กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการขนส่งสินค้าทางบกและสถานีขนส่งสินค้าทางบก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 16, 2011 11:38 —กรมส่งเสริมการส่งออก

หน่วยงานผู้ออกกฎหมาย กระทรวงคมนาคม
หมายเลขการประกาศ คำสั่งกระทรวงคมนาคม หมายเลขที่ 6 ปี ค.ศ. 2005
วันประกาศ             16 มิถุนายน ค.ศ. 2005
วันที่มีผลบังคับใช้         1 สิงหาคม ค.ศ. 2005
วันสิ้นสุดผลบังคับใช้       -
ประเภทกฎหมาย         กฎหมายระดับประเทศ
ที่มาของข้อมูล           กระทรวงคมนาคม


กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการขนส่งสินค้าทางบกและสถานีขนส่งสินค้าทางบก
(คำสั่งกระทรวงคมนาคม หมายเลขที่ 6 ปี ค.ศ. 2005)

(กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการขนส่งสินค้าทางบกและสถานีขนส่งสินค้าทางบก) ได้ผ่านที่ประชุมกระทรวงคมนาคมครั้งที่ 11 เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 2005 และให้ประกาศนับแต่บัดนี้และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 2005 เป็นต้นไป

รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม

นาย จาง ชุน เสียน

16 มิถุนายน ค.ศ. 2005

หมวดที่ 1 บททั่วไป

มาตรา 1 เพื่อกำหนดมาตรฐานการประกอบกิจการการขนส่งสินค้าทางบกและสถานี (สถานที่) ขนส่งสินค้าทางบก เพื่อรักษาความมีระเบียบของตลาดการขนส่งสินค้าทางบกและคุ้มครองความปลอดภัยในการขนส่งทางบก เพื่อการคุ้มครองสิทธิประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของผู้ที่เกี่ยวข้องแต่ละฝ่ายในการขนส่งสินค้าทางบกและสถานี (สถานที่) ขนส่งสินค้าทางบก จึงให้ตรากฎหมายฉบับนี้ตาม กฎหมายการขนส่งทางบกแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 2 ให้การประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกและการประกอบกิจการสถานี (สถานที่) ขนส่งสินค้าทางบกเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้

การประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกที่ได้กล่าวในกฎหมายฉบับนี้ หมายถึง การขนส่งสินค้าทางบกในเชิงพาณิชย์โดยการให้บริการสาธารณะต่อสังคม การประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบก รวมถึง การขนส่งสินค้าทั่วไปทางบก การขนส่งสินค้าเฉพาะทางบก การขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ทางบกและการขนส่งสินค้าอันตรายทางบก การขนส่งสินค้าเฉพาะทางบกที่ได้กล่าวในกฎหมายฉบับนี้ หมายถึง การขนส่งสินค้าโดยใช้รถพาหนะเฉพาะในการขนส่ง เช่น ใช้ตู้คอนเทนเนอร์ อุปกรณ์รักษาความเย็นและความสดหรือภาชนะบรรจุกระป๋อง เป็นต้น

การประกอบกิจการสถานี (สถานที่) ขนส่งสินค้าทางบก (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “สถานีขนส่งสินค้า”) ที่ได้กล่าวในกฎหมายฉบับนี้ หมายถึง สถานีขนส่งสินค้าปลีก สถานีเปลี่ยนตู้คอนเทนเนอร์ระหว่างการขนส่งและศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้าต่างๆซึ่งมีประสิทธิภาพโดยรวมในการให้บริการ โดยใช้สิ่งอำนวยความสะดวกของสถานที่โดยสถานีขนส่งสินค้าเพื่อให้บริการด้านต่างๆโดยคิดค่าตอบแทน เช่น คลังสินค้า การรักษา การบรรทุก การบริการด้านข้อมูล การบรรทุกสินค้าขึ้นและลง ตัวแทนการรับขน

มาตรา 3 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกและผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าประกอบกิจการโดยเป็นไปตามกฎหมาย ซื่อสัตย์สุจริตและแข่งขันอย่างเป็นธรรม การควบคุมการขนส่งสินค้าทางบกให้ใช้หลักการความยุติธรรม เท่าเทียม เปิดเผยและสะดวกแก่ประชาชน

มาตรา 4 ส่งเสริมให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกและผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าประกอบกิจการโดยรวมตัวกันและใช้วิธีการแบบเครือข่าย ส่งเสริมให้ขนส่งโดยใช้ตู้คอนเทนเนอร์ รถพาหนะขนส่งที่มีลักษณะเป็นตู้แบบปิดมิดชิดและรถพาหนะประเภทหลายแกนในการประกอบกิจการ

มาตรา 5 ให้กระทรวงคมนาคมเป็นผู้ควบคุมหลักในงานการควบคุมการประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกและการประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทั่วประเทศ

ให้สำนักงานควบคุมการคมนาคม แห่งรัฐบาลประชาชนประจำท้องที่ระดับอำเภอขึ้นไปเป็นผู้รับผิดชอบการจัดการชี้นำงานการควบคุมการประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกและการประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าในเขตพื้นที่นั้นๆ

ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปเป็นผู้กำหนดงานการควบคุมการประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกและการประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าในเขตพื้นที่นั้นๆอย่างเป็นรูปธรรม

หมวดที่ 2 การอนุญาตประกอบกิจการ

มาตรา 6 การยื่นคำร้องขอประกอบกิจการการขนส่งสินค้าทางบก ให้เตรียมตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้

(หนึ่ง) รถขนส่งที่ผ่านคุณสมบัติการตรวจวัดที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการ

1. เงื่อนไขด้านเทคโนโลยีของรถพาหนะ

(1) ประสิทธิภาพของเทคโนโลยีสอดคล้องตามมาตรฐานของประเทศตาม ข้อบังคับในเรื่องสมรรถนะโดยรวมและวิธีการตรวจสอบรถพาหนะขนส่ง

(2) ขนาดภายนอกของตัวรถ แกนรับน้ำหนักรวมถึงคุณภาพสอดคล้องตามมาตรฐานของประเทศตามข้อจำกัดในเรื่องแกนรับน้ำหนักรวมถึงคุณภาพ

2. เงื่อนไขอื่นๆของรถพาหนะ

(1) การประกอบกิจการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ ต้องมีขบวนรถขนาดใหญ่ที่สอดคล้องกับสินค้าขนาดใหญ่ที่ขนส่ง

(2) การประกอบกิจการขนส่งสินค้าเฉพาะเช่น สินค้าที่ต้องเก็บรักษาความเย็นและความสดหรือสินค้าบรรจุกระป๋อง ต้องมีภาชนะ อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะและรถพาหนะที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะที่สอดคล้องกับสินค้าที่ขนส่ง

(3) รถพาหนะที่ใช้ในการประกอบกิจการขนส่งสินค้าโดยตู้คอนเทนเนอร์ต้องมีตู้คอนเทนเนอร์ที่ติดตั้งถาวร

(สอง) พนักงานขับรถต้องเป็นไปตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้

1. ต้องได้รับหนังสือรับรองการขับขี่รถยนต์ ที่เกี่ยวข้อง

2. อายุไม่เกิน 60 ปี

3. ผ่านคุณสมบัติการทดสอบความรู้ในเรื่องการขนส่งสินค้าทางบก การซ่อมแซมรถยนต์และการดูแลรักษาสินค้าและการบรรทุกของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับเมืองในท้องที่นั้นและได้รับหนังสือรับรองคุณสมบัติการประกอบกิจการ

(สาม) มีระบบการควบคุมการสร้างความปลอดภัยที่สมบูรณ์ ให้รวมถึง ระบบการสร้างความรับผิดชอบในการสร้างความปลอดภัย กฎระเบียบในการปฏิบัติงานการสร้างความปลอดภัย การดูแลตรวจสอบการสร้างความปลอดภัย ระบบการควบคุมการสร้างความปลอดภัยของพนักงานขับรถและรถพาหนะ

มาตรา 7 การยื่นคำร้องขอประกอบกิจการสถานีขนส่ง ให้เตรียมตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้ (1) สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ห้องสถานีขนส่งสินค้า ห้องทำงานการจัดระบบการผลิต ศูนย์ควบคุมข้อมูล คลังเก็บของ สถานที่เก็บรักษาของ สถานที่ เส้นทาง เป็นต้นซึ่งมีความเหมาะสมกับขนาดของการประกอบกิจการ และผ่านมาตรฐานการตรวจสอบทางวิศวกรรมสำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสารโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (2) อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย อุปกรณ์ในการป้องกัน อุปกรณ์ในการบรรทุก อุปกรณ์ในการสื่อสาร และอุปกรณ์ในการวัดปริมาณ ซึ่งมีความเหมาะสมกับขนาดของการประกอบกิจการ (3) พนักงานควบคุมและเจ้าหน้าที่เทคนิคผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีความเหมาะสมกับขนาดและประเภทของการประกอบกิจการ (4) มีข้อบังคับการปฏิบัติงานและระบบการควบคุมการสร้างความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์

มาตรา 8 การยื่นคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบก ให้ยื่นคำร้องขอต่อหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอ (ไม่รวมหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบกประจำเมืองในพื้นที่นั้น ซึ่งให้หมายความเข่นนี้ทั้งกฎหมายฉบับนี้) และให้ยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ (1) แบบฟอร์มการยื่นคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบก (ตามเอกสารแนบท้ายหมายเลข 1) (2) หนังสือรับรองสถานะของผู้รับผิดชอบ หนังสือรับรองสถานะของผู้ดำเนินการแทนและหนังสือมอบอำนาจ (3) หนังสือรับรองการขับขี่รถยนต์ สำเนาหนังสือการผ่านมาตรฐานคุณภาพการตรวจวัดรถพาหนะและหนังสือคำมั่นในการลงทุนซึ่งรถพาหนะ โดยหนังสือคำมั่นนี้ให้มีเนื้อหารวมถึง ปริมาณ ระดับประเภท ระดับเทคโนโลยีของรถพาหนะและเวลาที่จะซื้อ (4) หนังสือรับรองการขับขี่ และหนังสือรับรองคุณสมบัติการประกอบกิจการ ของพนักงานขับรถที่ได้จ้างหรือที่จะได้จ้าง (5) หนังสือแสดงระบบการควบคุมการสร้างความปลอดภัย (6) เอกสารข้อมูลอื่นๆตามที่กฎหมายกำหนด

มาตรา 9 การยื่นคำร้องขอประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบก ให้ยื่นคำร้องขอต่อหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอ และให้ยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ (1) แบบฟอร์มการยื่นคำร้องขอประกอบกิจการสถานี (สถานที่) ขนส่งทางบกตามเอกสารแนบท้ายหมายเลข 2) (2) หนังสือรับรองสถานะของผู้รับผิดชอบ หนังสือรับรองสถานะของผู้ดำเนินการแทนและหนังสือมอบอำนาจ (3) หนังสือรับรองตามกฎหมายของที่ดินและตึกที่ใช้ในการประกอบกิจการ (4) หนังสือรับรองการตรวจสอบทางวิศวกรรมสำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสาร (5) หนังสือรับรองสถานะและหนังสือรับรองวิชาชีพของพนักงานผู้เชี่ยวชาญและพนักงานควบคุม (6) หนังสือแสดงข้อบังคับการปฏิบัติงานและหนังสือแสดงระบบการควบคุมการสร้างความปลอดภัย

มาตรา 10 ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ทำการอนุญาตให้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกหรือประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกโดยอาศัย ตามกฎหมายการขนส่งทางบกแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและ กฎว่าด้วยวิธีการการอนุญาตสำหรับการจราจรรวมถึงวิธีการที่ได้กำหนดไว้ในบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้

มาตรา 11 ในกรณีที่หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก รับเรื่องคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบก ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ตัดสินอนุญาตหรือไม่อนุญาตภายใน 20 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องด้วยตนเอง ในกรณีที่หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก รับเรื่องคำร้องขอประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบก ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ตัดสินอนุญาตหรือไม่อนุญาตภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องด้วยตนเอง

มาตรา 12 ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ตัดสินอนุญาตให้แก่ผู้ยื่นคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกที่มีเงื่อนไขเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และให้ออก หนังสือตัดสินอนุญาตให้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบก (ตามเอกสารแนบท้ายหมายเลข 3) และให้ออกหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบกให้แก่ผู้ที่ได้รับอนุญาตภายในเวลา 10 วัน โดยให้ระบุขอบเขตการประกอบกิจการไว้บนหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบก

ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ตัดสินอนุญาตให้แก่ผู้ยื่นคำร้องขอประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกที่มีเงื่อนไขเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และให้ออกหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการสถานี (สถานที่) ขนส่งทางบก (ตามเอกสารแนบท้ายหมายเลข 4) และให้ออกหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบกให้แก่ผู้ที่ได้รับอนุญาตภายในเวลา 10 วัน โดยให้ระบุขอบเขตการประกอบกิจการไว้บนหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบก

ในกรณีที่ตัดสินไม่อนุญาตแก่ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกหรือผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบก ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ออกหนังสือตัดสินไม่อนุญาตด้านการคมนาคมให้แก่ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกหรือผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบก

มาตรา 13 ให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตจัดซื้อรถพาหนะขนส่งตามข้อกำหนดในหนังสือคำมั่น ในกรณีที่รถที่ทำการจัดซื้อหรือรถที่มีอยู่แล้วนั้นผ่านการพิจารณาตรวจสอบจากหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก และเป็นไปตามข้อกำหนด ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ออกหนังสือรับรองการขนส่งทางบกให้แก่รถพาหนะ

มาตรา 14 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกหรือผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกนำหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบกไปดำเนินขั้นตอนการจดทะเบียนต่อหน่วยงานควบคุมอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม

มาตรา 15 ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกจัดตั้งบริษัทลูก ให้ยื่นคำร้องอนุญาตประกอบกิจการต่อหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ประจำท้องที่ที่ต้องการจัดตั้งบริษัทลูก ในกรณีที่ต้องการตั้งสาขา ให้รายงานและจดทะเบียนต่อหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ประจำท้องที่ที่ต้องการจัดตั้งสาขานั้นๆ

มาตรา 16 ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกหรือผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกต้องการเลิกกิจการ ให้ยื่นคำร้องขอต่อหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ที่เป็นผู้ให้อนุญาตเดิมก่อนเลิกกิจการเป็นเวลา 30 วัน และดำเนินขั้นตอนการยกเลิกที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 17 ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกต้องการเปลี่ยนแปลงรายการที่ได้รับอนุญาตหรือต้องการขยายขอบเขตการประกอบกิจการ ให้ดำเนินขั้นตอนที่เกี่ยวต้องตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายนี้

หมวดที่ 3 การควบคุมรถพาหนะในการขนส่ง

มาตรา 18 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกสร้างระบบการควบคุมเทคโนโลยีของรถพาหนะ และทำการบำรุงรักษารถพาหนะขนส่งสินค้าตามระยะเวลาที่กำหนดตามมาตรฐานเทคโนโลยีของประเทศ และให้รักษาสภาพเทคโนโลยีของรถพาหนะให้อยู่ในสภาพที่ดี

รายการและวิธีการบำรุงรักษารถพาหนะขนส่งสินค้านั้นให้ปฏิบัติตามกฎว่าด้วยมาตรฐานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรฐานประเทศ มาตรฐานเทคโนโลยีในการบำรุงรักษา ตรวจวัดและวินิจฉัยรถยนต์(GB18344)

ห้ามมิให้หน่วยงานหรือบุคคลใดกำหนดกิจการในการซ่อมแซมรถพาหนะสำหรับผู้ประกอบกิจการอย่างเด็ดขาด ห้ามมิให้ถือเอาสถานการณ์การปฏิบัติงานการบำรุงรักษาระดับที่ 2 สำหรับรถพาหนะเป็นรายการการตรวจตรา

มาตรา 19 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทำการตรวจวัดรถพาหนะขนส่งสินค้าตามกำหนดเวลาตรวจวัดรถพาหนะร่วมกับการพิจารณาตรวจสอบรถพาหนะตามกำหนดเวลาและตามความถี่ที่กำหนดไว้

ภายในกำหนดระยะเวลา ให้ผู้ประกอบกิจการทำการตรวจวัดต่อหน่วยงานตรวจวัดสมรรถนะโดยรวมของรถยนต์ ที่เป็นไปตามเงื่อนไขของประเทศ ให้หน่วยงานตรวจวัดสมรรถนะโดยรวมของรถยนต์ ทำการตรวจวัดตามมาตรฐานของประเทศในเรื่อง ข้อบังคับในเรื่องสมรรถนะโดยรวมและวิธีการตรวจสอบรถพาหนะขนส่ง(GB18565)และข้อจำกัดในเรื่องแกนรับน้ำหนักรวมถึงคุณภาพ(GB1589)และให้แสดงรายงานการตรวจวัดโดยเป็นแบบแผนเดียวกันทั่วประเทศ ให้ทำการประเมินและระบุระดับเทคโนโลยีของรถพาหนะโดยอาศัยผลการตรวจวัดเทียบกับมาตรฐานวิชาชีพข้อบังคับการแบ่งระดับและระบุอันดับเทคโนโลยีของรถพาหนะขนส่ง(JT/T198)โดยระดับเทคโนโลยีของรถพาหนะขนส่งสินค้าให้แบ่งเป็นระดับที่ 1 ระดับที่ 2 และระดับที่ 3

ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลประจำท้องที่สัญชาติของรถเป็นผู้ระบุระดับเทคโนโลยีของรถพาหนะบนหนังสือรับรองการขนส่งทางบก

