จากเหตุการณ์ที่นายแบร์ลุสโคนี นายกรัฐมนตรีอิตาลี ได้ลาออกจากตำแหน่งส่งผลกระทบต่อโดยตรงต่อเศรษฐกิจของอิตาลีเนื่องจากอิตาลีต้องหาทางเพิ่มรายได้จำนวนมากเพื่อมาลดหนี้จำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะมาจากการช่วยเหลือจากแหล่งเงินทุนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น IMF หรือสภายุโรป ซึ่งส่งผลกระทลต่อชาวอิตาเลียนเองที่ต้องรัดเข็มขัดให้มากขึ้นเพื่อปลดหนี้จำนวนมหาศาล
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เผยว่า ถึงแม้เศรษฐกิจของอิตาลีจะอยู่ในช่วงขาลงแต่ไทยยังสามารถที่จะส่งออกสินค้าในกลุ่มอาหาร สินค้าทุน และสินค้าอุตสาหกรรมที่ใช้ทดแทนสินค้าของอิตาลี มายังอิตาลีได้ แต่สำหรับสินค้าฟุ่มเฟือยประเภทของตกแต่งบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ น่าจะมีการนำข้าจากอิตาลีลดลง
“สินค้าอาหารทะเลเป็นที่นิยมของชาวอิตาเลียน โดยจากระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาพบว่าชาว อิตาเลียนยังนิยมบริโภคอาหารทะเลแบบสดและแปรรูปมีมูลค่าและปริมาณที่ไม่แตกต่างกันมาก ถึงแม้ว่าจะวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปี 2008 ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนักต่อการบริโภคอาหารทะเล โดยจะสังเกตุได้ว่าอาหารทะเลแปรรูปยังเป็นที่นิยมจากอดีตจนถึงปัจจุบันได้แก่ อาหารทะเลแช่เย็น แช่แข็งแบบกล่องบรรจุสำเร็จรูป ซึ่งในปี 2010 มีประมาณการบริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4 และอาหารทะเลประเภทที่ผ่านกระบวนการถนอมมีประมาณการบริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.9
ในปี 2010 สินค้าที่อิตาลีนำเข้าอันดับต้นๆ เรียงตามมูลค่า ประเภทปลาสด ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลา Spigole ปลา Orate นอกจากนี้ ยังมีปลาทูน่าในน้ำมัน และปลาแปรรูปแช่แข็ง เช่น ปลาหมึกยักษ์ ปลาหมึก กุ้ง เป็นต้น ส่วนสินค้าที่นำเข้าเรียงตามปริมาณอันดับต้นๆ ประเภทปลาสด ได้แก่ หอยแมลงภู่ (12.3%) ปลา Orate และ ปลา Spigole (11.3% และ 10.9%) ปลาแซลมอน (10.3%) ประเทศสเปนเป็นผู้ส่งออกหอยแมลงภู่รายใหญ่แก่อิตาลี ซึ่งอิตาลีนำเข้าเป็นจำนวนถึง 82% และนำเข้าปลา Orate และปลา Spigole มาจากประเทศกรีซเป็นจำนวนถึง 76% และ 77% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังนำเข้าปลาแซลมอนมาจากประเทศสวีเดนและเดนมาร์ครวม 87% ในปี 2010 อิตาลีนำข้าปลาหมึกแช่แข็งจากไทยมีมูลค่า 95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.3 โดยไทยเป็นแหล่งนำเข้าปลาหมึกแช่แข็งอันดับ 1 ของอิตาลี และรองลงมาได้แก่ สเปน เวียดนาม จีน อินเดีย และแอฟริกาใต้ เป็นต้น” นางนันทวัลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ชาวอิตาเลียนจะนิยมบริโภคอาหารทะเลแต่เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคอิตาเลียนส่วนใหญ่มีปัญหาในเรื่องของการรัดเข็มขัดค่าใช้จ่ายและเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้น แนวโน้มการเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็งแบบกล่องบรรจุสำเร็จรูปมีปริมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากการประหยัดเวลาในการทำความสะอาดและการปรุง อีกทั้งรสชาติยังคงคุณค่าธรรมชาติและสะอาดถูกหลักอนามัย นอกจากนั้นสำหรับผู้บริโภคที่มีข้อจำกัดทางด้านการเงิน แต่ยังมีความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็งอาจเลือกบริโภคชนิดธรรมดาซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีราคาถูกกว่าผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็งที่ปรุงสำเร็จพร้อมประกอบอาหารเพราะต้องใช้ระยะเวลาในการปรุงเพิ่มมากขึ้น
ที่มา: http://www.depthai.go.th