ผลกระทบน้ำท่วม ต่อการนำเข้าของสาธารณรัฐเช็ก

สคร.กรุงปราก ขอรายงาน ผลกระทบภาวะน้ำท่วม ของไทยต่อการนำเข้าสินค้าในสาธารณรัฐเช็กสำหรับกลุ่มสินค้าส่งออกสำคัญ โดยสรุปผลกระทบในปัจจุบัน และคาดการณ์ใน 3- 6 เดือน ดังนี้

1. อุตสาหกรรมอิเลคโทรนิคส์และเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ ซึ่งไทยส่งออกเป็นอันดับหนึ่งไปยังสาธารณรัฐเช็ก มูลค่าปีละ 15,000.- ล้านบาท (ร้อยละ 40 ของมูลค่ารวมส่งออกจากไทยไปสาธารณรัฐเช็ก ) ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งปกติจะมีการนำเข้าจากไทย ทุกสัปดาห์ หรือบางครั้งทุกวัน โดยเฉพาะชิ้นส่วน LCD TV. และ กล่องอุปกรณ์ทีวี ผู้ผลิตสำคัญคือ PEGATRON,BANTA และ FLEXTRONICS

สำหรับคาดการณ์จะได้รับผลกระทบอีกคือ ชิ้นส่วนกล้องถ่ายรูป ( เช่น Nikon, Canon, Sony ) จะทำให้ราคาผลิตภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต

2. อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ชิ้นส่วน ซึ่งเป็นสินค้าอันดับ 2 ของไทยที่ส่งออกไปสาธารณรัฐเช็ก มูลค่าปีละ 13,300 ล้านบาท (คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 36 ของมูลค่ารวมการส่งออกจากไทยไปสาธารณรัฐเช็ก ) สถานะการณ์ปัจจุบันส่งผลกระทบรุนแรงต่อผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ในสาธารณรัฐเช็ก ได้แก่ ชิ้นส่วน HDD ซึ่งขาดแคลนและราคาเพิ่มขึ้นสองเท่าตัว ผู้ผลิตสำคัญที่ได้รับผลกระทบได้แก่ WESTERN DIGITAL, SEAGATE , TOSHIBA จะส่งผลให้ผู้ผลิตในระบบSupply Chain ได้รับผลกระทบด้วย เช่นในการผลิตคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้คส์ , Desktop และเครื่องคอมพิวเตอร์ PC.อื่นๆ

3. อุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วน ในสาธารณรัฐเช็ก ประกอบด้วย 3 ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่คือ SKODA VOLKSWAGEN, HYUNDAI และTPCA ( ผู้ผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก ได้แก่ Peugeot + Citroen + Toyota ) ซึ่งปัจจุบันยังมีสต๊อคเหลือเพียงพอ จนถึงเดือนพฤศจิกายนนี้เท่านั้น คาดการณ์ว่า จะส่งผลกระทบทั้งภายในสหภาพยุโรปด้วยต่อ ผลผลิตรถยนต์ในไตรมาสที่4 ของปี2554 และ ไตรมาสแรกปี 2555 ทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปลดกำลังการผลิตแล้ว เช่น บริษัทรถยนต์ฮอนด้าในสหราชอาณาจักร

4. การผลิตเครื่องปรับอากาศ คาดว่าจะได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากผู้ผลิตรายใหญ่ คือ DAIKIN ใช้ชิ้นส่วนเครื่องทำความเย็นและท่อทองแดงจากไทยเป็นส่วนใหญ่ ปัจจุบันใน 9เดือนแรกของปี 2554 การส่งออกเครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วนจากไทยไปสาธารณรัฐเช็ก เพิ่มขึ้น จากมูลค่าเพียง 60 ล้านบาท เพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาทแล้ว

5. การผลิตเลนส์แว่นตา บริษัท HOYA LENS CZECH ประสบปัญหาการนำเข้าเลนส์จาก โรงงานผลิตของ HOYA VISION CARE ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

6. กลุ่มสินค้าอาหารและสินค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ได้รับผลกระทบจากผลผลิตทางการเกษตร เช่น ข้าว ซึ่งไทยส่งออกไปสาธารณรัฐเช็กเป็นอันดับสองรองจากอิตาลี จะทำให้ปริมาณส่งออกลดลงและมีราคาสูงขึ้น

ผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากไทย มีความกังวลเรื่องสินค้าจะขาดสต๊อค และราคาผลิตภัณฑ์ที่จะเพิ่มสูงขึ้นตามมา เช่น บริษัท F.W.TANDOORI ตัวแทนจัดจำหน่ายเบียร์สิงห์ ของบริษัทบุญรอดเทรดิ้งฯซึ่งต้องปิดโรงงานหลังถูกน้ำท่วม และ บริษํทไทยผู้ผลิตซอสเครื่องปรุงรสต่างๆ เช่น Exotic Foods ประสบปัญหาจากผู้ผลิตขวดแก้วและพลาสติก ฉลากปิดสินค้าต่างๆ ทำให้ได้รับผลกระทบต่อการส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าซึ่งคาดว่าผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารทะเลกระป๋องจากไทยอื่นๆ จะได้รับผลกระทบต่อไปด้วย

สรุปประเด็นสำคัญ จากรายงานผลกระทบจากน้ำท่วมไทยครั้งนี้ จะส่งสัญญาณต่อการลดลงของมูลค่าการนำเข้าสินค้าจากไทย ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2554 และ ไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 และโดยเฉพาะในระยะยาว การนำเข้าของสาธารณรัฐเช็ก อาจจำเป็นต้องหาแหล่งนำเข้าอื่นๆทดแทน หากการฟื้นฟูหลังภาวะน้ำท่วมของผู้ผลิตไทยใช้เวลายาวนาน แต่อย่างไรก็ตาม ผู้นำเข้าจากสาธารณรัฐเช็ก ยังมีความต้องการและพอใจการนำเข้าจากไทยตลอดมา

สรุปรายงานโดย: นางนที ชวนสนิท ผอ.สคร.กรุงปราก

ที่มา: http://www.depthai.go.th