มาตรา 20 ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลขึ้นไปทำการตรวจสอบรถพาหนะขนส่งสินค้าตามกำหนดระยะเวลา โดยทำการตรวจสอบปีละหนึ่งครั้งเป็นประจำทุกปี

เนื้อหาในการตรวจสอบให้รวมถึง แฟ้มข้อมูลเทคโนโลยีของรถพาหนะ โครงสร้างของรถพาหนะและสภาพการเปลี่ยนแปลงทางขนาด และบันทึกการกระทำผิดกฎหมายของรถพาหนะ เป็นต้น

ในกรณีที่การพิจารณาตรวจสอบนั้นเป็นไปตามข้อกำหนด ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ทำการระบุลงในช่องบันทึกการตรวจสอบของหนังสือรับรองการขนส่งทางบก ในกรณีที่การพิจารณาตรวจสอบนั้นไม่เป็นไปตามข้อกำหนดให้สั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนดหรือสั่งให้ดำเนินขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงแก้ไข

มาตรา 21 ให้หน่วยงานตรวจวัดสมรรถนะโดยรวมของรถยนต์ ใช้อุปกรณ์ เครื่องมือที่เป็นไปตามมาตรฐาน และทำการตรวจวัดรถพาหนะขนส่งสินค้าตามมาตรฐานการตรวจวัดเทคโนโลยีของรถพาหนะขนส่งที่เกี่ยวข้องของประเทศ และต้องรับผิดชอบต่อรายงานการตรวจวัดรถพาหนะที่ออก และให้สร้างแฟ้มข้อมูลการตรวจวัดสำหรับรถพาหนะที่ได้รับการตรวจวัดแล้ว

มาตรา 22 ห้ามมิให้ใช้รถพาหนะซึ่งถูกระบุว่าเป็นของเสีย รถพาหนะซึ่งทำการเปลี่ยนแปลงติดตั้งโดยพลการ รถพาหนะที่ทำการต่อเติม รถพาหนะที่ตรวจวัดไม่ผ่านรวมถึงรถพาหนะที่ไม่เป็นไปตามกฎของประเทศในการประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบก

มาตรา 23 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าและหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลขึ้นไปแยกการสร้างแฟ้มข้อมูลเทคโนโลยีของรถพาหนะขนส่งผู้โดยสารและแฟ้มข้อมูลการควบคุมและให้ทำการเก็บรักษาอย่างดี ให้ทำการบันทึกรายละเอียดที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว ครบถ้วนและถูกต้อง และห้ามมิให้แก้ไขตามอำเภอใจ

รายละเอียดสำคัญในแฟ้มข้อมูลเทคโนโลยีของรถพาหนะของผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้า ได้แก่ สถานการณ์ทั่วไปของรถพาหนะ สถานการณ์การเปลี่ยนอะไหล่ที่สำคัญ การซ่อมแซมและบันทึกการดูแลรักษาระดับที่ 2 (รวมถึงหนังสือรับรองผ่านคุณสมบัติในการออกจากโรงงาน) บันทึกการประเมินและระบุระดับเทคโนโลยี บันทึกการเปลี่ยนแปลงรถพาหนะ บันทึกระยะทางการเดินรถ บันทึกอุบัติเหตุทางการจราจร เป็นต้น

รายละเอียดสำคัญในแฟ้มข้อมูลการควบคุมรถพาหนะของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ได้แก่ สถานการณ์ทั่วไปของรถพาหนะ บันทึกการดูแลรักษาระดับที่ 2 และบันทึกการตรวจวัด บันทึกการประเมินและระบุระดับเทคโนโลยี บันทึกการเปลี่ยนแปลงรถพาหนะ บันทึกอุบัติเหตุทางการจราจร เป็นต้น

ในขณะที่ดำเนินขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ของรถขนส่งสินค้า ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าส่งแฟ้มข้อมูลเทคโนโลยีของรถพาหนะที่สมบูรณ์ ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลขึ้นไปทำการดูแลควบคุมสถานการณ์ตามแฟ้มข้อมูลเทคโนโลยีของรถพาหนะที่ได้จัดทำขึ้น

มาตรา 24 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารคืนหนังสือรับรองการขนส่งทางบกในกรณีที่รถพาหนะขนส่งสินค้าเข้าตามมาตรฐานการระบุว่าเป็นของเสียของประเทศหรือหลักการตรวจวัดแล้วไม่เป็นไปตามมาตรฐานของประเทศ และห้ามมิให้นำรถพาหนะดังกล่าวไปใช้ในการประกอบกิจการขนส่งสินค้าต่ออีก

หมวดที่ 4 การควบคุมการประกอบกิจการขนส่งสินค้า

มาตรา 25 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารดำเนินกิจการขนส่งสินค้าตามขอบเขตการประกอบกิจการที่ได้รับอนุญาตซึ่งได้กำหนดในหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบก ห้ามมิให้โอน นำออกให้เช่าซึ่งเอกสารหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบก

มาตรา 26 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกส่งเสริมฝึกฝนด้านความปลอดภัย คุณธรรมในอาชีพ ความรู้ในหน้าที่การงาน กฎระเบียบในการปฏิบัติงานแก่พนักงานประกอบการ

มาตรา 27 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกใช้บันทึกการเดินรถสำหรับรถขนส่งสินค้าหรือรถลากขนาดใหญ่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของประเทศ และให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันมิให้พนักงานขับรถขับรถติดต่อกันเป็นเวลาเกินกว่า 4 ชั่วโมง

มาตรา 28 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกสั่งให้พนักงานขับรถพาหนะที่ได้จ้างพกพาหนังสือรับรองการขนส่งทางบกติดรถ

ห้ามมิให้โอน นำออกให้เช่า เพิ่มเติมแก้ไข หรือปลอมแปลงซึ่งหนังสือรับรองการขนส่งทางบก

มาตรา 29 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกทำการจ้างพนักงานขับรถที่มีหนังสือรับรองคุณสมบัติการประกอบกิจการ

มาตรา 30 ให้พนักงานขับรถที่ประกอบกิจการขนส่งทำการขับขี่รถพาหนะตามประเภทของการรับรองคุณสมบัติการประกอบกิจการ และให้พกพาหนังสือรับรองคุณสมบัติการประกอบกิจการ ติดตัวในเวลาที่ทำการขับรถพาหนะ

มาตรา 31 สินค้าที่ขนส่งต้องสอดคล้องตามการพิจารณากำหนดของรถพาหนะขนส่งสินค้าในเรื่องน้ำหนักการบรรทุก ความยาว ความกว้างและความสูงของสินค้าที่บรรทุก ห้ามมิให้กระทำการอันขัดต้อข้อกำหนดในเรื่องการบรรทุก ห้ามมิให้รถพาหนะขนส่งสินค้าทำการขนส่งและบรรทุกเกินข้อจำกัดของประเทศ

ห้ามมิให้ใช้รถพาหนะขนส่งสินค้าในการขนส่งผู้โดยสาร

มาตรา 32 ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกทำการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ ให้กำหนดแผนการการจัดการการขนส่งทางบก หากเข้าข่ายการขนส่งที่เกินข้อจำกัด ให้ดำเนินขั้นตอนการพิจารณาที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการขับขี่รถพาหนะขนส่งที่เกินกว่าข้อจำกัด

มาตรา 33 ให้รถพาหนะที่ใช้ในการประกอบกิจการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ทำการติดตั้งสัญลักษณ์ตามแบบมาตรฐานและแขวนธงสัญลักษณ์ตามที่กฎหมายกำหนดและให้ทำการติดตั้งไฟสัญลักษณ์สำหรับการขับขี่ในเวลากลางคืนและการจอดพักรถ

มาตรา 34 ห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกทำการขนส่งสินค้าที่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายห้ามไว้

ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดในการขนส่ง ในขณะที่ทำการขนส่งสินค้าโดยอาศัยหนังสือรับรองการขนส่งดังกล่าว ให้ทำการขนส่งได้หลังจากที่ได้ตรวจสอบและรับรองความสมบูรณ์ในขั้นตอนที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผู้รับขนต้องดำเนินขั้นตอนในเรื่องข้อจำกัดในการขนส่งและขั้นตอนการขนส่งโดยอาศัยเอกสารรับรองตามที่กฎหมายกำหนด

มาตรา 35 ห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกใช้วิธีการที่ทุจริตในการเรียกสินค้าหรือทำการผูกขาด ห้ามมิให้ห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกขัดขวางการประกอบกิจการขนส่งตามปกติ

ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเปลี่ยนแปลงทางคุณภาพ เน่าเสีย น้อยลงหรือเสียหายของสินค้า

มาตรา 36 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกและผู้รับขนจัดทำสัญญาขนส่งสินค้าทางบกโดยเป็นไปตามกฎหมายสัญญา

กิจการขนส่งสินค้าทางบกสามารถใช้ใบรายการการขนส่งสินค้าทางบกที่ได้แนะนำในกฎว่าด้วยการขนส่งสินค้าทางรถยนต์ในการจัดทำสัญญาขนส่ง

มาตรา 37 ให้รัฐทำการสนับสนุนการขนส่งในลักษณะปิดมิดชิด และให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการเกิดน้ำไหลหรือสาดกระเด็น

มาตรา 38 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกกำหนดแผนคาดการณ์ล่วงหน้าในกรณีฉุกเฉินสำหรับการขนส่งทางบกเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางการจราจร ภัยพิบัติทางธรรมชาติ สุขอนามัยของสาธารณะและอุบัติเหตุต่อสาธารณะ โดยแผนคาดการณ์ล่วงหน้าในกรณีฉุกเฉินนี้ให้รวมถึงเนื้อหาต่างๆ เช่น ขั้นตอนการรายงาน การสั่งการในกรณีฉุกเฉิน การจัดเตรียมรถพาหนะและอุปกรณ์ในกรณีฉุกเฉิน รวมไปถึงมาตรการในการแก้ไขปัญหา เป็นต้น

มาตรา 39 เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางการจราจร ภัยพิบัติทางธรรมชาติ สุขอนามัยของสาธารณะและอุบัติเหตุต่อสาธารณะ ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกดำเนินการตามมาตรฐานการแก้ไขและปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลประชนชาระดับอำเภอขึ้นไปหรือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 40 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกปฏิบัติตามกฎหมายราคาที่เกี่ยวข้องของประเทศ ห้ามมิให้ทำการกดราคาเพื่อการแข่งขันโดยมิชอบ

หมวดที่ 5 การควบคุมการประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้า

มาตรา 41 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกดำเนินการประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารตามรายการที่ได้รับอนุญาต และห้ามมิให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงเส้นทางของสถานีขนส่งผู้โดยสารและประสิทธิภาพการบริการ

มาตรา 42 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกส่งเสริมการควบคุมความปลอดภัย ปฏิบัติตามเงื่อนไขการสร้างความปลอดภัยอย่างครบถ้วน สร้างระบบความรับผิดชอบในการสร้างความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์และเป็นจริง

ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกทำการตรวจตราความปลอดภัยรถขนส่งผู้โดยสารที่ออกจากสถานี ห้ามมิให้รถที่บรรทุกเกินน้ำหนักหรือรถพาหนะที่มิได้ตรวจสอบความปลอดภัยออกจากสถานีและประกันในการสร้างความปลอดภัย

มาตรา 43 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกทำการเก็บสินค้าโดยแยกตามประเภทตามลักษณะของสินค้าและข้อบังคับการเก็บรักษา ให้เก็บสินค้าอันตรายแยกไว้ต่างหาก และรับประกันว่าสินค้าจะอยู่ในสภาพดีไม่มีความเสียหาย

มาตรา 44 บรรจุภัณฑ์ในการขนส่งสินค้าต้องเป็นไปตามมาตรฐานบรรจุภัณฑ์ในการขนส่งสินค้า มาตรฐานวัสดุของบรรจุภัณฑ์ เทคโนโลยีสำหรับบรรจุภัณฑ์ของประเทศ โดยคุณภาพต้องสอดคล้องตามข้อกำหนดในเรื่องการขนส่ง

มาตรา 45 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกทำการบรรทุกขนส่งสินค้าตามข้อบังคับในการปฏิบัติงานตามที่ได้กำหนด การบรรทุกขนส่งต้องทำการบรรจุและบรรทุกอย่างระวัง จัดเรียงให้เรียบร้อยครบถ้วน กันมิให้โดนโคลน สิ่งแปลกปลอมหรือน้ำ กันการชำรุดเสียหาย และห้ามมิให้ขนสินค้าที่มีเชื้อโรคหรือง่ายต่อการติดเชื้อปนกับผลิตภัณฑ์อาหารโดยเด็ดขาด

มาตรา 46 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกทำการควบคุมราคาอย่างเข้มงวด ให้ประกาศรายการและมาตรฐานราคาในสถานที่ประกอบกิจการ และห้ามมิให้เก็บค่าใช้จ่ายโดยมิชอบ

มาตรา 47 กิจการหรือรถพาหนะที่เข้ามาประกอบการในสถานีขนส่งสินค้าต้องดำเนินขั้นตอนการประกอบกิจการอย่างครบถ้วน

ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกปฏิบัติต่อผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกที่ใช้สถานีขนส่งสินค้านั้นอย่างเป็นธรรม ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งทางบกห้ามมิให้รถพาหนะที่ไม่มีหนังสือรับรองเข้ามาในสถานีเพื่อประกอบกิจการ และห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งทางบกปฏิเสธการเข้ามาในสถานีของรถพาหนะเพื่อประกอบกิจการโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

มาตรา 48 ห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกทำการผูกขาดแหล่งที่มาของสินค้า แย่งบรรจุสินค้าหรือยึดสินค้า

มาตรา 49 ให้รักษาความสะอาดของสถานีขนส่งสินค้า สัญลักษณ์การบริการทุกสัญลักษณ์ต้องชัดเจน

มาตรา 50 การบริการบรรจุเพื่อขนส่งของกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกให้เป็นไปตามหลักความสมัครใจ การให้ข้อมูลแหล่งที่มาของสินค้าและข้อมูลกำลังการขนส่งต้องเป็นจริงและถูกต้อง

มาตรา 51 ห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกทำการบรรทุกสินค้าเกินจำกัด ห้ามมิให้ให้บริการแก่ผู้ที่ไม่มีหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบก หรือผู้ที่มีหลักฐานรับรองไม่ครบถ้วน ห้ามมิให้กระทำการอันขัดกต่อกฎหมายในการบรรจุสินค้าต้องห้ามหรือจำกัดในการห้ามตามกฎหมายของประเทศแก่รถพาหนะขนส่ง

มาตรา 52 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกกำหนดแผนคาดการณ์ล่วงหน้าในกรณีฉุกเฉินสำหรับการขนส่งทางบกเมื่อเกิดอุบัติเหตุต่อสาธารณะ โดยแผนคาดการณ์ล่วงหน้าในกรณีฉุกเฉินนี้ให้รวมถึงเนื้อหาต่างๆ เช่น ขั้นตอนการรายงาน การสั่งการในกรณีฉุกเฉิน การจัดเตรียมรถพาหนะและอุปกรณ์ในกรณีฉุกเฉิน รวมไปถึงมาตรการในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นต้น

มาตรา 53 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกสร้างบัญชีและแฟ้มข้อมูลให้เสร็จเรียบร้อย และให้ทำการรายงานและส่งเอกสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยเร็วตามที่กฎหมายกำหนด

หมวดที่ 6 การดูแลตรวจสอบ

มาตรา 54 ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ทำการดูแลตรวจสอบการประกอบกิจการสินค้าทางบกและการประกอบกิจการสถานีสินค้าทางบก

ให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ทำการดูแลตรวจสอบตามขอบอำนาจและวิธีการตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเข้มงวด

มาตรา 55 ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก และเจ้าหน้าที่ทำการดูแลตรวจสอบการประกอบกิจการขนส่งสินค้าและการประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้า โดยเน้นที่สถานีขนส่งส้นค้า สถานที่ในการรวมและกระจายสินค้า นอกจากนี้ให้ทำการดูแลตรวจบริเวณทางแยกของถนนทางหลวง ห้ามมิให้ทำการสกัดกั้นรถพาหนะขนส่งทางบกที่เดินรถตามปกติตามอำเภอใจ ห้ามมิให้ทำการสกัดกั้นรถพาหนะเพื่อทำการดูแลตรวจสอบทั้งสองทิศทาง

มาตรา 56 ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ทำการดูแลตรวจสอบการขนส่งทางบกนั้น ให้ใช้เจ้าหน้าที่ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปในการดูแลตรวจสอบ และให้แสดงเอกสารรับรองการปฏิบัติงานจราจรตามกฎหมายที่เป็นแบบแผนเดียวกันซึ่งออกโดยกระทรวงคมนาคมต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 57 ให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ทำการตรวจสอบเพื่อทำความเข้าใจจากหน่วยงานหรือบุคคลผู้ถูกตรวจสอบและทำการตรวจสอบ ดูและทำสำเนาเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยให้เจ้าหน้าที่รักษาข้อมูลอันเป็นความลับทางการค้าของหน่วยงานหรือบุคคลผู้ถูกตรวจสอบ

หน่วยงานหรือบุคคลผู้ถูกตรวจสอบต้องรับการตรวจสอบตามกฎหมายจากหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก และเจ้าหน้าที่ และให้หน่วยงานหรือบุคคลผู้ถูกตรวจสอบแสดงเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามความเป็นจริงหรืออธิบายข้อเท็จจริงตามความเป็นจริง

