นักวิเคราะห์จีนต่างคาดเดาว่า รัฐบาลจีนใกล้จะประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายมาตรการทางการเงิน และอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ลักษณะนโยบายเศรษฐกิจระดับมหภาคของประเทศ ภายหลังการประชุมทางเศรษฐกิจแห่งชาติประจำปีในเดือนธันวาคม ทั้งนี้ ประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายมาตรการทางการเงิน โดยการปรับลดอัตราเงินสำรองของธนาคาร จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น เนื่องจาก ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะสามารถนำเงินไปหมุนเวียนในระบบได้มากขี้น
ธนาคารกลางของประเทศจีน (PBOC) ได้มีการปรับอัตราเงินสำรอง (Reserve-Requirement Ratio) ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์จำนวน ๖ แห่งในมณฑลเจ้อเจียงลดลง ๕๐ จุด มาอยู่ที่ระดับร้อยละ ๖๐ มีผลบังคับใช้ในวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ โดยกล่าวว่า การปรับลดอัตราเงินสำรองในครั้งนี้ เป็นการปรับระดับให้สู่สภาวะปกติ หลังจากที่ ธนาคารกลางของจีนได้มีการปรับอัตราเงินสำรองของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ทั้ง ๒๐ แห่งทั่วประเทศจีน เพิ่มขึ้นถึง ๕๐ จุด ในปีที่ผ่านมา และการปรับในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากการขาดดุลทางการเงิน ทั้งนี้นักวิเคราะห์จีนมีความเห็นว่า นโยบายดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณให้เห็นถึงการจำกัดของการผ่อนคลายมาตรการทางการเงินของรัฐบาลจีน การเรียกร้องให้มีการผ่อนปรนนโยบายทางการเงิน เกิดขึ้นภายหลังจากดัขนี Preliminary HSBC Purchasing Managers’Index (PMI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดหลักของกิจกรรมที่เกี่ยวกับการผลิต ปรับตัวลดลงจาก ๕๑.๑ ในเดือนตุลาคม เป็น ๔๘ จุดในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนมีนาคม ๒๕๕๒ โดยรัฐบาลจีนเปิดเผยว่า ในปี ๒๕๕๕ อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม อาจจะลดลงร้อยละ ๑-๒ และคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมระหว่างประเทศ (จีดีพี) ในปีนี้จะอยู่ที่ระดับร้อยละ ๙.๒ และจะไม่ปรับตัวสูงขึ้นมากในปี ๒๕๕๕ โดยคาดว่า มีโอกาสที่จีดีพี ในช่วงไตรมาสแรกของปี ๒๕๕๕ จะลดลงเป็นร้อยละ ๘ ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรมเหล็กและพลังงานซึ่งได้เติบโตสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา จะเกิดการชะลอตัวลงในช่วงสองสามเดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคาร (Interbank Market) ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่า สภาพคล่องของประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี และในช่วงปลายปีซึ่งเป็นช่วงที่มีการจับจ่ายใช้สอยมากจะส่งเป็นแรงผลักดันให้เกิดระบบเศรษฐกิจมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นอีก
ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ไชน่าเดลลี่ วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้
ที่มา: http://www.depthai.go.th