นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือน ต.ค.2554 มีมูลค่า 17,192 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน ซึ่งถือว่าเป็นการส่งออกที่ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 2 ปี ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2552 ที่การส่งออกติดลบ 2.98% ขณะที่การนำเข้าเดือน ต.ค.2554 มีมูลค่า 18,200.8 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 21.50% ทำให้มีการขาดดุลการค้า 1,009.1 ล้านดอลลาร์
สำหรับการส่งออกช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.54) มีมูลค่า 196,768.7 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 22.80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และการนำเข้า ช่วง 10 เดือน มีมูลค่า 192,498.1 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 29.14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ทำให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปี ไทยยังคงมีการเกินดุลการค้ามูลค่า 4,270 ล้านดอลลาร์
การส่งออกในเดือนนี้ขยายตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 2 ปีเนื่องจากผู้ประกอบการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกของไทยได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าเพื่อส่งออกได้ โดยเฉพาะสินค้าหลักประเภทอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและยานยนต์ จึงทำให้ยอดการส่งออกลดลงอย่างมากและคาดว่าจะส่งผลกระทบไปจนถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 โดยคาดว่าในไตรมาสที่ 4 ของปี 2554 การส่งออกโดยรวมจะขยายตัวติดลบ 15% โดยขณะนี้กรมส่งเสริมการส่งออกได้รวบรวมข้อมูลเพื่อออกมาตรการช่วยเหลือผู้ส่งออกแล้ว นายศิริวัฒน์ กล่าว
สำหรับสินค้าส่งออกที่สำคัญในเดือน ต.ค. เช่น สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร ขยายตัว 35.8% สินค้าที่สำคัญ ได้แก่ ยางพารา ปริมาณขยายตัว 21.1% มูลค่าขยายตัว 59.8% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ปริมาณ ขยายตัว 55.5% มูลค่าขยายตัว 44.2% สินค้ากลุ่มอาหาร มูลค่าขยายตัว 28.9% ได้แก่ ผักผลไม้สดขยายตัว 80% ไก่สดแช่แข็งและแปรรูปขยายตัว 17.8% ข้าวมูลค่าขยายตัว 4.7% และปริมาณขยายตัว 13.4% สินค้าอุตสาหกรรมลดลง 11.8% ได้แก่ เลนส์ลดลง 37.8% อัญมณีและเครื่องประดับลดลง 36.2% ของเล่นลดลง 34.5% เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ลดลง 22.1% ยานยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบลดลง 15.3% เครื่องใช้ไฟฟ้าลดลง 14.5% เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วนลดลง 14.1%
นายศิริวัฒน์ กล่าวอีกว่า ตลาดส่งออกในเดือน ต.ค. ตลาดหลักๆ ลดลง 4% แยกเป็นสหภาพยุโรป ลดลง 11.1% สหรัฐลดลง 5.5% ยกเว้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 4.2% ส่วนตลาดศักยภาพสูง ส่งออกยังเพิ่มขึ้น 10.1% เป็นการเพิ่มขึ้นในเกาหลีใต้ 22.5% จีน 21.1% อาเซียน 14.4% ยกเว้นฮ่องกงลดลง 15.1% และไต้หวัน 14.2% ตลาดศักยภาพรองลดลง 9.1% เป็นการลดลงทวีปออสเตรเลีย 27.9% ตะวันออกกลาง 11.9% สหภาพยุโรปฝั่งตะวันออก 21.6% รัสเซียและซีไอเอส 22.9% มีเพียงแอฟริกาที่เพิ่ม 2.1% ละตินอเมริกาเพิ่ม 22.6% และแคนาดาเพิ่ม 5.1%
นางมาลี โชคล้ำเลิศ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า มูลค่าการส่งออกเดือน ต.ค.2554 ที่ขยายตัวเพียงเล็กน้อย สาเหตุหลักมาจากผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งในนิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วม ต้องหยุดเดินเครื่องผลิตสินค้า และหยุดการส่งออกลง ส่งผลให้การส่งออกสินค้าสำคัญติดลบทันที ทั้งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์และส่วนประกอบ ซึ่งสินค้าทั้ง 3 กลุ่มมีสัดส่วนการส่งออกสูงถึง 30-40% ของการส่งออกรวมของไทย และคาดว่า ผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมจะยังมีต่อเนื่องไปยังเดือน ธ.ค.2554 ที่คาดว่า มูลค่าการส่งออกน่าจะติดลบไม่ต่ำกว่า 10% ส่วนไตรมาสแรกของปีหน้าก็น่าจะติดลบเช่นกัน และจะกลับมาฟื้นตัวได้เป็นบวกเล็กน้อยในไตรมาส 2 ปีหน้า เพราะคาดว่า ผู้ประกอบการในโรงงานอุตสาหกรรมเหล่านั้นจะใช้เวลาฟื้นตัว 3-4 เดือน
ช่วงที่โรงงานหยุดเดินเครื่องผลิต คำสั่งซื้อจากต่างประเทศหายไปหมด เพราะลูกค้าต้องกระจายความเสี่ยงไปยังประเทศอื่นที่ไม่มีปัญหาในการผลิต และการส่งมอบ ส่วนผู้ส่งออกไทยก็ไม่กล้ารับคำสั่งซื้อ เพราะกลัวจะผลิตให้ไม่ได้ จะทำให้เสียชื่อ แต่เมื่อแต่ละโรงงานกลับมาเดินเครื่องได้อีกครั้งภายใน 3-4 เดือน คำสั่งซื้อก็จะกลับมา แต่เชื่อว่า มูลค่าการส่งออกปีหน้าคงจะขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมาย 15% แค่โตได้ 10% ก็ดีใจแล้ว เพราะฐานการขยายตัวปีนี้สูงมากแล้ว นางมาลี กล่าว
ที่มา: http://www.depthai.go.th