มาตรา 58 ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ทำการตรวจสอบสถานีขนส่งส้นค้าหรือสถานที่ในการรวมและกระจายสินค้านั้น หากพบว่ารถพาหนะขนส่งสินค้ามีพฤติกรรมการบรรทุกเกินน้ำหนัก ให้รีบสั่งให้หยุดและให้อนุญาตปล่อยเมื่อทำการบรรทุกโดยเป็นไปตามมาตรฐานแล้ว

มาตรา 59 ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าประกอบกิจการนอกเหนือจากพื้นที่ของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ที่ได้ให้อนุญาตโดยขัดต่อกฎหมาย ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ประจำท้องที่ที่เกิดการกระทำอันขัดต่อกฎหมายบันทึกข้อเท็จจริงของกระทำอันขัดต่อกฎหมายและผลการลงโทษลงบน หนังสือรับรองการขนส่งทางบกตามที่กฎหมายกำหนด และให้แจ้งไปยังหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ที่ได้ให้การอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบก

มาตรา 60 ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจกาขนส่งสินค้าได้กระทำการอันขัดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้แต่ไม่ยอมรับการลงโทษ หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสามารถยึดชั่วคราวซึ่งหนังสือรับรองการขนส่งทางบกและเอกสารรับรองที่เกี่ยวข้องที่หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก เป็นผู้ออกให้ได้ และให้ออกใบรับรองแทน และให้ส่งมอบคืนหลังจากที่รับการลงโทษแล้ว

มาตรา 61 ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ทำการดูแลตรวจสอบการขนส่งทางบกนั้น ให้เจ้าหน้าที่สามารถยึดรถพาหนะซึ่งไม่มีหนังสือรับรองการขนส่งทางบกและไม่สามารถแสดงเอกสารรับรองซึ่งมีผลอื่นๆ ได้ในเวลานั้น และให้ออกหนังสือรับรองการยึดรถพาหนะขนส่งทางบกชั่วคราว (ตามเอกสารแนบท้ายหมายเลข 5) และให้ทำการดูแลรักษารถพาหนะที่ยึดมาอย่างดี ห้ามมิให้ใช้ ถือเอาหรือกระทำการใดอันเป็นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการดูแลรักษา

ให้คู่กรณีที่กระทำผิดกฎหมายไปรับการจัดการแก้ไขปัญหายังสถานที่ที่กำหนดภายในระยะเวลาที่กำหนดในหนังสือรับรองการยึดรถพาหนะขนส่งทางบกชั่วคราว หากไม่ไปรับการจัดการแก้ไขปัญหาภายในระยะเวลาที่กำหนด หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก สามารถทำการตัดสินลงโทษตามกฎหมายได้ และให้ส่งหนังสือคำตัดสินลงโทษให้แก่คู่กรณี หากคู่กรณีไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินลงโทษภายในระยะเวลาที่กำหนดโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ยื่นคำร้องต่อศาลประชาชนเพื่อทำการดำเนินคดี

หมวดที่ 7 ความรับผิดทางกฎหมาย

มาตรา 62 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่มีพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดดังต่อไปนี้ ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้หยุดดำเนินกิจการ ในกรณีที่มีสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ให้ยึดสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายทั้งหมดและปรับตั้งแต่สองเท่าขึ้นไปแต่ไม่เกินสิบเท่าของมูลค่าของสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ในกรณีที่ไม่มีสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายหรือสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายมีมูลค่าไม่ถึงสองหมื่นหยวน ให้ปรับเงินตั้งแต่สามหมื่นหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินหนึ่งแสนหยวน ในกรณีที่เข้าองค์ประกอบตามความผิดอาญา ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา (1) ประกอบกิจการขนส่งสินค้าโดยพลการ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบก (2) ใช้หลักฐานอนุญาตประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกที่ไม่มีผลต่างๆ เช่น หลักฐานที่ไม่มีผล ปลอมแปลงหรือแก้ไข เป็นต้น ในการประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบก (3) ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกโดยนอกเหนือไปจากตามรายการที่ได้รับอนุญาต

มาตรา 63 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าหรือผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าโอนหรือนำออกให้เช่าซึ่งหลักฐานรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบกโดยขัดต่อกฎหมาย ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้หยุดการกระทำอันขัดต่อกฎหมายและให้ยึดหลักฐานรับรองที่เกี่ยวข้อง และให้ปรับเงินตั้งแต่สองพันหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นหยวน ในกรณีที่มีสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ให้ยึดสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายทั้งหมด

มาตรา 64 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าใช้รถพาหนะที่ไม่มีหนังสือรับรองการขนส่งทางบกในการประกอบกิจการขนส่งสินค้า ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้อง และให้ปรับเงินตั้งแต่สามพันหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นหยวน

การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าไม่พกพาหนังสือรับรองการขนส่งทางบกให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้อง และลงโทษโดยการตักเตือนหรือปรับเงินตั้งแต่ยี่สิบหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินสองร้อยหยวน

มาตรา 65 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าหรือผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้ามิได้จัดเตรียมตามข้อบังคับความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องเพื่อการเปิดกิจการ ซึ่งอาจเกิดภัยพิบัติร้ายแรงด้านความปลอดภัยในการขนส่งได้ ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่แก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนดและในกรณีที่สถานการณ์มีความร้ายแรง ให้หน่วยงานที่ได้ออกใบอนุญาตเดิมทำการเพิกถอนหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบก หรือเพิกถอนขอบเขตการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 66 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่มีพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดดังต่อไปนี้ ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้อง และให้ปรับเงินตั้งแต่หนึ่งพันหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินสามพันหยวน ในกรณีที่สถานการณ์มีความร้ายแรง ให้หน่วยงานที่ได้ออกใบอนุญาตเดิมทำการเพิกถอนหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบก หรือเพิกถอนขอบเขตการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้อง (1) เรียกรับสินค้าโดยการบังคับ (2) ไม่ใช้มาตรการที่จำเป็นในการป้องกันมิให้สินค้ามีน้ำไหลรั่วซึมหรือสาดกระเด็น

มาตรา 67 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าไม่ทำการบำรุงรักษาหรือตรวจวัดรถพาหนะขนส่งสินค้าตามที่กฎหมายกำหนด ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องและให้ปรับเงินตั้งแต่หนึ่งพันหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินห้าพันหยวน

มาตรา 68 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าใช้รถพาหนะขนส่งผู้โดยสารซึ่งได้ทำการต่อเติมโดยพลการหรือทำการต่อเติมรถพาหนะขนส่งสินค้าที่ได้รับหนังสือรับรองการขนส่งทางบกแล้วโดยพลการ ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องและให้ปรับเงินตั้งแต่ห้าพันหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินสองหมื่นหยวน

มาตรา 69 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่มีพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดดังต่อไปนี้ ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้หยุดดำเนินกิจการ ในกรณีที่มีสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ให้ยึดสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายทั้งหมดและปรับตั้งแต่สองเท่าขึ้นไปแต่ไม่เกินสิบเท่าของมูลค่าของสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ในกรณีที่ไม่มีสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายหรือสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายมีมูลค่าไม่ถึงหนึ่งหมื่นหยวน ให้ปรับเงินตั้งแต่สองหมื่นหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินห้าหมื่นหยวน ในกรณีที่เข้าองค์ประกอบตามความผิดอาญา ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา (1) ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าโดยพลการ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสาร (2) ใช้หลักฐานอนุญาตประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกที่ไม่มีผลต่างๆ เช่น หลักฐานที่ไม่มีผล ปลอมแปลงหรือแก้ไข เป็นต้น ในการประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้า (3) ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าโดยนอกเหนือไปจากตามรายการที่ได้รับอนุญาต

มาตรา 70 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่หน่วยงานตรวจวัดสมรรถนะโดยรวมของรถยนต์ ทำการตรวจวัดโดยไม่เป็นไปตามมาตรฐานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องของประเทศ หรือในกรณีที่หน่วยงานตรวจวัดสมรรถนะโดยรวมของรถยนต์ ออกผลการตรวจวัดโดยมิได้ทำการตรวจวัดจริงหรือออกผลการตรวจวัดโดยไม่เป็นความจริง ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้อง ในกรณีที่มีสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ให้ยึดสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายทั้งหมด ในกรณีที่สิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายมีมูลค่าตั้งแต่ห้าพันหยวนขึ้นไป ให้ปรับเงินตั้งแต่สองเท่าแต่ไม่เกินห้าเท่าของมูลค่าสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ในกรณีที่ไม่มีสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายหรือสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายมีมูลค่าไม่ถึงห้าพันหยวน ให้ปรับเงินตั้งแต่ห้าพันหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินสองหมื่นหยวน ในกรณีที่เข้าองค์ประกอบตามความผิดอาญา ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา

มาตรา 71 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าปล่อยให้รถพาหนะที่บรรทุกเกินจ้อจำกัดหรือเกินน้ำหนักออกจากสถานี ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องและปรับเงินตั้งแต่หนึ่งหมื่นหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินสามหมื่นหยวน

มาตรา 72 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารมีพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดดังต่อไปนี้ ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด ในกรณีที่การแก้ไขไม่ผ่านให้ทำการรายงาน (1) มิได้สร้างแฟ้มข้อมูลเทคนิคของรถพาหนะขนส่งสินค้า (2) มิได้บันทึกการต่อเติมและบันทึกการเดินรถพาหนะขนส่งสินค้าตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของประเทศ (3) รถพาหนะขนส่งสินค้าขนาดใหญ่มิได้แขวนหรือแสดงสัญลักษณ์การขนส่งตามที่กฎหมายกำหนด (4) ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุสาธารณะ มิได้ปฏิบัติตามการจัดการตามการขัดการซึ่งเป็นแบบแผนของรัฐบาลประจำท้องที่ (5) บรรทุกเกินข้อจำกัดหรือบรรทุกเกินน้ำหนัก (6) ขนส่งสินค้าซึ่งไม่มีหนังสือรับรองการขนส่งสินค้าที่ถูกจำกัด (7) บรรทุกขนส่งสินค้าต้องห้ามหรือสินค้าที่ถูกจำกัดโดยไม่มีหนังสือรับรองการตรวจสอบสินค้าต้องห้ามหรือสินค้าที่ถูกจำกัด

มาตรา 74 ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ได้กระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่มีพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดดังต่อไปนี้ ให้ลงโทษตามกฎหมาย ในกรณีที่เข้าองค์ประกอบตามความผิดอาญา ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา (1) ทำการอนุญาตโดยไม่เป็นไปตามเงื่อนไข วิธีการและระยะเวลาที่จำกัดที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมาย (2) เข้าร่วมหรือทำการใดอันถือเสมือนเป็นการเข้าร่วมการประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกหรือกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารทางบก (3) เมื่อพบการกระทำผิดกฎหมายแล้วไม่รีบทำการตรวจสอบแก้ไข (4) ทำการขัดขวางหรือตรวจสอบรถพาหนะขนส่งซึ่งเดินรถตามปกติโดยขัดต่อกฎหมาย (5) ทำการยึดรถพาหนะขนส่งหรือหนังสือรับรองการขนส่งทางบกโดยขัดต่อกฎหมาย (6) เรียกเอาหรือรับเอาซึ่งทรัพย์สินของบุคคลอื่นหรือรับเอาซึ่งสิทธิประโยชน์ใดๆ (7)พฤติการณ์อื่น ๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย

หมวดที่ 8 บทแนบท้าย

มาตรา 75 ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าได้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกระหว่างประเทศหรือประกอบกิจการขนส่งสินค้าอันตราย นอกจากการกระทำทั่วไปที่ได้กำหนดให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ข้อบังคับการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องต่างๆให้เป็นไปตามกฎหมายการควบคุมการขนส่งทางบกระหว่างประเทศและกฎหมายการควบคุมการขนส่งสินค้าอันตรายซึ่งออกโดยกระทรวงคมนาคม

มาตรา 76 การประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางบกหรือการประกอบกิจการสถานีขนส่งสินค้าทางบกโดยใช้รูปแบบการลงทุนในรูปแบบกิจการร่วมทุนระหว่างชาวจีนและชาวต่างชาติ กิจการร่วมค้าระหว่างชาวจีนและชาวต่างชาติหรือวิสาหกิจต่างชาติ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมกิจการขนส่งโดยการลงทุนของวิสาหกิจต่างชาติ

มาตรา 77 หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก สามารถออกหนังสือรับรองอนุญาตการประกอบกิจการขนส่งทางบกและหนังสือรับรองการขนส่งทางบกได้ตามกฎหมายฉบับนี้ และสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมได้ สำหรับมาตรฐานค่าธรรมเนียมที่เป็นรูปธรรมนั้น ให้สำนักงานการคลัง สำนักงานควบคุมราคาของรัฐบาลประชาชนประจำมณฑล เป็นผู้พิจารณากำหนดร่วมกับสำนักงานควบคุมการคมนาคมขนส่งที่มีระดับเดียวกัน

มาตรา 78 กฎหมายฉบับนี้ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 2005 และให้ยกเลิกเงื่อนไขด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจสำหรับการเปิดกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบก(ฉบับชั่วคราว)(ประกาศทางหลวง (1993) หมายเลข 531) ซึ่งประกาศโดยกระทรวงคมนาคมเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ.1993วิธีการควบคุมการขนส่งสินค้าปลีกทางบก(ประกาศทางหลวง (1996) หมายเลข 1039) ซึ่งประกาศโดยกระทรวงคมนาคมเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ.1996 วิธีการใช้และการควบคุมใบขนส่งสินค้าทางบก(ประกาศทางหลวง (1997) หมายเลข 4) ซึ่งประกาศโดยกระทรวงคมนาคมเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ.1997 และกฎหมายว่าด้วยการควบคุมคุณภาพการประกอบกิจการของกิจการขนส่งสินค้าทางบก(ฉบับชั่วคราว)(ประกาศทางหลวง (2001) หมายเลข 154) ซึ่งประกาศโดยกระทรวงคมนาคมเมื่อวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 2001 ในเวลาเดียวกัน

2. กฎหมายการควบคุมการขนส่งผู้โดยสารทางบกและการควบคุมสถานีขนส่งผู้โดยสาร

หน่วยงานผู้ออกกฎหมาย กระทรวงคมนาคม
หมายเลขการประกาศ คำสั่งกระทรวงคมนาคม หมายเลขที่ 10 ปี ค.ศ. 2005
วันประกาศ           13 กรกฎาคม ค.ศ. 2005
วันที่มีผลบังคับใช้       1 สิงหาคม ค.ศ. 2005
วันสิ้นสุดผลบังคับใช้     -
ประเภทกฎหมาย       กฎหมายระดับประเทศ
ที่มาของข้อมูล         กระทรวงคมนาคม

กฎหมายการขนส่งผู้โดยสารทางบกและการควบคุมสถานีขนส่งผู้โดยสาร
(คำสั่งกระทรวงคมนาคม หมายเลขที่ 10 ปี ค.ศ. 2005)

กฎหมายการขนส่งผู้โดยสารทางบกและการควบคุมสถานีขนส่งผู้โดยสารได้ผ่านที่ประชุมกระทรวงคมนาคมครั้งที่ 11 เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 2005 และให้ประกาศนับแต่บัดนี้และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 2005 เป็นต้นไป

รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม

นาย จาง ชุน เสียน

13 กรกฎาคม ค.ศ. 2005

หมวดที่ 1 บททั่วไป

มาตรา 1 เพื่อกำหนดมาตรฐานการประกอบกิจการการขนส่งผู้โดยสารทางบกและสถานี ขนส่งสินค้าทางบก เพื่อรักษาความมีระเบียบของตลาดการขนส่งผู้โดยสารทางบกและคุ้มครองความปลอดภัยในการขนส่งผู้โดยสารทางบก เพื่อการคุ้มครองสิทธิประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของผู้ที่เกี่ยวข้องแต่ละฝ่ายในการขนส่งผู้โดยสารทางบกและสถานีขนส่งผู้โดยสารทางบก จึงให้ตรากฎหมายฉบับนี้ตาม กฎหมายการขนส่งทางบกแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 2 ให้การประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบก (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่ากิจการขนส่งผู้โดยสารทางบก) และการประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารทางบก (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่ากิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารทางบก) เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้

มาตรา 3 การประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกที่ได้กล่าวในกฎหมายฉบับนี้ หมายถึง การใช้รถขนส่งผู้โดยสารเพื่อให้บริการแก่สาธารณะ โดยมีกิจกรรมการขนส่งทางบกในเชิงพาณิชย์ รวมถึง การขนส่งผู้โดยสารโดยขบวนรถซึ่งออกตามกำหนดเวลา (และการขนส่งผู้โดยสารโดยขบวนรถซึ่งออกตามกำหนดเวลาที่เพิ่มเติมนอกเวลา) การขนส่งผู้โดยสารแบบเหมารถและการขนส่งผู้โดยสารนักท่องเที่ยว

