แม้ว่าจะยังมีการถกเถียงและคัดค้านต่อนโยบายการผ่อนปรนระเบียบการลงทุนของบริษัทค้าปลีกต่างชาติของรัฐบาลโดยกลุ่มต่างๆที่เกรงว่าการเข้าตลาดของยักษ์ใหญ่ค้าปลีกต่างชาติจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อยของอินเดีย (Kirana) จนกระทั่งขณะนี้นโยบายดังกล่าวได้กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองระหว่างพรรครัฐบาลซึ่งนำโดยพรรค Indian National Congress กับพรรคฝ่ายค้านที่นำโดยพรรค Bharatiya Janata Party (BJP) และพรรคฝ่ายค้านท้องถิ่นอย่างพรรค Trinamool Congress ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของอินเดียต่างก็ต้องเตรียมปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบริษัทค้าปลีกที่มีห้างหรือสาขาของตนบางส่วนอยู่ในรัฐที่คัดค้านการเข้ามาของบริษัทค้าปลีกต่างชาติจำนวน 11 รัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรัฐที่ปกครองด้วยพรรคฝ่ายค้าน (ยกเว้นรัฐเกราละที่ปกครองด้วยพรรครัฐบาล แต่ ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ของรัฐบาล) คือ อุตตรประเทศ ทมิฬนาฑู กรณาฏกะ เบงกอลตะวันตก คุชราต พิหาร มัธยประเทศ ฉัตติสครห์ เกรละ ฌาร์ขัณฑ์ และโอริสสา ซึ่งต่อต้านนโยบายนี้อย่างรุนแรง บริษัทฯ จะต้องเตรียมแผนการลงทุนในการร่วมทุนกับบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ให้เหมาะสม
สำหรับบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของอินเดียอย่าง Spencers ซึ่งมีสาขาของห้างค้าปลีกของตนเองอยู่ในรัฐที่ต่อต้านค้าปลีกต่างชาติ 11 รัฐถึง 60% หรือบริษัท Future Group ซึ่งเป็นเจ้าของห้าง Big Bazaar, Food Bazaar และ Pantaloon ที่มีสาขาของห้างจำนวนมากอยู่ใน 11 รัฐดังกล่าว ก็ได้มีการวางแผนในเบื้องต้นแล้ว โดยจะมีการร่วมทุน (Joint Venture) กับยักษ์ใหญ่ค้าปลีกต่างชาติเฉพาะในรัฐที่ไม่ต่อต้านเท่านั้น ส่วนในรัฐที่ต่อต้านก็จะดำเนินธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบเดิมต่อไป หากว่าในอนาคตรัฐที่ต่อต้านค้าปลีกต่างชาติมีความผ่อนคลายลงก็จะค่อยๆขยายการร่วมทุนต่อไป
สำหรับประเด็นเกี่ยวกับการกำหนดของรัฐบาลให้บริษัทค้าปลีกต่างชาติประเภท Multi-Brand Retailers ที่เข้าไปลงทุนในอินเดียจะต้องจัดซื้อจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมไม่น้อยกว่า 30% นั้น ขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าข้อกำหนดดังกล่าว บริษัทค้าปลีกต่างชาติต้องจัดซื้อจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของอินเดียเท่านั้น หรือว่าสามารถจัดซื้อได้จากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมจากที่ไหนในโลกก็ได้ ทั้งนี้ คาดว่ารัฐบาลอินเดียคงเกรงว่าการกำหนดให้บริษัทค้าปลีกต่างชาติที่เข้าไปลงทุนในอินเดียต้องจัดซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของอินเดียไม่น้อยกว่า 30% อาจจะกลายเป็นมาตรการกีดกันทางการค้าที่ขัดกับบทบัญญัติใน Article III ภายใต้ GATT (General Agreement on Tariffs & Trade) ที่ระบุว่าทุกประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) จะต้องปฏิบัติต่อประเทศสมาชิกด้วยกันด้วยความเป็นธรรม (National Treatment) ในการออกระเบียบ กฏเกณฑ์ กฎหมาย และนโยบายภาษีภายในประเทศที่เกี่ยวข้องกับการค้าภายใน การจัดซื้อ การขนส่ง และการกระจายสินค้า นอกจากนี้ ยังอาจจะขัดกับบทบัญญัติเกี่ยวกับ TRIM (Trade-Related Investment Measures) ที่อินเดียต้องปฏิบัติต่อประเทศสมาชิก WTO ด้วยความเป็นธรรมในการจัดซื้อสินค้าหรือนำเข้าสินค้าโดยบริษัทที่เข้าไปลงทุนด้วย
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ
ที่มา: http://www.depthai.go.th