ชื่องาน Messe Nagoya 2011 ผู้จัดงาน Messe Nagoya Executive Committee ประกอบด้วย Aichi Prefectural Government,
City of Nagoya and Nagoya Chamber of Commerce & Industry
ระยะเวลาจัดงาน วันที่ 9-12 พฤศจิกายน 2554
สถานที่จัดงาน Port Messe Nagoya
สินค้าที่จัดแสดง สินค้าเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงาน สินค้าเกี่ยวกับความ
ปลอดภัย ทั้งสำหรับระดับครัวเรือนและระดับอุตสาหกรรม
ประเภทของผู้เข้าชมงาน นักธุรกิจที่เกี่ยวข้องและบุคคลทั่วไปที่สนใจ
จำนวนผู้เข้าชมงาน รวม 4 วัน 50,753 คน
จำนวนบริษัทที่เข้าร่วมจัดแสดงสินค้า 513 บริษัท 1,037 คูหา
Messe Nagoya เริ่มจัดขึ้นเมื่อปี 2006 เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ของ Aichi Expo 2005 โดยปีนี้ เป็นการจัดงานครั้งที่ 6
จากการเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นตะวันออกเมื่อเดือน มี.ค. 2011 ที่ผ่านมา และอุบัติเหตุในโรงผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่จังหวัดฟุขุชิมะ ทำให้ประเทศญี่ปุ่นประสบกับภาวะขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า ทั้งสำหรับในครัวเรือนและอุตสาหกรรม ซึ่งทางรัฐบาลได้ขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการช่วยกันประหยัดไฟฟ้าช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว ซึ่งจากปัจจัยเหล่านี้เอง ทำให้งานในปีนี้มีการจัดแสดงเทคโนโลยีเกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน การผลิตประแสไฟฟ้าทดแทนจากน้ำ แสงแดด เป็นต้น เป็นจำนวนมาก เช่น กระจกที่กักเก็บความร้อนเอาไว้ภายในทำให้ลดปริมาณการใช้ไฟฟ้า แผ่นชีทโซลาร์เซลล์ซึ่งมีความบางมาก หลอดไฟ/ป้ายโฆษณาที่ใช้ LED ประตูอัตโนมัติแบบไม่ใช้ไฟฟ้า โดยมี
การติดตั้งบอร์ดอยู่ที่พื้นหน้าประตู ซึ่งน้ำหนักตัวของผู้ใช้บริการที่เหยียบโดนจะทำให้กลไกภายในทำงาน ส่งผลให้ประตูเปิดออก เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีเกี่ยวกับการลดระดับรุนแรงจากแผ่นดินไหว เช่น พื้นที่ใช้วัสดุพิเศษทำให้ของที่ตกลงพื้น ไม่กระเด้งกระดอนต่อไป ซึ่งลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังมีบ้านที่ติดตั้งระบบเป่าลมอยู่ภายใต้ตัวบ้าน ซึ่งเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ระบบจะเป่าลมทำให้ตัวบ้านยกขึ้นสูงกว่าพื้น ซึ่งจะช่วยลดระดับความสั่นได้เป็นอย่างมาก
การนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจ เช่น การรีไซเคิลถ่าน Nickel-metal hydride/ ถ่าน Lithium-ion เพื่อแยกเอาเหล็ก นิกเกิล หรืออลูมิเนียม เป็นต้น แล้วนำมาใช้ผลิตเครื่องใช้สเตนเลส แม่เหล็ก อีกครั้งหนึ่ง ทั้งยังมีเครื่องรีไซเคิลกระดาษขนาดเล็กที่สามารถฟอกสีและผลิตกระดาษออกมาใหม่ได้ในเครื่องเดียวกัน
งานครั้งนี้ มีหน่วยงาน/ บริษัทจากต่างประเทศเข้าร่วมด้วย เช่น จีน บราซิล อินโดนีเซีย เกาหลี ฝรั่งเศส เป็นต้น ทั้งนี้ จากประเทศไทย มีสำนักงานเศรษฐกิจและการลงทุน (BOI) ณ กรุงโตเกียว เข้าร่วมด้วย
โดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโอซากา
ที่มา: http://www.depthai.go.th