(1) การขนส่งผู้โดยสารโดยขบวนรถซึ่งออกตามกำหนดเวลา หมายถึง วิธีการขนส่งรูปแบบหนึ่งโดยรถขนส่งผู้โดยสารจะทำการเดินรถตามเส้นทาง เวลา สถานีและขบวนรถที่แน่นอนทางบกภายในเมือง โดยรวมถึง การขนส่งผู้โดยสารโดยขบวนรถซึ่งออกตามกำหนดเวลาแบบถึงที่หมายโดยตรงและการขนส่งผู้โดยสารโดยขบวนรถซึ่งออกตามกำหนดเวลาแบบทั่วไป การขนส่งผู้โดยสารโดยขบวนรถซึ่งออกตามกำหนดเวลาที่เพิ่มเติมนอกเวลา หมายถึง วิธีการเพิ่มเติมการขนส่งผู้โดยสารของการขนส่งผู้โดยสารโดยขบวนรถซึ่งออกตามกำหนดเวลารูปแบบหนึ่ง ในกรณีที่การขนส่งผู้โดยสารโดยขบวนรถซึ่งออกตามกำหนดเวลาไม่เพียงพอต่อความต้องการหรือไม่สามารถเดินรถได้ตามปกติทำให้ต้องใช้วิธีการเพิ่มหรือจัดรถตามเส้นทาง สถานีของรถขนส่งผู้โดยสารโดยขบวนรถซึ่งออกตามกำหนดเวลา

(2) การขนส่งผู้โดยสารแบบเหมารถ หมายถึง การขนส่งผู้โดยสารโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการขนส่งคณะนักท่องเที่ยว โดยนำรถออกให้ผู้โดยสารเช่าแบบเหมาคันและให้ทำการจัดตารางเวลาการใช้งานได้ด้วยตนเอง บริการการขับขี่ให้ ขับขี่ตามสถานที่ออกรถ สถานที่ปลายทางและเส้นทางที่ได้ทำการตกลงกัน คิดค่าใช้จ่ายกันตามระยะทางที่เดินรถหรือราคาเหมารวมและใช้วิธีการชำระเงินซึ่งเป็นแบบแผนอย่างเดียวกันทั้งหมด

(3) การขนส่งผู้โดยสารนักท่องเที่ยว หมายถึง การขนส่งผู้โดยสารโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการขนส่งนักท่องเที่ยวเพื่อเข้าชม โดยมีการเดินรถขนส่งภายในสถานที่ท่องเที่ยวหรือมีเส้นทางอย่างน้อยหนึ่งเส้นทางอยู่บริเวณพื้นที่ (จุด) ของสถานที่ท่องเที่ยว

การประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารที่ได้กล่าวในกฎหมายฉบับนี้ หมายถึง การจัดตั้งสถานีเพื่อใช้ในการประกอบกิจการขนส่งที่เกี่ยวข้องให้แก่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกและให้แก่ผู้โดยสาร

มาตรา 4 การควบคุมการขนส่งผู้โดยสารทางบกหรือการควบคุมสถานีขนส่งผู้โดยสารให้เน้นที่ตัวบุคคลเป็นหลักและถือเอาความเป็นภัยเป็นสำคัญ ให้ใช้หลักการยุติธรรม เท่าเทียม เปิดเผยและสะดวกแก่ประชาชน ทำลายการผูกขาดภายในพื้นที่ กระตุ้นความเป็นแบบแผน การเปิดตลาด การแข่งขันและความมีระเบียบของตลาดการขนส่งทางบกตามความต้องการของสาธารณชน

ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกและผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารทางบกประกอบกิจการตามกฎหมายด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แข่งขันอย่างเป็นธรรมและบริการอย่างมีคุณภาพ

มาตรา 5 ให้รัฐใช้ระบบการประเมินระดับและระบบการสอบพิจารณาความน่าเชื่อถือคุณภาพสำหรับกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบก ส่งเสริมให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกขยายขนาดกิจการ ร่วมมือกันในการประกอบกิจการและใช้รูปแบบบริษัทในการประกอบกิจการ ห้ามมิให้ประกอบกิจการโดยใช้รูปแบบบริษัทในเครือ

มาตรา 6 ให้กระทรวงคมนาคมขนส่ง เป็นผู้ควบคุมงานการควบคุมการขนส่งผู้โดยสารทางบกและสถานีขนส่งผู้โดยสารทางบกทั่วประเทศ ให้สำนักงานควบคุมการคมนาคมขนส่ง แห่งรัฐประชาชนท้องที่ระดับอำเภอขึ้นไปเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการงานการควบคุมการขนส่งผู้โดยสารทางบกและสถานีขนส่งผู้โดยสารทางบกในท้องที่นั้นๆ

ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปเป็นผู้รับผิดชอบในการการควบคุมการขนส่งผู้โดยสารทางบกและสถานีขนส่งผู้โดยสารทางบกอย่างเป็นรูปธรรม

หมวดที่ 2 การอนุญาตประกอบกิจการ

มาตรา 7 ให้แบ่งประเภทเส้นทางการขนส่งผู้โดยสารประจำทางตามพื้นที่การประกอบกิจการหรือความยาวของระยะทางเป็นสี่ประเภทดังต่อไปนี้

เส้นทางการขนส่งผู้โดยสารประจำทางประเภทที่ 1: เส้นทางการขนส่งผู้โดยสารระหว่างพื้นที่หรือเส้นทางการขนส่งผู้โดยสารซึ่งมีความยาวของเส้นทางไม่เกิน 800 กิโลเมตร

เส้นทางการขนส่งผู้โดยสารประจำทางประเภทที่ 2: เส้นทางการขนส่งผู้โดยสารระหว่างอำเภอภายในเขตพื้นที่

เส้นทางการขนส่งผู้โดยสารประจำทางประเภทที่ 3: เส้นทางการขนส่งผู้โดยสารระหว่างอำเภอซึ่งมิได้อยู่ติดกัน

เส้นทางการขนส่งผู้โดยสารประจำทางประเภทที่ 4: เส้นทางการขนส่งผู้โดยสารระหว่างอำเภอที่อยู่ติดกันหรือเส้นทางการขนส่งผู้โดยสารภายในอาณาเขตอำเภอ

คำว่า พื้นที่ ที่ได้กล่าวไว้ในกฎหมายฉบับนี้ หมายถึง พื้นที่ของรัฐบาลประชาชนของเมือง เขตการปกครอง พื้นที่การปกครองท้องถิ่นของเขตการปกครองตนเอง และคำว่า อำเภอ ที่ได้กล่าวไว้ในกฎหมายฉบับนี้ หมายถึง อำเภอ รวมถึง อำเภอ อำเภอในมองโกเลีย (หน่วยการแบ่งเขตการปกครองของมองโกเลียซึ่งเท่ากับอำเภอ) เมืองระดับอำเภอ พื้นที่ระดับอำเภอของเมือง เขตการปกครอง พื้นที่การปกครองท้องถิ่นของเขตการปกครองตนเอง

ในกรณีที่พื้นที่เมืองของเมืองระดับอำเภอมีพื้นที่ต่อเนื่องหรือทับซ้อนกับพื้นที่ของเมือง ให้ถือเอาพื้นที่ของจุดเริ่มต้นของสถานขนส่งผู้โดยสารทางบกเป็นพื้นที่ของจุดเริ่มต้นของเส้นทางการเดินรถประจำทางนั้น

มาตรา 8 การขนส่งผู้โดยสารแบบเหมารถนั้นให้แบ่งตามพื้นที่การประกอบกิจการ โดยแบ่งเป็นการขนส่งผู้โดยสารแบบเหมารถระหว่างมณฑล การขนส่งผู้โดยสารแบบเหมารถภายในมณฑล การขนส่งผู้โดยสารแบบเหมารถภายในมณฑลแบ่งเป็น การขนส่งผู้โดยสารแบบเหมารถระหว่างเมือง การขนส่งผู้โดยสารแบบเหมารถระหว่างอำเภอและ การขนส่งผู้โดยสารแบบเหมารถภายในอำเภอ

มาตรา 9 การขนส่งผู้โดยสารนักท่องเที่ยวนั้นให้แบ่งตามวิธีการประกอบกิจการขนส่ง โดยแบ่งเป็นการขนส่งผู้โดยสารนักท่องเที่ยวแบบระบุเส้นทางและการขนส่งผู้โดยสารนักท่องเที่ยวแบบไม่ระบุเส้นทาง

ให้ควบคุมการขนส่งผู้โดยสารนักท่องเที่ยวแบบระบุเส้นทางตามการขนส่งผู้โดยสารโดยขบวนรถซึ่งออกตามกำหนดเวลา และ ให้ควบคุมการขนส่งผู้โดยสารนักท่องเที่ยวแบบไม่ระบุเส้นทางตามการขนส่งผู้โดยสารแบบเหมารถ

มาตรา 10 การยื่นคำร้องขอประกอบกิจการการขนส่งทางบก ให้เตรียมตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้

(หนึ่ง) รถขนส่งผู้โดยสารที่ผ่านคุณสมบัติการตรวจวัดที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการ

1. เงื่อนไขด้านเทคโนโลยีของรถขนส่งผู้โดยสาร

(1) ประสิทธิภาพของเทคโนโลยีสอดคล้องตามมาตรฐานของประเทศตาม ข้อบังคับในเรื่องสมรรถนะโดยรวมและวิธีการตรวจสอบรถพาหนะขนส่ง(GB18565)

(2) ขนาดภายนอกของตัวรถ แกนรับน้ำหนักรวมถึงคุณภาพสอดคล้องตามมาตรฐานของประเทศตามข้อจำกัดในเรื่องแกนรับน้ำหนักรวมถึงคุณภาพ(GB1589)

(3) รถพาหนะในการขนส่งผู้โดยสารโดยใช้ทางด่วนหรือรถพาหนะในการขนส่งผู้โดยสารโดยมีระยะทางตั้งแต่ 800 กิโลเมตรขึ้นไป ระดับของเทคโนโลยีต้องถึงระดับที่ 1 ตามมาตรฐานวิชาชีพในเรื่องข้อบังคับการแบ่งระดับและระบุอันดับเทคโนโลยีของรถพาหนะขนส่ง(JT/T198)รถพาหนะในการขนส่งผู้โดยสารโดยมีระยะทางตั้งแต่ 400 กิโลเมตรขึ้นไป ระดับของเทคโนโลยีถึงตั้งแต่ระดับที่ 2 ขึ้นไป รถพาหนะในการขนส่งผู้โดยสารอื่น ระดับของเทคโนโลยีถึงตั้งแต่ระดับที่ 3 ขึ้นไป

การขนส่งผู้โดยสารโดยใช้ทางด่วน ซึ่งได้บัญญัติไว้ในกฎหมายฉบับนี้ หมายถึง การคมนาคมขนส่งซึ่งเส้นทางการขนส่งมีทางด่วนเป็นระยะทางตั้งแต่ 200 กิโลเมตรขึ้นไปหรือการคมนาคมขนส่งซึ่งเส้นทางการขนส่งมีการใช้ทางด่วนร้อยละ 70 ขึ้นไป

2. เงื่อนไขเรื่องระดับประเภทของรถขนส่งผู้โดยสาร

รถพาหนะในการขนส่งผู้โดยสารโดยใช้ทางด่วนหรือรถพาหนะในการขนส่งผู้โดยสารโดยมีระยะทางตั้งแต่ 800 กิโลเมตรขึ้นไป ระดับประเภทของรถโดยสารต้องถึงตั้งแต่ระดับกลางเป็นต้นไป ตามมาตรฐานวิชาชีพในเรื่องข้อบังคับการแบ่งระดับและระบุระดับรถพาหนะในการขนส่งผู้โดยสาร(JT/T325)

3. เงื่อนไขเรื่องปริมาณรถขนส่งผู้โดยสาร

(1) ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารโดยขบวนรถซึ่งออกตามกำหนดเวลาที่ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารประเภทที่ 1 ต้องมีรถที่ใช้ในการประกอบกิจการขนส่งของตนเองเป็นจำนวนตั้งแต่ 100 คันขึ้นไปและมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารตั้งแต่ 3,000 ที่นั่งขึ้นไป โดยในจำนวนนั้นต้องมีรถขนส่งผู้โดยสารระดับสูง 30 คันขึ้นไปและมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารตั้งแต่ 900 ที่นั่งขึ้นไป หรือมีรถขนส่งผู้โดยสารระดับสูง 40 คันขึ้นไปและมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารตั้งแต่ 1,200 ที่นั่งขึ้นไป

(2) ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารโดยขบวนรถซึ่งออกตามกำหนดเวลาที่ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารประเภทที่ 2 ต้องมีรถที่ใช้ในการประกอบกิจการขนส่งของตนเองเป็นจำนวนตั้งแต่ 50 คันขึ้นไปและมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารตั้งแต่ 1,500 ที่นั่งขึ้นไป โดยในจำนวนนั้นต้องมีรถขนส่งผู้โดยสารระดับสูง 15 คันขึ้นไปและมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารตั้งแต่ 450 ที่นั่งขึ้นไป หรือมีรถขนส่งผู้โดยสารระดับสูง 20 คันขึ้นไปและมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารตั้งแต่ 600 ที่นั่งขึ้นไป

(3) ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารโดยขบวนรถซึ่งออกตามกำหนดเวลาที่ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารประเภทที่ 3 ต้องมีรถที่ใช้ในการประกอบกิจการขนส่งของตนเองเป็นจำนวนตั้งแต่ 10 คันขึ้นไปและมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารตั้งแต่ 200 ที่นั่งขึ้นไป

(4) ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารโดยขบวนรถซึ่งออกตามกำหนดเวลาที่ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารประเภทที่ 4 ต้องมีรถที่ใช้ในการประกอบกิจการขนส่งของตนเองเป็นจำนวนตั้งแต่ 1 คันขึ้นไป

(5) ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารแบบเหมารถระหว่างมณฑลต้องมีรถขนส่งผู้โดยสารระดับสูง 20 คันขึ้นไปและมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารตั้งแต่ 600 ที่นั่งขึ้นไป

(6) ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารแบบเหมารถภายในมณฑลต้องมีรถขนส่งผู้โดยสารระดับสูง 5 คันขึ้นไปและมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารตั้งแต่ 100 ที่นั่งขึ้นไป

(สอง) พนักงานขับรถซึ่งประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารต้องเป็นไปตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้

1. ต้องได้รับหนังสือรับรองการขับขี่รถยนต์ ที่เกี่ยวข้อง

2. อายุไม่เกิน 60 ปี

3. ไม่เคยมีบันทึกความรับผิดในอุบัติเหตุการคมนาคมอย่างร้ายแรงหรือสูงกว่าในช่วง 3 ปีสุดท้าย

4. ผ่านคุณสมบัติการทดสอบความรู้ในการซ่อมแซมรถยนต์และการช่วยเหลือผู้โดยสารในกรณีฉุกเฉินตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการขนส่งผู้โดยสารของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับเมืองในท้องที่นั้นและได้รับหนังสือรับรองคุณสมบัติการประกอบกิจการ ที่เกี่ยวข้อง

คำว่า ความรับผิดในอุบัติเหตุการคมนาคม ที่ได้กล่าวในกฎหมายนี้ หมายถึง อุบัติเหตุการคมนาคมที่ผู้ขับรถมีความรับผิดในระดับเดียวกันหรือระดับที่สูงกว่า

(สาม) มีระบบการควบคุมการสร้างความปลอดภัยที่สมบูรณ์ ให้รวมถึงกฎระเบียบในการปฏิบัติงานการสร้างความปลอดภัย ระบบความรับผิดชอบในการสร้างความปลอดภัย การดูแลตรวจสอบการสร้างความปลอดภัย ระบบการควบคุมการสร้างความปลอดภัยของพนักงานขับรถและรถพาหนะ

(สี่) ผู้ยื่นคำร้องขอประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารต้องมีแผนการที่ชัดเจนในเรื่องเส้นทางและสถานี

มาตรา 11 การยื่นคำร้องขอประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารต้องเตรียมตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้

(1) สถานีขนส่งผู้โดยสารต้องผ่านคุณสมบัติจากการตรวจสอบทางวิศวกรรมโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผ่านคุณสมบัติการตรวจสอบระดับของสถานีโดยหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก

(2) มีจำนวนพนักงานผู้เชี่ยวชาญและพนักงานผู้ควบคุมเพียงพอ

(3) มีอุปกรณ์ สาธารณูปโภคและข้อกำหนดอย่างเป็นรูปธรรมที่เกี่ยวข้องโดยเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพในเรื่อง ข้อกำหนดการแบ่งระดับและการสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสารทางบก(JT/T200)

(4) มีข้อบังคับการปฏิบัติงานและระบบการควบคุมความปลอดภัยที่สมบูรณ์ รวมถึง มาตรฐานการบริการ ข้อบังคับการปฏิบัติงานในการสร้างความปลอดภัย ระบบการตรวจรถตัวอย่างก่อนออกรถพาหนะ ระบบความรับผิดในการสร้างความปลอดภัย การตรวจสอบและหยุดยั้งวัตถุอันตราย ระบบการดูแลตรวจสอบการสร้างความปลอดภัย

มาตรา 12 การยื่นคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสาร ให้ทำการยื่นคำร้องขอตามกฎเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(1) การประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารภายในเขตพื้นที่อำเภอ ให้ยื่นคำร้องขอต่อหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอ

(2) การประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารภายในเขตพื้นที่มณฑล เขตปกครองตนเอง เทศบาลนครโดยข้ามเขตพื้นที่อำเภอตั้งแต่สองอำเภอเป็นต้นไป ให้ยื่นคำร้องขอต่อหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ซึ่งมีเขตอำนาจเดียวกันที่มีระดับสูงขึ้นไป

(3) การประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารข้ามพื้นที่ของมณฑล เขตปกครองตนเอง เทศบาลนคร ให้ยื่นคำร้องขอต่อหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ของมณฑล เขตปกครองตนเอง เทศบาลนคร ณ ท้องที่ที่ตั้งอยู่

มาตรา 13 ให้ผู้ประกอบกิจการที่ยื่นคำร้องขอประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารทำการยื่นคำร้องขอต่อหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอ ณ ท้องที่ที่ตั้งอยู่

