน รวมถึงยกเว้นค่าธรรมเนียมและค่าธรรมเนรยมต่างๆ ของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ อีกทั้งทางกรมฯ เองยังมีแผนที่จะประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์อุตสาหกรรมไทยในสายตาชาวโลกป่านทางสื่อในแต่ละภูมิภาคทั่วโลก” นางนันทวัลย์ กล่าวเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี ขณะที่การช่วยเหลือเบื้องต้นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อ 2.5 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพิ่มเติมจากเดือนกันยายนอนุมัติไป 2,000 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2554 อนุมัติงบอีก 2.1 แสนล้านบาท และวงเงินสินเชื่อ 2,000 ล้านบาท ที่ครม. อนุมัติตั้งแต่กันยายนยังไม่มีการปล่อยให้กับเอสเอ็มอีรายใดเลย แต่คาดว่าเร็วๆ นี้ จะเริ่มปล่อยกู้ได้ช่วยเอสเอ็มอีได้ราว 4 - 5 พันราย ในอัตราดอกเบี้ย 6% และผ่อนปรนเงื่อนไขการกู้ ซึ่งหากไม่พอคาดว่าอาจจะขอให้ทางกระทรวงการคลังอนุมัติวงเงินเพิ่มเติม
ที่มา: http://www.depthai.go.th