มาตรา 14 การยื่นคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสาร ให้ทำการยื่นเอกสารดังต่อไปนี้

(1) เอกสารที่เกี่ยวข้องในการยื่นคำร้องขอเปิดกิจการ

1. แบบฟอร์มการยื่นคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบก

2. หนังสือบริคณห์สนธิของกิจการ

3. หนังสือรับรองสถานะของผู้ลงทุน ผู้รับผิดชอบและสำเนา หนังสือรับรองสถานะของผู้ดำเนินการแทน สำเนาและหนังสือมอบอำนาจ

4. หนังสือแสดงระบบการควบคุมการสร้างความปลอดภัย

5. หนังสือคำมั่นในการลงทุนซึ่งรถพาหนะ รวมถึง ปริมาณ ระดับประเภท จำนวนที่นั่ง ความกว้าง ยาว สูงภายนอกของรถขนส่งผู้โดยสาร เป็นต้น ในกรณีที่รถขนส่งผู้โดยสารที่ลงทุนมาจากการซื้อหรือมีอยู่แล้ว ต้องยื่นหนังสือรับรองการขับขี่ หนังสือรับรองระดับเทคโนโลยีของรถพาหนะ (หนังสือรับรองคุณภาพการตรวจวัดเทคโนโลยีของรถพาหนะ) หนังสือรับรองการระบุระดับของรถขนส่งผู้โดยสาร พร้อมทั้งสำเนา

6. หนังสือรับรองการขับขี่ และหนังสือรับรองคุณสมบัติการประกอบกิจการ ของพนักงานขับรถที่ได้จ้างหรือที่จะได้จ้าง พร้อมทั้งสำเนา หนังสือรับรองของสำนักงานสันติบาลที่รับรองว่าไม่เคยมีบันทึกความรับผิดในอุบัติเหตุการคมนาคมอย่างร้ายแรงหรือสูงกว่าในช่วง 3 ปีสุดท้าย

(2) และหากยื่นคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา ให้ยื่นเอกสารดังต่อไปนี้ด้วย

1. แบบฟอร์มการยื่นคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา

2. รายงานความเป็นไปได้ รวมถึง รายงานการสำรวจสภาพการณ์ของการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาและแผนการประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสาร รายงานการวิเคราะห์ประสิทธิภาพและรายงานผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อผู้ประกอบกิจการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

3. แผนการเข้าสถานี และหนังสือข้อตกลงการเข้าสถานีซึ่งได้ลงนามกับสถานีเริ่มต้นและสิ้นสุดในการขนส่งผู้โดยสารและสถานีจอดแวะ

4. หนังสือคำมั่นในเรื่องคุณภาพการบริการการขนส่ง

มาตรา 15 ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการที่ได้รับอนุญาตในการประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมเส้นทางในการประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา นอกจากเอกสารที่ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 14 (2) แล้ว ให้ยื่นเอกสารดังต่อไปนี้ด้วย

(1) สำเนา หนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบก

(2) หนังสือรับรองการขับขี่ ของกิจการที่เกี่ยวข้องกับการยื่นคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารที่ออกตามกำหนดเวลา โดยที่กิจการดังกล่าวมีรถขนส่งผู้โดยสารที่ประกอบกิจการขนส่งของตนเอง และหนังสือรับรองการขนส่งทางบกพร้อมทั้งสำเนา

(3) หนังสือคำมั่นในการลงทุนซึ่งรถพาหนะ รวมถึง ปริมาณ ระดับประเภท จำนวนที่นั่ง ความกว้าง ยาว สูงภายนอกของรถขนส่งผู้โดยสาร เป็นต้น ในกรณีที่รถขนส่งผู้โดยสารที่ลงทุนมาจากการซื้อหรือมีอยู่แล้ว ต้องยื่นหนังสือรับรองการขับขี่ หนังสือรับรองระดับเทคโนโลยีของรถพาหนะ (หนังสือรับรองคุณภาพการตรวจวัดเทคโนโลยีของรถพาหนะ) หนังสือรับรองการระบุระดับของรถขนส่งผู้โดยสาร พร้อมทั้งสำเนา

(4) หนังสือรับรองการขับขี่ และหนังสือรับรองคุณสมบัติการประกอบกิจการ ของพนักงานขับรถที่ได้จ้างหรือที่จะได้จ้าง พร้อมทั้งสำเนา หนังสือรับรองของสำนักงานสันติบาลที่รับรองว่าไม่เคยมีบันทึกความรับผิดในอุบัติเหตุการคมนาคมอย่างร้ายแรงหรือสูงกว่าในช่วง 3 ปีสุดท้าย

(5) หนังสือรับรองสถานะและสำเนาของผู้ดำเนินการ หนังสือรับรองการทำงานจากหน่วยงานหรือหนังสือมอบอำนาจ

มาตรา 16 การยื่นคำร้องขอประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสาร ให้ทำการยื่นเอกสารดังต่อไปนี้

(1) แบบฟอร์มการยื่นคำร้องขอประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสาร(ตามเอกสารแนบท้ายหมายเลข 3)

(2) หนังสือรับรองการรับการตรวจสอบทางวิศวกรรมสำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสาร และหนังสือรับรองการรับการตรวจสอบระดับของสถานี

(3) หนังสือรับรองสถานะและหนังสือรับรองวิชาชีพของพนักงานผู้เชี่ยวชาญและพนักงานควบคุมที่จะทำการจ้าง พร้อมทั้งสำเนา

(4) หนังสือรับรองสถานะของผู้รับผิดชอบพร้อมทั้งสำเนา หนังสือรับรองสถานะและสำเนาของผู้ดำเนินการ และหนังสือมอบอำนาจ

(5) หนังสือแสดงข้อบังคับการปฏิบัติงานและหนังสือแสดงระบบการควบคุมการสร้างความปลอดภัย

มาตรา 17 ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปประกาศสถานการณ์ต่างๆ เช่น ปริมาณการลงทุนการขนส่งผู้โดยสาร ข้อมูลเส้นทางการขนส่งผู้โดยสาร ทิศทางและปริมาณการไหลเวียนการขนส่งผู้โดยสารที่สำคัญต่อสาธารณะตามกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน

ในขณะที่หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ทำการพิจารณาคำร้องขอนั้น ให้ทำการพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ เช่น อุปสงค์อุปทานของตลาดการขนส่งผู้โดยสาร การบริการโดยทั่วไปและความสะดวกสบายต่อสาธารณชน

มาตรา 18 หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก อนุญาตการประกอบกิจการขนส่งทางบก การประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาและการประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสาร โดยอาศัยตาม กฎหมายการขนส่งทางบกแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและ กฎว่าด้วยวิธีการการอนุญาตสำหรับการจราจรรวมถึงวิธีการที่ได้กำหนดไว้ในบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้

มาตรา 19 ในกรณีที่หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก รับเรื่องคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกหรือประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ตัดสินอนุญาตหรือไม่อนุญาตภายใน 20 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องด้วยตนเอง ในกรณีที่หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก รับเรื่องคำร้องขอประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ตัดสินอนุญาตหรือไม่อนุญาตภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องด้วยตนเอง

ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ตัดสินอนุญาตให้แก่ผู้ยื่นคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกที่มีเงื่อนไขเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และให้ออก หนังสือตัดสินอนุญาตให้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกโดยให้กำหนดรายการที่อนุญาตให้ชัดเจน โดยรายการที่ได้รับอนุญาตนั้นถือเป็นมาตรฐานการประกอบกิจการ จำนวนและเงื่อนไขเกี่ยวกับรถพาหนะ ประเภทของรถขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา และให้ออกหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบกให้แก่ผู้ที่ได้รับอนุญาตภายในเวลา 10 วันและแจ้งให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ประจำท้องที่ที่ผู้ได้รับอนุญาตตั้งอยู่ทราบ

ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ตัดสินอนุญาตให้แก่ผู้ยื่นคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาที่มีเงื่อนไขเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และให้ออกหนังสือตัดสินอนุญาตให้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา โดยให้กำหนดรายการที่อนุญาตให้ชัดเจน โดยรายการที่ได้รับอนุญาตนั้นถือเป็นเนื้อหาหลักในการประกอบกิจการ ประเภทของรถโดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา สถานีเริ่มต้นและสิ้นสุด เส้นทางการเดินรถและสถานีจอดรถ วันและเวลาการเดินรถ จำนวนและเงื่อนไขเกี่ยวกับรถพาหนะ ระยะเวลาที่จำกัดในการประกอบกิจการและให้ออกหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาให้แก่ผู้ที่ได้รับอนุญาตภายในเวลา 10 วันและแจ้งให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ประจำท้องที่ของเส้นทางเริ่มต้นและสิ้นสุดทราบ ในกรณีที่เป็นการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาข้ามมณฑล ให้นำหนังสือตัดสินอนุญาตให้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาไปแจ้งต่อหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลของพื้นที่ที่มีการขึ้นลงและสถานที่ปลายทางของการขนส่งผู้โดยสาร

ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ตัดสินอนุญาตให้แก่ผู้ยื่นคำร้องขอประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารที่มีเงื่อนไขเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และให้ออกหนังสือตัดสินอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสาร(ตามเอกสารแนบท้ายหมายเลข 6) โดยให้กำหนดรายการที่อนุญาตให้ชัดเจน ได้แก่ ชื่อของผู้ประกอบกิจการ สถานที่ตั้งของสถานี ระดับของสถานีขนส่งและมาตรฐานการประกอบกิจการ และให้ออกหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบกให้แก่ผู้ที่ได้รับอนุญาตภายในเวลา 10 วัน

ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ตัดสินไม่อนุญาตแก่ผู้ยื่นคำร้องขอประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารที่มีเงื่อนไขไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และให้ออกหนังสือตัดสินไม่อนุญาตด้านการคมนาคม

มาตรา 20 ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลที่รับเรื่องคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาข้ามมณฑลออกหนังสือขอความเห็นและแนบแบบฟอร์มการยื่นคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาและส่งโทรสารให้แก่หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลของพื้นที่ที่มีการขึ้นลงและสถานที่ปลายทางของการขนส่งผู้โดยสารเพื่อขอความเห็นภายในเวลา 7 วันหลังจากที่ได้รับคำร้องขอ และให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลที่เกี่ยวข้องแสดงความเห็นและส่งโทรสารให้แก่หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลที่รับเรื่องคำร้องขอภายในเวลา 10 วัน ในกรณีที่ไม่เห็นด้วย ให้แสดงเหตุผลตามกฎหมาย ในกรณีที่ไม่ตอบกลับภายในกำหนดระยะเวลา ให้ถือว่าตกลง

ในกรณีที่หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลที่เกี่ยวข้องมีความเห็นแตกต่างและไม่สามารถเจรจากันได้ในเรื่องการยื่นคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาข้ามมณฑล ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลที่รับเรื่องคำร้องขอนำหนังสือแสดงความเห็นของแต่ละฝ่ายและเอกสารที่เกี่ยวข้องรายงานไปยังกระทรวงคมนาคมขนส่งเพื่อทำการตัดสินโดยยื่นผ่านทางให้สำนักงานควบคุมการคมนาคมขนส่ง ตามสังกัดของตนเอง และแจ้งให้แก่ผู้ยื่นคำร้องขอทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ให้กระทรวงคมนาคมขนส่งทำการตัดสินภายในระยะเวลา 20 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องด้วยตนเองและแจ้งให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลที่เกี่ยวข้องทราบ และให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลที่รับเรื่องดำเนินขั้นตอนที่เกี่ยวข้องตามบทบัญญัติมาตรา 19 และมาตรา 22 แห่งกฎหมายฉบับนี้ให้แก่ผู้ยื่นคำร้องขอ

มาตรา 21 ให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตนำหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบกไปดำเนินขั้นตอนการจดทะเบียนต่อหน่วยงานควบคุมอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม

มาตรา 22 ให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตจัดหาลงทุนรถพาหนะตามหนังสือคำมั่นภายในระยะเวลาที่กำหนด หลังจากที่หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ได้ตรวจสอบความถูกต้องตามหนังสือคำมั่นการลงทุนในรถพาหนะของผู้ที่ได้รับอนุญาตและรถพาหนะสอดคล้องตามเงื่อนไขที่กำหนดแล้ว ให้ออก หนังสือรับรองการขนส่งทางบกให้แก่รถพาหนะโดยสารที่นำมาใช้ในกิจการ ในกรณีที่เป็นรถโดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา ให้ออกป้ายสัญลักษณ์รถโดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา ในขณะเดียวกัน ในกรณีที่ป้ายสัญลักษณ์รถโดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลายังไม่เสร็จสมบูรณ์อย่างเป็นทางการ ให้ทำการออกป้ายสัญลักษณ์รถโดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาชั่วคราว

มาตรา 23 ผู้ประกอบกิจการที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดที่เกี่ยวข้องแล้วต้องการเพิ่มเติมเส้นทางการขนส่งผู้โดยสาร ให้ทำการยื่นคำร้องขอตามบทบัญญัติมาตรา 12 แห่งกฎหมายฉบับนี้

มาตรา 24 ในกรณีที่มีการยื่นคำร้องขอประกอบกิจการขนส่งทางบกต่อหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ในระดับที่ต่างกัน ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับสูงสุดออกหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบกและให้ระบุมาตรฐานการประกอบกิจการที่หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก แต่ละระดับนั้นได้อนุญาต โดยที่หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับที่ต่ำกว่าไม่ต้องออกหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบกซ้ำอีกครั้ง ในกรณีที่หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับที่ต่ำกว่าได้ออกหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบกให้แก่ผู้ที่ได้รับอนุญาตแล้ว ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับที่สูงกว่าทำการเปลี่ยนแปลงการออกตามเงื่อนไขที่ได้กล่าวไว้ในมาตรานี้

มาตรา 25 การประกอบกิจการขนส่งทางบกและการประกอบกิจการสถานีขนส่งโดยใช้วิธีการลงทุนในรูปแบบการร่วมทุนหรือร่วมค้าระหว่างชาวจีนและชาวต่างชาติหรือวิสาหกิจต่างชาติ ให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎว่าด้วยการควบคุมกิจการขนส่งทางบกโดยการลงทุนของชาวต่างชาติ

มาตรา 26 ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งทางบกจัดตั้งบริษัทลูก ให้ยื่นคำร้องอนุญาตประกอบกิจการต่อหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ประจำท้องที่ที่ต้องการจัดตั้งบริษัทลูก ในกรณีที่ต้องการตั้งสาขา ให้รายงานและจดทะเบียนต่อหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ประจำท้องที่ที่ต้องการจัดตั้งสาขานั้นๆ

มาตรา 27 ในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องขอตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปในเส้นทางการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาเส้นทางเดี่ยวกัน หรือในกรณีที่มีความจำเป็นตามสถานการณ์ความเป็นจริง หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก สามารถใช้วิธีคัดสรรจากคุณภาพการบริการเพื่ออนุญาตให้ประกอบกิจการการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา

ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลที่เกี่ยวข้องเป็นผู้กำหนดวิธีการสามารถใช้วิธีคัดสรรจากคุณภาพการบริการ ในกรณีที่เป็นการให้อนุญาตการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาข้ามมณฑล สามารถใช้วิธีการคัดสรรร่วมกันโดยแต่ละให้ฝ่ายแยกกันทำการคัดสรร ในกรณีที่มณฑลใดไม่ใช่วิธีการคัดสรรย่อมไม่ส่งผลต่ออีกมณฑลในการใช้วิธีการคัดสรร

ให้ทำการกำหนดวิธีการควบคุมการคัดสรรจากคุณภาพการบริการสำหรับกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาเส้นทางเดี่ยวกันแยกอีกฉบับหนึ่ง

มาตรา 28 ในระหว่างขั้นตอนการอนุญาตให้ประกอบกิจการการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา ห้ามมิให้หน่วยงานหรือบุคคลใดปฏิเสธหรือขัดขวางการอนุญาตให้ประกอบกิจการการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาโดยเหตุผลอันไม่สมควร เช่น ใช้อำนาจการลงทุน เป็นต้น

มาตรา 29 ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารหรือผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารต้องการเปลี่ยนแปลงรายการที่ได้รับอนุญาตหรือต้องการหยุดดำเนินกิจการ ให้ยื่นคำร้องขอต่อหน่วยงานที่เป็นผู้อนุญาตและดำเนินการตามที่บทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดไว้

ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาหลักในการประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา สถานที่เริ่มต้นและสิ้นสุด วันเวลาในการออกรถหรือในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาหลักในการประกอบกิจการสถานีขนส่ง ที่ตั้งของสถานีขนส่งนั้น ต้องดำเนินการขออนุญาตใหม่ตั้งแต่ต้น

ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารหรือผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารซึ่งได้รับหนังสืออนุญาตในการประกอบกิจการครบถ้วน แต่ภายหลังไม่ทำการลงทุนภายในระยะเวลา 180 วันหรือหลังการเริ่มกิจการแล้วนั้นได้หยุดประกอบกิจการติดต่อกันตั้งแต่ 180 วันขึ้นไปโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ให้ถือว่าผู้ประกอบกิจการได้หยุดการประกอบกิจการโดยอัตโนมัติ

มาตรา 30 ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลเป็นผู้กำหนดระยะเวลาจำกัดในการประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาโดยอาศัยตามบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องในกฎหมายการขนส่งทางบกแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน

มาตรา 31 ในกรณีผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาต้องการหยุดประกอบกิจการชั่วคราวหรือเลิกกิจการในระยะเวลาการประกอบกิจการนั้น ให้ยื่นคำร้องขอต่อหน่วยงานที่เป็นผู้ให้อนุญาตเดิมก่อนเป็นเวลา 30 วัน ในกรณีที่ระยะเวลาจำกัดในการประกอบกิจการได้ครบกำหนดแล้วนั้น หากต้องการต่ออายุการประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา ให้ยื่นคำร้องก่อนครบกำหนดระยะเวลา 60 วัน ให้หน่วยงานที่เป็นผู้ให้อนุญาตเดิมตัดสินอนุญาตหรือไม่อนุญาตตามบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ตัดสินอนุญาต ให้ดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องใหม่ตั้งแต่ต้น

ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารต้องการเลิกดำเนินกิจการ ให้นำหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบกหนังสือรับรองการขนส่งทางบกและป้ายสัญลักษณ์การขนส่งผู้โดยสารที่เกี่ยวข้องคืนให้แก่หน่วยงานที่ออกให้ภายในระยะเวลา 10 วันหลังจากที่เลิกกิจการ

มาตรา 32 ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารต้องการเลิกดำเนินกิจการ ให้แจ้งต่อหน่วยงานที่อนุญาตและผู้ประกอบการที่เข้าใช้สถานีก่อนเลิกกิจการเป็นระยะเวลา 30 วันในกรณีที่หน่วยงานที่อนุญาตพบว่าการเลิกกิจการของผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อสังคมและสาธารณชน ให้หน่วยงานที่อนุญาตใช้มาตรการในการแบ่งการไหลเวียนการเข้าสถานีของรถพาหนะและประกาศต่อสาธารณะ ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารนำหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบกส่งคืนให้แก่หน่วยงานที่ออกให้ภายในระยะเวลา 10 วันหลังจากที่เลิกกิจการ

มาตรา 33 ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารยื่นคำร้องขอดำเนินกิจการต่อหลังจากครบกำหนดการประกอบกิจการการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาที่จำกัดแล้ว หากเป็นไปตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้ ให้อนุญาตโดยเป็นเงื่อนไขลำดับก่อน

(1) ผู้ประกอบกิจการเป็นไปตามเงื่อนไขในบทบัญญัติมาตรา 10 แห่งกฎหมายฉบับนี้

(2) ในระหว่างที่ดำเนินกิจการการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาของผู้ประกอบกิจการนั้น ไม่มีความรับผิดในอุบัติเหตุด้านความปลอดภัยในการขนส่งอย่างร้ายแรง

(3) ในระหว่างที่ดำเนินกิจการการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาของผู้ประกอบกิจการนั้น ไม่มีเรื่องราวด้านคุณภาพการบริการโดยมีเจตนาทุจริต

(4) ในระหว่างที่ดำเนินกิจการการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาของผู้ประกอบกิจการนั้น ไม่มีพฤติกรรมการประกอบกิจการที่ขัดต่อกฎหมาย

(5) ได้ปฏิบัติตามหน้าที่การบริการทั่วไปตามกฎหมาย

หมวดที่ 3 การควบคุมรถพาหนะในการขนส่งผู้โดยสาร

มาตรา 34 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทำการบำรุงรักษา รับรองสภาพทางเทคนิคของรถขนส่งผู้โดยสารที่ดีตามกำหนดระยะเวลา โดยอาศัยตามมาตรฐานด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องของประเทศ

รายการและวิธีการบำรุงรักษารถพาหนะขนส่งผู้โดยสารนั้นให้ปฏิบัติตามกฎว่าด้วยมาตรฐานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรฐานประเทศ มาตรฐานเทคโนโลยีในการบำรุงรักษา ตรวจวัดและวินิจฉัยรถยนต์(GB18344)

ห้ามมิให้หน่วยงานหรือบุคคลใดกำหนดกิจการในการซ่อมแซมรถพาหนะสำหรับผู้ประกอบกิจการอย่างเด็ดขาด ห้ามมิให้ถือเอาสถานการณ์การปฏิบัติงานการบำรุงรักษาระดับที่ 2 สำหรับรถพาหนะเป็นรายการการตรวจตราของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก

มาตรา 35 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทำการตรวจวัดรถพาหนะขนส่งผู้โดยสารตามกำหนดเวลา ตรวจวัดรถพาหนะร่วมกับการพิจารณาตรวจสอบรถพาหนะตามกำหนดเวลา ตามความถี่ที่กำหนดไว้

ภายในกำหนดระยะเวลา ให้ผู้ประกอบกิจการทำการตรวจวัดต่อหน่วยงานตรวจวัดสมรรถนะโดยรวมของรถยนต์ ที่เป็นไปตามเงื่อนไขของประเทศ ให้หน่วยงานตรวจวัดสมรรถนะโดยรวมของรถยนต์ ทำการตรวจวัดตามมาตรฐานของประเทศในเรื่อง ข้อบังคับในเรื่องสมรรถนะโดยรวมและวิธีการตรวจสอบรถพาหนะขนส่ง(GB18565)และข้อจำกัดในเรื่องแกนรับน้ำหนักรวมถึงคุณภาพ(GB1589)และให้แสดงรายงานการตรวจวัดโดยเป็นแบบแผนเดียวกันทั่วประเทศ ให้ทำการประเมินและระบุระดับเทคโนโลยีของรถพาหนะโดยอาศัยผลการตรวจวัดเทียบกับมาตรฐานวิชาชีพข้อบังคับการแบ่งระดับและระบุอันดับเทคโนโลยีของรถพาหนะขนส่ง(JT/T198)โดยระดับเทคโนโลยีของรถพาหนะขนส่งผู้โดยสารให้แบ่งเป็นระดับที่ 1 ระดับที่ 2 และระดับที่ 3

ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลประจำท้องที่สัญชาติของรถเป็นผู้ระบุระดับเทคโนโลยีของรถพาหนะบนหนังสือรับรองการขนส่งทางบก

มาตรา 36 ให้หน่วยงานตรวจวัดสมรรถนะโดยรวมของรถยนต์ ใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ที่เป็นไปตามมาตรของประเทศและมาตรฐานวิชาชีพ และให้ทำการตรวจวัดรถพาหนะตามมาตรฐานการตรวจวัดเทคโนโลยีของรถพาหนะขนส่งที่เกี่ยวข้องของประเทศและของวิชาชีพอย่างเข้มงวด และให้ออกรายงานการตรวจวัดรถพาหนะตามความเป็นจริง รวมถึงให้สร้างแฟ้มข้อมูลการตรวจวัดรถพาหนะ

มาตรา 37 ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลขึ้นไปทำการตรวจสอบรถพาหนะขนส่งผู้โดยสารตามกำหนดระยะเวลา โดยทำการตรวจสอบปีละหนึ่งครั้งเป็นประจำทุกปี เนื้อหาการตรวจสอบมีดังต่อไปนี้

(1) บันทึกการกระทำผิดกฎหมายของรถพาหนะ

(2) แฟ้มข้อมูลเทคโนโลยีของรถพาหนะ

(3) โครงสร้างของรถพาหนะ ภาพการเปลี่ยนแปลงทางขนาด

(4) บันทึกการต่อเติมหรือการใช้รถพาหนะซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของประเทศ

(5) สถานการณ์การการที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารประกันภัยรถพาหนะขนส่งผู้โดยสารต่อผู้โดยสาร ในกรณีที่การพิจารณาตรวจสอบนั้นเป็นไปตามข้อกำหนด ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ทำการระบุลงในช่องบันทึกการตรวจสอบของหนังสือรับรองการขนส่งทางบก ในกรณีที่การพิจารณาตรวจสอบนั้นไม่เป็นไปตามข้อกำหนดให้สั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนดหรือสั่งให้ดำเนินขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงแก้ไข

มาตรา 38 ส่งเสริมให้ใช้รถพาหนะขนส่งผู้โดยสารที่ติดตั้งที่ใส่สัมภาระข้างใต้รถในการขนส่งผู้โดยสารทางบก ในกรณีที่รถขนส่งผู้โดยสารไม่มีที่ใส่สัมภาระข้างใต้รถหรือขนาดของที่ใส่สัมภาระข้างใต้รถไม่เพียงพอนั้น สามารถจัดบริเวณเฉพาะเพื่อวางสัมภาระภายในตัวรถขนส่งผู้โดยสารได้ แต่บริเวณที่วางสัมภาระกับบริเวณของผู้โดยสารต้องแยกออกจากกัน และให้ใช้มาตรการเพื่อความปลอดภัยที่จำเป็น โดยห้ามมิให้บรรทุกผู้โดยสารบริเวณพื้นที่ที่วางสัมภาระเด็ดขาด

มาตรา 39 การพิจารณาระบุระดับประเภทของรถขนส่งผู้โดยสารนั้น ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลขึ้นไปเป็นผู้ปฏิบัติโดยอาศัยตามมาตรฐานวิชาชีพในเรื่องข้อบังคับการแบ่งระดับและระบุระดับรถพาหนะในการขนส่งผู้โดยสาร(JT/T325) และกฎว่าด้วยข้อบังคับการแบ่งระดับและระบุระดับประเภทของรถขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกโดยกระทรวงคมนาคม

มาตรา 40 ห้ามมิให้ใช้รถพาหนะซึ่งถูกระบุว่าเป็นของเสีย รถพาหนะซึ่งทำการเปลี่ยนแปลงติดตั้งโดยพลการ รถพาหนะที่ทำการต่อเติม รถพาหนะที่ตรวจวัดไม่ผ่านรวมถึงรถพาหนะที่ไม่เป็นไปตามกฎของประเทศในการประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบก

มาตรา 41 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารและหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลขึ้นไปแยกการสร้างแฟ้มข้อมูลเทคโนโลยีของรถพาหนะขนส่งผู้โดยสารและแฟ้มข้อมูลการควบคุมและให้ทำการเก็บรักษาอย่างดี ให้ทำการบันทึกรายละเอียดที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว ครบถ้วนและถูกต้อง และห้ามมิให้แก้ไขตามอำเภอใจ

รายละเอียดสำคัญในแฟ้มข้อมูลเทคโนโลยีของรถพาหนะของผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสาร ได้แก่ สถานการณ์ทั่วไปของรถพาหนะ สถานการณ์การเปลี่ยนอะไหล่ที่สำคัญ การซ่อมแซมและบันทึกการดูแลรักษาระดับที่ 2 (รวมถึงหนังสือรับรองผ่านคุณสมบัติในการออกจากโรงงาน) บันทึกการประเมินและระบุระดับเทคโนโลยี บันทึกการประเมินประเภทและระดับ บันทึกการเปลี่ยนแปลงรถพาหนะ บันทึกระยะทางการเดินรถ บันทึกอุบัติเหตุทางการจราจร เป็นต้น

รายละเอียดสำคัญในแฟ้มข้อมูลการควบคุมรถพาหนะของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ได้แก่ สถานการณ์ทั่วไปของรถพาหนะ บันทึกการดูแลรักษาระดับที่ 2 และบันทึกการตรวจวัด บันทึกการประเมินและระบุระดับเทคโนโลยี บันทึกการประเมินประเภทและระดับ บันทึกการเปลี่ยนแปลงรถพาหนะ บันทึกอุบัติเหตุทางการจราจร เป็นต้น

มาตรา 42 ในขณะที่ดำเนินขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ของรถขนส่งผู้โดยสาร ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารส่งแฟ้มข้อมูลเทคโนโลยีของรถพาหนะที่สมบูรณ์ ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลขึ้นไปทำการดูแลควบคุมสถานการณ์ตามแฟ้มข้อมูลเทคโนโลยีของรถพาหนะที่ได้จัดทำขึ้น

มาตรา 43 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารคืนหนังสือรับรองการขนส่งทางบกในกรณีที่รถพาหนะขนส่งผู้โดยสารเข้าตามมาตรฐานการระบุว่าเป็นของเสียของประเทศหรือหลักการตรวจวัดแล้วไม่เป็นไปตามมาตรฐานของประเทศ และห้ามมิให้นำรถพาหนะดังกล่าวไปใช้ในการประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารต่ออีก

หมวดที่ 4 การควบคุมการประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสาร

มาตรา 44 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารดำเนินกิจการขนส่งผู้โดยสารตามรายการที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ห้ามมิให้โอน นำออกให้เช่าซึ่งเอกสารหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบก

มาตรา 45 ในกรณีที่บริษัทแม่ได้ลงทุนทั้งหมดในกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกสำหรับบริษัทลูกหรือบริษัทแม่ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกที่เป็นผู้ถือหุ้นซึ่งมีอำนาจควบคุมบริษัท (Controlling shareholder) ในบริษัทลูก ในกรณีที่บริษัทลูกมีรถขนส่งผู้โดยสารของตนเองเป็นจำนวนตั้งแต่ 10 คันขึ้นไปหรือมีรถขนส่งผู้โดยสารระดับกลางหรือระดับสูงเป็นจำนวนตั้งแต่ 5 คันขึ้นไป บริษัทลูกสามารถดำเนินกิจการขนส่งผู้โดยสารโดยอาศัยการอนุญาตให้ประกอบกิจการที่บริษัทแม่ได้รับ

คำว่า ผู้ถือหุ้นซึ่งมีอำนาจควบคุมบริษัท (Controlling shareholder) ที่ได้กล่าวไว้ในมาตรานี้ หมายถึงการทที่บริษัทแม่ได้ควบคุมสินทรัพย์ของบริษัทลูกเป็นจำนวนตั้งแต่ร้อยละ 51 ขึ้นไปตามความเป็นจริง

มาตรา 46 เส้นทางในการขนส่งผู้โดยสารตามกำหนดระยะเวลาถือเป็นทรัพยากรสาธารณะของประเทศ หลังจากที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารตามกำหนดระยะเวลาได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการแล้ว ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารตามกำหนดระยะเวลาต้องให้บริการแก่สาธารณะโดยต่อเนื่อง ห้ามมิให้หยุดให้บริการโดยชั่วคราวหรือเลิกกิจการหรือโอนเส้นทางการขนส่งผู้โดยสารตามกำหนดระยะเวลาโดยพลการ

มาตรา 47 ให้รถขนส่งผู้โดยสารตามกำหนดระยะเวลาทำการเดินรถตามเส้นทาง ขบวนรถและสถานีที่ได้รับอนุญาต สถานีขึ้นลงสำหรับผู้โดยสารระหว่างเส้นทางที่ได้กำหนดนั้น ห้ามมิให้เปลี่ยนแปลงเส้นทางเดินรถหากไม่มีเหตุผลอันสมควร และห้ามมิให้รับผู้โดยสารขึ้นรถนอกสถานีหรือเรียกรับผู้โดยสารนอกสถานี ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากหน่วยงานที่เป็นผู้ให้การอนุญาต รถโดยสารซึ่งประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารตามกำหนดระยะเวลาในเขตชนบทใช้วิธีการดำเนินกิจการที่คล่องตัว เช่น ประกอบกิจการในเขตพื้นที่ เดินรถแบบหมุนเวียน สร้างจุดออกรถชั่วคราว เป็นต้น เส้นทางขนส่งผู้โดยสารตามกำหนดระยะเวลาในเขตชนบทที่ได้กล่าวในกฎหมายฉบับนี้ หมายถึง เส้นทางขนส่งผู้โดยสารตามกำหนดระยะเวลาภายในเขตอำเภอหรือระหว่างอำเภอที่ติดกันมีเส้นทางอย่างน้อยหนึ่งแห่งที่เป็นเขตชนบท

มาตรา 48 ห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารบังคับให้ผู้โดยสารโดยสารไปกับรถ ห้ามมิให้ส่งผู้โดยสารไปกับการขนส่งของบุคคลอื่นในระหว่างทางหรือทิ้งผู้โดยสาร ห้ามมิให้ขู่เข็ญรีดไถผู้โดยสาร ห้ามมิให้เปลี่ยนรถพาหนะขนส่งผู้โดยสารโดยพลการ และห้ามมิให้ขัดขวางการประกอบกิจการตามปกติของผู้ประกอบกิจการรายอื่น

มาตรา 49 ห้ามมิให้รถขนส่งผู้โดยสารบรรทุกเกินน้ำหนักโดยเด็ดขาด ในกรณีที่จำนวนผู้โดยสารเต็มจำนวน อนุญาตให้รับผู้โดยสารที่เป็นเด็กและไม่เก็บค่าตั๋วโดยสารจำนวนไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดที่ได้รับอนุญาต

ห้ามมิให้รถขนส่งผู้โดยสารบรรทุกสินค้าโดยขัดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้

มาตรา 50 ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องราคา ใช้ตั๋วโดยสารตามที่กฎหมายกำหนด ห้ามมิให้ขึ้นราคาตั๋วโดยมิชอบ ห้ามมิให้กดราคาตั๋วโดยมีเจตนาทุจริต ห้ามมิให้เก็บค่าธรรมเนียมต่างๆโดยมิชอบ

มาตรา 51 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารพิมพ์ชื่อเรียกของกิจการหรือสัญลักษณ์ในตำแหน่งที่เหมาะสมนอกตัวรถขนส่งผู้โดยสาร และให้แสดงหมายเลขโทรศัพท์ในการดูแลของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ราคาตั๋วโดยสารและตารางแสดงระยะทางในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจนภายในตัวรถ

มาตรา 52 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารจัดสภาพแวดล้อมการโดยสารรถที่ดีให้แก่ผู้โดยสาร ประกันอุปกรณ์และสาธารณูปโถคที่ครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ รักษาคามสะอาดและสุขอนามัยของรถพาหนะ และใช้มาตรการที่จำเป็นในการป้องกันการกระทำอันขัดต่อกฎหมายซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อความปลอดภัยในร่างกาย ทรัพย์สิน ของผู้โดยสารในระหว่างการขนส่ง

ในกรณีที่เกิดกระทำอันขัดต่อกฎหมายซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความปลอดภัยในร่างกาย ทรัพย์สิน ของผู้โดยสารในระหว่างการขนส่ง ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งภายใต้ความสามารถของตนเอง รีบรายงานต่อหน่วยงานสันติบาลและร่วมมือกับหน่วยงานสันติบาลในการหยุดยั้งกระทำอันขัดต่อกฎหมายนั้น

ห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารฉายสิ่งลามกอนาจารบนรถพาหนะขนส่งผู้โดยสาร

มาตรา 53 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารจัดทำประกันความรับผิดในการเสี่ยงภัยแก่ผู้โดยสาร

มาตรา 54 ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารก่อให้เกิดความเสียหายต่อร่างกาย ของผู้โดยสารในระหว่างการขนส่ง หรือทำให้สัมภาระของผู้โดยสารชำรุดเสียหายหรือสูญหาย ในกรณีที่คู่กรณีได้มีการตกลงจำนวนค่าเสียหายกันไว้ ให้ถือเอาตามข้อตกลงนั้น แต่ในกรณีที่คู่กรณีไม่ได้มีการตกลงจำนวนค่าเสียหายกันไว้ ให้ดำเนินการโดยอาศัยตามบทบัญญัติเพดานมูลค่าการชำระค่าเสียหายของการขนส่งผู้โดยสารทางทะเลหรือการขนส่งผู้โดยสารทางรถไฟของประเทศที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 55 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารส่งเสริมฝึกฝนด้านความปลอดภัย คุณธรรมในอาชีพ ความรู้ในหน้าที่การงาน กฎระเบียบในการปฏิบัติงานแก่พนักงานประกอบการ และให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันมิให้พนักงานขับรถขับรถติดต่อกันเป็นเวลาเกินกว่า 4 ชั่วโมง

ให้พนักงานขับรถขนส่งผู้โดยสารปฏิบัติตามกฎหมายขนส่งทางบกและฎระเบียบในการปฏิบัติงานของพนักงานขับรถขนส่งทางบก ให้พนักงานขับรถขนส่งผู้โดยสารขับขี่รถอย่างปลอดภัยและให้บริการอย่างดี

มาตรา 56 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารกำหนดแผนคาดการณ์ล่วงหน้าในกรณีฉุกเฉินสำหรับการขนส่งทางบกเมื่อเกิดอุบัติเหตุต่อสาธารณะ โดยแผนคาดการณ์ล่วงหน้าในกรณีฉุกเฉินนี้ให้รวมถึงเนื้อหาต่างๆ เช่น ขั้นตอนการรายงาน การสั่งการในกรณีฉุกเฉิน การจัดเตรียมรถพาหนะและอุปกรณ์ในกรณีฉุกเฉิน รวมไปถึงมาตรการในการแก้ไขปัญหา เป็นต้น

เมื่อเกิดอุบัติเหตุต่อสาธารณะ ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารดำเนินการตามมาตรฐานการแก้ไขและปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลประชนชาระดับอำเภอขึ้นไปและของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 57 ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารสร้างบัญชีและแฟ้มข้อมูลให้เสร็จเรียบร้อย และให้ทำการรายงานและส่งเอกสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยเร็วตามที่กฎหมายกำหนด

มาตรา 58 ให้ผู้โดยสารใช้ตั๋วโดยสารที่มีผลในการโดยสาร ปฏิบัติตามระเบียบการโดยสารรถ โดยสารด้วยความสุภาพและมีวัฒนธรรม ให้ผู้โดยสารที่ถือตั๋วโดยสารฟรีสำหรับเด็กแสดงตัวในขณะซื้อตั๋วโดยสาร ห้ามมิให้พกพาวัตถุอันตรายต้องห้ามตามกฎหมายของประเทศหรือวัตถุสิ่งของอื่นที่กฎหมายห้ามนำขึ้นรถโดยสาร

มาตรา 59 ให้พนักงานขับรถขนส่งผู้โดยสารพกหนังสือรับรองที่เกี่ยวข้อง เช่น หนังสือรับรองการขนส่งทางบกและหนังสือรับรองคุณสมบัติการประกอบกิจการ ติดรถไว้ และให้วางป้ายสัญลักษณ์การขนส่งผู้โดยสารไว้ในตำแหน่งที่กำหนด ให้พนักงานขับรถขนส่งผู้โดยสารพกหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาติดรถ

มาตรา 60 ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้อาศัยป้ายสัญลักษณ์การขนส่งผู้โดยสารชั่วคราวในการเดินรถ

(1) รถโดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาตามเวลาปกติได้ขนส่งเต็มแล้ว และจำเป็นต้องเพิ่มรถโดยสารนอกเวลา

(2) เนื่องด้วยเหตุผลจากการหยุดชะงักหรือการซ่อมแซมรักษารถพาหนะ จึงจำเป็นต้องขนถ่ายผู้โดยสารหรือสับเปลี่ยนรถพาหนะ

(3) ป้ายสัญลักษณ์การขนส่งผู้โดยสารฉบับจริงกำลังอยู่ในขั้นตอนการรออกหรือสูญหายและกำลังรอรับฉบับใหม่

มาตรา 61 ให้รถขนส่งผู้โดยสารที่อาศัยป้ายสัญลักษณ์การขนส่งผู้โดยสารชั่วคราวในการเดินรถทำการเดินรถตามเส้นทางและสถานีของรถโดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาตามเวลาปกติ และให้แสดงใบเส้นทางการเดินรถซึ่งออกและประทับตราโดยสถานีออกรถพร้อมทั้งชี้แจงเหตุผล ในกรณีที่ป้ายสัญลักษณ์การขนส่งผู้โดยสารฉบับจริงกำลังอยู่ในขั้นตอนการรออกหรือสูญหายและกำลังรอรับฉบับใหม่นั้น ให้แสดงสำเนาหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาและหนังสือตัดสินอนุญาตให้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกพร้อมกันด้วย

มาตรา 62 ให้รถเหมาในการขนส่งผู้โดยสารอาศัยป้ายสัญลักษณ์รถขนส่งผู้โดยสารแบบเหมาซึ่งพิจารณาและออกให้โดยหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ตามท้องที่สัญชาติของรถระดับอำเภอขึ้นไป และให้ทำการเดินรถตามเวลา สถานที่เริ่มต้น สถานที่จุดหมายปลายทางและเส้นทางการเดินรถที่ได้ตกลงไว้ ให้แสดงตั๋วโดยสารรถโดยสารแบบเหมาหรือสัญญาการโดยสารรถแบบเหมาคัน ห้ามมิให้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารโดยกำหนดเส้นทางในรูปแบบเดียวกันกับรถขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา และห้ามมิให้เรียกลูกค้าผู้โดยสารอื่นนอกเหนือไปจากที่สัญญากำหนดเพื่อโดยสารไปกับรถ

นอกเหนือจากการปฏิบัติงานของรถเหมาคันในกรณีฉุกเฉินซึ่งได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก แล้ว เส้นทางการเดินรถของรถเหมาคันต้องมีอย่างน้อยหนึ่งเส้นทางอยู่ในเขตพื้นที่สัญชาติของรถ

การตีรถเปล่าไปเพื่อรับผู้โดยสารในขากลับแบบเหมาคันนั้น ให้ทำการลงบันทึกต่อหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปของท้องที่ของผู้โดยสารขากลับ

ให้รถขนส่งผู้โดยสารนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ระบุเส้นทางแสดงตั๋วผู้โดยสารนักท่องเที่ยวซึ่งแสดงรายการการขนส่งผู้โดยสารหรือสัญญาการท่องเที่ยวแทนงตั๋วโดยสารรถโดยสารแบบเหมาหรือสัญญาการโดยสารรถแบบเหมาคัน

มาตรา 63 ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปเป็นผู้จัดพิมพ์ป้ายสัญลักษณ์การขนส่งผู้โดยสารระหว่างมณฑลชั่วคราว (ตามเอกสารแนบท้ายหมายเลข 9) ป้ายสัญลักษณ์การขนส่งผู้โดยสารแบบเหมารถระหว่างมณฑล (ตามเอกสารแนบท้ายหมายเลข 10) โดยเป็นแบบแผนมาตรฐานเดียวกัน และให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปเป็นผู้พิจารณาและออกให้แก่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสาร ให้ป้ายสัญลักษณ์การขนส่งผู้โดยสารแบบเหมารถชั่วคราวระหว่างมณฑล ป้ายสัญลักษณ์การขนส่งผู้โดยสารชั่วคราวสำหรับรถขนส่งผู้โดยสารเพิ่มเติมนอกเวลา ป้ายสัญลักษณ์การขนส่งผู้โดยสารชั่วคราวสำหรับรถขนส่งผู้โดยสารที่ใช้ในการสับเปลี่ยนหรือถ่ายเทผู้โดยสารมีผลในช่วงเวลาที่จำเป็นในครั้งนั้นๆ และให้ป้ายสัญลักษณ์การขนส่งผู้โดยสารชั่วคราวเนื่องจากในกรณีที่ป้ายสัญลักษณ์การขนส่งผู้โดยสารฉบับจริงกำลังอยู่ในขั้นตอนการรออกหรือสูญหายและกำลังรอรับฉบับใหม่มีผลไม่เกิน 30 วัน

ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลเป็นผู้กำหนดรูปแบบของป้ายสัญลักษณ์การขนส่งผู้โดยสารชั่วคราวภายในมณฑลและรูปแบบขแงป้ายสัญลักษณ์การขนส่งผู้โดยสารแบบเหมารถภายในมณฑลและข้อกำหนดในการควบคุมด้วยตนเอง

มาตรา 64 ในช่วงเวลาที่มีการเดินทางของผู้โดยสารสูงและกำลังในการขนส่งไม่เพียงพอเช่น ช่วงการเดินทางช่วงเทศกาลตรุษจีน การท่องเที่ยวช่วงสัปดาห์ทอง (ได้แก่ สัปดาห์ในช่วงเทศกาลตรุษจีน สัปดาห์ในช่วงวันแรงงานและสัปดาห์ในช่วงวันชาติจีน) หรือในกรณีทีเกิดอุบัติเหตุต่างๆ หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก สามารถให้ใช้รถขนส่งผู้โดยสารหรือรถขนส่งผู้โดยสารที่มิได้ใช้ในการประกอบกิจการเพื่อใช้สำหรับการเหมารถหรือใช้ในการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มเติมนอกเวลาซึ่งมีระดับเทคโนโลยีไม่ต่ำกว่าระดับที่สามชั่วคราวได้ โดยที่รถขนส่งผู้โดยสารที่มิได้ใช้ในการประกอบกิจการนั้นให้เดินรถโดยอาศัยหนังสือรับรองซึ่งออกโดยหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไป

หมวดที่ 5 การประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสาร

มาตรา 65 ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารดำเนินการประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารตามรายการที่หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ได้อนุญาต ห้ามมิให้โอน ให้เช่าซึ่งเอกสารรับรองการอนุญาตประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสาร ห้ามมิให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงเส้นทางของสถานีขนส่งผู้โดยสารและประสิทธิภาพการบริการ

ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารบำรุงรักษาอุปกรณ์ สาธารณูปโภคต่างๆอย่างดี และทำให้ใช้งานได้ตามปกติ

มาตรา 66 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารและผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารที่เข้ามาในสถานีทำการเซ็นสัญญาให้บริการระหว่างกันเองตามกฎหมาย ให้คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามสิทธิและหน้าที่ของตนตมที่กำหนดไว้ในสัญญา

ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารและผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารคำณวนค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน

มาตรา 67 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารส่งเสริมการควบคุมความปลอดภัย ปฏิบัติตามเงื่อนไขการสร้างความปลอดภัยอย่างครบถ้วน สร้างระบบความรับผิดชอบในการสร้างความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์และเป็นจริง

ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารทำการตรวจตราความปลอดภัยรถขนส่งผู้โดยสารที่ออกจากสถานี ใช้มาตรการในการป้องกันวัตถุอันตรายมิให้เข้ามาในสถานีและนำขึ้นรถ ให้จำหน่ายตั๋วโดยสารตามจำนวนเพดานการบรรทุกผู้โดยสารของรถพาหนะที่กำหนดไว้ ห้ามมิให้รถที่บรรทุกเกินน้ำหนักหรือรถพาหนะที่มมิได้ตรวจสอบความปลอดภัยออกจากสถานีอย่างเด็ดขาด ประกันในการสร้างความปลอดภัย

มาตรา 68 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งห้ามมิให้รถพาหนะที่ไม่มีหนังสือรับรองเข้ามาในสถานีเพื่อประกอบกิจการ และห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งปฏิเสธการเข้ามาในสถานีของรถพาหนะเพื่อประกอบกิจการโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งยึดถือหลักการความยุติธรรมและเปิดเผย จัดเวลาการออกรถอย่างเหมาะสมและจำหน่ายตั๋วโดยสารอย่างยุติธรรม

ในกรณี่ที่เวลาออกรถที่ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งได้จัดเวลาไว้นั้นเกิดข้อพิพาท หากการแก้ไขปัญหาโดยผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งได้ไม่เป็นผล ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับมณฑลขึ้นไปเป็นผู้พิจารณาตัดสิน

มาตรา 69 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งประกาศข้อมูลต่างๆ ของรถขนส่งผู้โดยสารที่เข้ามาในสถานี อาทิเช่น ประเภทของรถขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา ระดับประเภทของรถขนส่งผู้โดยสาร เส้านทางการขนส่ง สถานีเริ่มต้นและจอดแวะ ขบวนรถ เวลาออกรถ ราคาตั๋วโดยสาร จัดระบบการออกรถสำหรับรถขนส่งผู้โดยสารที่เข้ามาในสถานี แนะนำผู้โดยสารและรักษาความาเป็นระเบียบเรียบร้อย

มาตรา 70 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งจัดเตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องก่อนออกรถ 30 นาทีเพื่อรอการออกรถ ห้ามมิให้ออกรถล่าช้ากว่ากำหนด เลิกขบวนรถหรือหยุดขบวนรถ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารที่เข้ามาในสถานีจัดรถพาหนะไม่เป็นไปตามเวลา หากล่าช้าเป็นเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงถือว่าเป็นการออกรถล่าช้ากว่ากำหนด หากล่าช้าเป็นเวลาเกินกว่า 1 ชั่วโมงถือว่าเป็นการเลิกขบวนรถ ยกเว้นในกรณีที่มีเหตุผลในการซ่อมแซม เหตุสุดวิสัย สูญหายหรือการจราจรติดขัดทำให้ไม่สามารถเดินรถตามเวลาที่กำหนดได้และได้แจ้งให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งทราบแล้ว

ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารเกิดอุบัติเหตุอันไม่สามารถเดินรถขนส่งผู้โดยสารได้ ให้ทำการแจ้งให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารทราบล่วงหน้า 1 วัน และให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกันในการจัดการรถพาหนะเพิ่มเติมนอกเวลาเดินรถปกติ

ในกรณีที่รถขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาที่เข้ามาในสถานีหยุดการเดินรถเป็นระยะเวลาตั้งแต่ 3 วันขึ้นไปโดยไม่มีเหตุผล ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารรายงานให้แก่หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ประจำท้องที่ที่กิตการตั้งอยู่รับทราบ

มาตรา 71 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารจัดตั้งบริการเพื่อการซื้อตั๋วโดยสารสำหรับผู้โดยสาร การรอรถ ประกาศเพื่อการโดยสาร การส่งฝากและสัมภาระ การขนส่ง ห้องสุขอนามัย เป็นต้น ให้บริการแย่างดีในด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสาร ส่งเสริมการประกาศข่าวสารและรักษาสุขอนามัยและความสะอาดของบริเวณสถานี

การประกอบกิจการอื่นนอกเหนือจากกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร ให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 72 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารทำการควบคุมราคาอย่างเข้มงวด ให้ประกาศรายการและมาตรฐานราคาในสถานที่ประกอบกิจการ และห้ามมิให้เก็บค่าใช้จ่ายโดยมิชอบ

มาตรา 73 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารบรรทุก เก็บและรักษากระเป๋าสัมภาระตามข้อกำหนดในการปฏิบัติงาน

มาตรา 74 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารกำหนดแผนคาดการณ์ล่วงหน้าในกรณีฉุกเฉินสำหรับการขนส่งทางบกเมื่อเกิดอุบัติเหตุต่อสาธารณะ โดยแผนคาดการณ์ล่วงหน้าในกรณีฉุกเฉินนี้ให้รวมถึงเนื้อหาต่างๆ เช่น ขั้นตอนการรายงาน การสั่งการในกรณีฉุกเฉิน การจัดเตรียมรถพาหนะและอุปกรณ์ในกรณีฉุกเฉิน รวมไปถึงมาตรการในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นต้น

มาตรา 75 ให้ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารสร้างบัญชีและแฟ้มข้อมูลให้เสร็จเรียบร้อย และให้ทำการรายงานและส่งเอกสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยเร็วตามที่กฎหมายกำหนด

หมวดที่ 6 การดูแลตรวจสอบ

มาตรา 76 ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก สร้างเสริมความเข้มแข็งในการดูแลตรวจสอบการขนส่งผู้โดยสารทางบกและการประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสาร

ให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ทำการดูแลตรวจสอบตามขอบอำนาจและวิธีการตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเข้มงวด

มาตรา 77 ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก และเจ้าหน้าที่ทำการดูแลตรวจสอบการประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารและการประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสาร โดยเน้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร สถานที่ในการรวมตัวและกระจายตัวของผู้โดยสาร นอกจากนี้ให้ทำการดูแลตรวจบริเวณทางแยกของถนนทางหลวง ห้ามมิให้ทำการสกัดกั้นรถพาหนะขนส่งทางบกที่เดินรถตามปกติตามอำเภอใจ ห้ามมิให้ทำการสกัดกั้นรถพาหนะเพื่อทำการดูแลตรวจสอบทั้งสองทิศทาง

มาตรา 78 ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ทำการดูแลตรวจสอบการขนส่งทางบกนั้น ให้ใช้เจ้าหน้าที่ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปในการดูแลตรวจสอบ และให้แสดงเอกสารรับรองการปฏิบัติงานจราจรตามกฎหมายที่เป็นแบบแผนเดียวกันซึ่งออกโดยกระทรวงคมนาคมต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 79 ให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ทำการตรวจสอบเพื่อทำความเข้าใจจากหน่วยงานหรือบุคคลผู้ถูกตรวจสอบและทำการตรวจสอบ ดูและทำสำเนาเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยให้เจ้าหน้าที่รักษาข้อมูลอันเป็นความลับทางการค้าของหน่วยงานหรือบุคคลผู้ถูกตรวจสอบ

หน่วยงานหรือบุคคลผู้ถูกตรวจสอบต้องรับการตรวจสอบตามกฎหมายจากหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก และเจ้าหน้าที่ และให้หน่วยงานหรือบุคคลผู้ถูกตรวจสอบแสดงเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามความเป็นจริงหรืออธิบายข้อเท็จจริงตามความเป็นจริง

มาตรา 80 ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ทำการตรวจสอบนั้น หากพบว่ารถพาหนะขนส่งผู้โดยสารมีพฤติกรรมการบรรทุกเกินน้ำหนัก ให้รีบสั่งให้หยุดและใช้มาตรการที่เกี่ยวข้องเพื่อย้ายผู้โดยสาร

มาตรา 81 ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารประกอบกิจการนอกเหนือจากพื้นที่ของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ที่ได้ให้อนุญาตโดยขัดต่อกฎหมาย ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ประจำท้องที่ที่เกิดการกระทำอันขัดต่อกฎหมายบันทึกข้อเท็จจริงของกระทำอันขัดต่อกฎหมายและผลการลงโทษลงบน หนังสือรับรองการขนส่งทางบกตามที่กฎหมายกำหนด และให้แจ้งไปยังหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ที่ได้ให้การอนุญาตประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบก

มาตรา 82 ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารได้กระทำการอันขัดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้แต่ไม่ยอมรับการลงโทษ หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสามารถยึดชั่วคราวซึ่งหนังสือรับรองการขนส่งทางบกและเอกสารรับรองที่เกี่ยวข้องที่หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก เป็นผู้ออกให้ได้ และให้ออกใบรับรองแทน และให้ส่งมอบคืนหลังจากที่รับการลงโทษแล้ว

มาตรา 83 ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ทำการดูแลตรวจสอบการขนส่งทางบกนั้น ให้เจ้าหน้าที่สามารถยึดรถพาหนะซึ่งไม่มีหนังสือรับรองการขนส่งทางบกและไม่สามารถแสดงเอกสารรับรองซึ่งมีผลอื่นๆ ได้ในเวลานั้น และให้ออกหนังสือรับรองการยึดรถพาหนะขนส่งทางบกชั่วคราว (ตามเอกสารแนบท้ายหมายเลข 12) และให้ทำการดูแลรักษารถพาหนะที่ยึดมาอย่างดี ห้ามมิให้ใช้ ถือเอาหรือกระทำการใดอันเป็นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการดูแลรักษา

ให้คู่กรณีที่กระทำผิดกฎหมายไปรับการจัดการแก้ไขปัญหายังสถานที่ที่กำหนดภายในระยะเวลาที่กำหนดในหนังสือรับรองการยึดรถพาหนะขนส่งทางบกชั่วคราว หากไม่ไปรับการจัดการแก้ไขปัญหาภายในระยะเวลาที่กำหนด หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก สามารถทำการตัดวินลงโทษตามกฎหมายได้ และให้ส่งหนังสือคำตัดสินลงโทษให้แก่คู่กรณี หากคู่กรณีไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินลงโทษภายในระยะเวลาที่กำหนดโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ยื่นคำร้องต่อศาลประชาชนเพื่อทำการบังคับคดี

หมวดที่ 7 ความรับผิดทางกฎหมาย

มาตรา 84 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่มีพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดดังต่อไปนี้ ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้หยุดดำเนินกิจการ ในกรณีที่มีสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ให้ยึดสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายทั้งหมดและปรับตั้งแต่สองเท่าขึ้นไปแต่ไม่เกินสิบเท่าของมูลค่าของสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ในกรณีที่ไม่มีสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายหรือสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายมีมูลค่าไม่ถึงสองหมื่นหยวน ให้ปรับเงินตั้งแต่สามหมื่นหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินหนึ่งแสนหยวน ในกรณีที่เข้าองค์ประกอบตามความผิดอาญา ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา

(1) ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารโดยพลการ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบก

(2) ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาโดยพลการ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลา

(3) ใช้หลักฐานอนุญาตประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกที่ไม่มีผลต่างๆ เช่น หลักฐานที่ไม่มีผล ปลอมแปลงหรือแก้ไข เป็นต้น ในการประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบก

(4) ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกโดยนอกเหนือไปจากตามรายการที่ได้รับอนุญาต

มาตรา 85 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่มีพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดดังต่อไปนี้ ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้หยุดดำเนินกิจการ ในกรณีที่มีสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ให้ยึดสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายทั้งหมดและปรับตั้งแต่สองเท่าขึ้นไปแต่ไม่เกินสิบเท่าของมูลค่าของสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ในกรณีที่ไม่มีสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายหรือสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายมีมูลค่าไม่ถึงหนึ่งหมื่นหยวน ให้ปรับเงินตั้งแต่สองหมื่นหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินห้าหมื่นหยวน ในกรณีที่เข้าองค์ประกอบตามความผิดอาญา ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา

(1) ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารโดยพลการ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสาร

(2) ใช้หลักฐานอนุญาตประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารทางบกที่ไม่มีผลต่างๆ เช่น หลักฐานที่ไม่มีผล ปลอมแปลงหรือแก้ไข เป็นต้น ในการประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสาร

(3) ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารโดยนอกเหนือไปจากตามรายการที่ได้รับอนุญาต

มาตรา 86 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารหรือผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารโอนหรือนำออกให้เช่าซึ่งหลักฐานรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบก ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้หยุดการกระทำอันขัดต่อกฎหมายและให้ยึดหลักฐานรับรองที่เกี่ยวข้อง และให้ปรับเงินตั้งแต่สองพันหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นหยวน ในกรณีที่มีสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ให้ยึดสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายทั้งหมด

มาตรา 87 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารมีพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดดังต่อไปนี้ ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้ทำการจัดหาประกันภายในระยะเวลาที่กำหนด หากปฏิเสธไม่ยอมทำการรจัดหาประกัน ให้หน่วยงานที่ได้อนุญาตเดิมทำการเพิกถอนหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบก หรือเพิกถอนขอบเขตการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้อง

(1) มิได้จัดหาประกันความรับผิดในความเสี่ยงภัยให้แก่ผู้โดยสาร

(2) มิได้จัดหาประกันตามเพดานมูลค่าการประกันขั้นต่ำสุด

(3) ความรับผิดของประกันได้เกินกำหนดระยะเวลาแล้ว และมิได้ทำการประกันต่อ

มาตรา 88 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารใช้รถพาหนะที่ไม่มีหนังสือรับรองการขนส่งทางบกในการประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสาร ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้อง และให้ปรับเงินตั้งแต่สามพันหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นหยวน

การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารไม่พกพาหนังสือรับรองการขนส่งทางบกให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้อง และลงโทษโดยการตักเตือนหรือปรับเงินตั้งแต่ยี่สิบหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินสองร้อยหยวน

มาตรา 89 มาตรา 90 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารมีพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดดังต่อไปนี้ ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องและให้ปรับเงินตั้งแต่หนึ่งพันหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินสามพันหยวน ในกรณีที่สถานการณ์มีความร้ายแรง ให้หน่วยงานที่ได้ออกใบอนุญาตเดิมทำการเพิกถอนหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบก หรือเพิกถอนขอบเขตการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้อง

(1) รถขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาทำการเดินรถโดยมิได้จอดแวะตามสถานีขนส่งผู้โดยสารที่ได้รับอนุญาตหรือทำการเดินรถโดยมิได้เป็นไปตามเส้นทาง ขบวนรถตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้

(2) รถโดยสารนอกเวลา รถขนถ่ายผู้โดยสารหรือรถที่ใช้ในการสับเปลี่ยนกับรถพาหนะทำการเดินรถโดยมิได้เป็นไปตามเส้นทาง สถานีและขบวนรถของตามรถขนส่งผู้โดยสารซึ่งออกตามกำหนดเวลาเดิมโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

(3) รถขนส่งผู้โดยสารแบบเหมาทำการเดินรถโดยมิได้เป็นไปตามสถานที่เริ่มต้น สถานที่ปลายทางและเส้นทางเดินรถที่ได้ตกลงกันไว้

(4) ใช้วิธีการต่างๆในการเรียกลูกค้าผู้โดยสาร เช่น หลอกลวงหรือใช้กำลัง

(5) เปลี่ยนรถพาหนะขนส่งหรือส่งผู้โดยสารให้โดยสารไปกับรถคันอื่นระหว่างการขนส่งผู้โดยสารโดยพลการ

(6) หยุดประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกโดยพลการ โดยมิได้แจ้งให้หน่วยงานที่อนุญาตเดิมทราบ

มาตรา 90 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารหรือผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งมิได้จัดเตรียมตามข้อบังคับความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องเพื่อการเปิดกิจการ ซึ่งอาจเกิดภัยพิบัติร้ายแรงด้านความปลอดภัยในการขนส่งได้ ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่แก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนดและในกรณีที่สถานการณ์มีความร้ายแรง ให้หน่วยงานที่ได้ออกใบอนุญาตเดิมทำการเพิกถอนหนังสือรับรองการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางบก หรือเพิกถอนขอบเขตการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 91 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารไม่ทำการบำรุงรักษาหรือตรวจวัดรถพาหนะขนส่งผู้โดยสารตามที่กฎหมายกำหนด ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องและให้ปรับเงินตั้งแต่หนึ่งพันหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินห้าพันหยวน

มาตรา 92 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารใช้รถพาหนะขนส่งผู้โดยสารซึ่งได้ทำการต่อเติมโดยพลการหรือทำการต่อเติมรถพาหนะขนส่งผู้โดยสารที่ได้รับหนังสือรับรองการขนส่งทางบกแล้วโดยพลการ ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องและให้ปรับเงินตั้งแต่ห้าพันหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินสองหมื่นหยวน

มาตรา 93 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่หน่วยงานตรวจวัดสมรรถนะโดยรวมของรถยนต์ ทำการตรวจวัดโดยไม่เป็นไปตามมาตรฐานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องของประเทศ หรือในกรณีที่หน่วยงานตรวจวัดสมรรถนะโดยรวมของรถยนต์ ออกผลการตรวจวัดโดยมิได้ทำการตรวจวัดจริงหรือออกผลการตรวจวัดโดยไม่เป็นความจริง ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้อง ในกรณีที่มีสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ให้ยึดสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายทั้งหมด ในกรณีที่สิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายมีมูลค่าตั้งแต่ห้าพันหยวนขึ้นไป ให้ปรับเงินตั้งแต่สองเท่าแต่ไม่เกินห้าเท่าของมูลค่าสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ในกรณีที่ไม่มีสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายหรือสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายมีมูลค่าไม่ถึงห้าพันหยวน ให้ปรับเงินตั้งแต่ห้าพันหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินสองหมื่นหยวน ในกรณีที่เข้าองค์ประกอบตามความผิดอาญา ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา

มาตรา 94 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารมีพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดดังต่อไปนี้ ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้อง และให้ปรับเงินตั้งแต่หนึ่งหมื่นหยวนขึ้นไปแต่ไม่เกินสามหมื่นหยวน

(1) อนุญาตให้รถพาหนะซึ่งไม่มีหลักฐานอนุญาตการประกอบกิจการเข้ามาประกอบกิจการภายในสถานี

(2) อนุญาตให้รถพาหนะที่บรรทุกเกินน้ำหนักออกจากสถานี

(3) อนุญาตให้ปล่อยรถพาหนะซึ่งมิได้ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยหรือผลการตรวจสอบความปลอดภัยไม่ผ่านคุณสมบัติ

(4) ปฏิเสธมิให้รถพาหนะขนส่งผู้โดยสารเข้ามาประกอบกิจการโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

มาตรา 95 การกระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารมีพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดดังต่อไปนี้ ให้หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ระดับอำเภอขึ้นไปสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้อง หากปฏิเสธไม่แก้ไขให้ถูกต้อง ให้ปรับเงินสามพันหยวน ในกรณีที่มีสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ให้ยึดสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายทั้งหมด

(1) เปลี่ยนแปลงเส้นทางหรือประสิทธิภาพการบริการของสถานีขนส่งผู้โดยสารโดยพลการ

(2) ไม่ประกาศเส้นทาง สถานีเริ่มต้นและสถานีจอดแวะ ขบวนรถ เวลาออกรถ ราคาตั๋วโดยสาร สำหรับการขนส่ง

มาตรา 96 ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก ได้กระทำผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ในกรณีที่มีพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดดังต่อไปนี้ ให้ลงโทษตามกฎหมาย ในกรณีที่เข้าองค์ประกอบตามความผิดอาญา ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา

(1) ทำการอนุญาตโดยไม่เป็นไปตามเงื่อนไข วิธีการและระยะเวลาที่จำกัดที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมาย

(2) เข้าร่วมหรือทำการใดอันถือเสมือนเป็นการเข้าร่วมการประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกหรือกิจการสถานีขนส่งผู้โดยสารทางบก

(3) เมื่อพบการกระทำผิดกฎหมายแล้วไม่รีบทำการตรวจสอบแก้ไข

(4) ทำการขัดขวางหรือตรวจสอบรถพาหนะขนส่งซึ่งเดินรถตามปกติโดยขัดต่อกฎหมาย

(5) ทำการยึดรถพาหนะขนส่งหรือหนังสือรับรองการขนส่งทางบกโดยขัดต่อกฎหมาย

(6) เรียกเอาหรือรับเอาซึ่งทรัพย์สินของบุคคลอื่นหรือรับเอาซึ่งสิทธิประโยชน์ใดๆ

(7) พฤติการณ์อื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย

หมวดที่ 8 บทแนบท้าย

มาตรา 97 การควบคุมรถโดยสารรับจ้างส่วนบบุคคล (รถแทกซี่) รถโดยสารประจำทางในเมือง ให้ปฏิบัติกฎหมายที่เกี่ยวข้องของสำนักนายกรัฐมนตรี

มาตรา 98 ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารได้ประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกนะหว่างประเทศ นอกจากการกระทำทั่วไปที่ได้กำหนดให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ ข้อบังคับการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องต่างๆให้เป็นไปตามกฎหมายการควบคุมการขนส่งทางบกระหว่างประเทศซึ่งออกโดยกระทรวงคมนาคมขนส่ง

มาตรา 99 หน่วยงานควบคุมการคมนาคมขนส่งทางบก สามารถออกหนังสือรับรองอนุญาตการประกอบกิจการขนส่งทางบกและหนังสือรับรองการขนส่งทางบกได้ตามกฎหมายฉบับนี้ และสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมได้ สำหรับมาตรฐานค่าธรรมเนียมที่เป็นรูปธรรมนั้น ให้สำนักงานการคลัง สำนักงานควบคุมราคาของรัฐบาลประชาชนประจำมณฑล เขตปกครองตนเองหรือเทศบาลนครเป็นผู้พิจารณากำหนดร่วมกับสำนักงานคมนาคมขนส่งที่มีระดับเดียวกัน

มาตรา 100 กฏหมายฉบับนี้ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 2005 และให้ยกเลิกวิธีการควบคุมการขนส่งผู้โดยสารทางบกระหว่างหณฑล(ประกาศทางหลวง (1995) หมายเลข 828) ซึ่งประกาศโดยกระทรวงคมนาคมเมื่อวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 1995 กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการขนส่งผู้โดยสารบนทางด่วน(ประกาศทางหลวง (1998) หมายเลข 8) ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1998 กฎหมายว่าด้วยการควบคุมสถานีขนส่งผู้โดยสารทางบก(ประกาศทางหลวง (1995) หมายเลข 2) ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1995 กฎหมายว่าด้วยการควบคุมคุณภาพการประกอบกิจการของกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบก(ฉบับชั่วคราว) (ประกาศทางหลวง (2000) หมายเลข 225) และเงื่อนไขด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจสำหรับการเปิดกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบก(ฉบับชั่วคราว)(ประกาศทางหลวง (1993) หมายเลข 531) ในเวลาเดียวกัน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