เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (1 ธันวาคม 2554) บรรดาผู้ค้าปลีกรายย่อยของอินเดียทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ นำโดยสมาพันธ์ผู้ค้าทั่วอินเดีย (Confederation of All India Traders) รวมตัวกันปิดร้านค้าเป็นเวลา 1 วัน พร้อมทั้งออกมาเดินขบวนประท้วงบนท้องถนนในกรุงนิวเดลีและเมืองมุมไบ รวมทั้งในเมืองใหญ่ๆอีกหลายเมืองในรัฐอุตตรประเทศ เพื่อเป็นการประท้วงนโยบายเปิดเสรีค้าปลีกจากต่างประเทศของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองไปแล้ว
การประท้วงด้วยการปิดร้านค้าดังกล่าวมีร้านค้าปลีกขนาดกลางและขนาดย่อมประมาณ 90% ของทั้งหมด 2 ล้านรายเข้าร่วม คาดว่าจะทำให้ร้านค้าสูญเสียรายได้รวมกันประมาณ 1 แสนล้านรูปีภายในวันเดียว ซึ่งผู้นำของสมาพันธ์ฯ กล่าวว่าการสูญเสียรายได้เพียงเท่านี้จะเทียบไม่ได้เลยกับความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคตถ้ารัฐบาลเปิดเสรีให้กับบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศโดยเฉพาะบริษัทค้าปลีกประเภท Multi-Brand Retailers เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศอินเดีย อย่างไรก็ตาม ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ประเภท Organized Retailers ไม่ได้เข้าร่วมรณรงค์ด้วยและยังคงเปิดให้บริการตามปกติ
ค้าปลีกรายย่อยพร้อมใจกันปิดร้านทั่วอินเดีย
ภาคเหนือ
ในกรุงนิวเดลี ร้านจำหน่ายของชำและร้านเสื้อผ้ารายย่อยในตลาดต่างๆ เช่น ตลาด Sadar Bazaar, ตลาด Chawri Bazar, ตลาด Connaught Place, ตลาด Karol Bagh, ตลาด Rajouri Garden และตลาด Preet Vihar ต่างพากันปิดร้านประท้วงทั้งหมด ส่วนห้างค้าปลีกสมัยใหม่ เช่น Easyday (ของกลุ่ม Bharti Retail) และ Big Bazaar (ของกลุ่ม Future Group) ยังคงเปิดให้บริการตามปกติเกือบทุกสาขา ยกเว้นสาขาที่อาจจะมีความเสี่ยงจากการประท้วงดังกล่าว ส่วนในรัฐอุตตรประเทศ ที่เมือง Lucknow นอกจากประท้วงด้วยการปิดร้านค้าแล้ว ผู้ค้ารายย่อยยังได้รวมตัวกันไปเดินประท้วงบนท้องถนนพร้อมทั้งมีการเผาหุ่นผู้นำของพรรคร่วมรัฐบาลและเผาหุ่นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม อีกทั้งยังได้ยื่นหนังสือคัดค้านนโยบายการเปิดเสรีค้าปลีกของรัฐบาลต่อผู้ว่าการของเมืองด้วย
ภาคตะวันออก
สมาพันธ์สมาคมการค้าแห่งรัฐเบลกอลตะวันตก (Confederation of West Bengal Trade Association) ซึ่งมีสมาชิกกว่า 5 แสนราย เปิดเผยว่าสมาชิกของสมาพันธ์ฯ ทั้งที่เป็นผู้ค้าส่งและผู้ค้าปลีกต่างพร้อมใจกันปิดร้านค้าเพื่อเป็นการประท้วงตามตลาดต่างๆ คือ ตลาด Posta Bazaar, ตลาด Bagri Market, ตลาด Mullickbazar, ตลาด Phoolbagan, ตลาด Gariahat Market และตลาด New Market รวมทั้งร้านค้าในเมืองต่างๆ คือ เมือง Bankura, เมือง Durgapur, เมือง Raniganj, เมือง Asansol, เมือง Howrah และเมือง Burdwan ก็พากันปิดร้านค้าประท้วงด้วยเช่นกัน ยกเว้น ศูนย์การค้าใหญ่ๆ ได้แก่ South City Mall, City Centre และ Forum รวมทั้งร้านค้าประเภท Stand-Alone และห้าง Pantallon กับ Westside ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ
ภาคตะวันตกและภาคใต้
ในมุมไบ ผู้ค้าปลีกรายย่อยกว่า 1 แสนรายพร้อมใจกันปิดร้านค้าเป็นการประท้วง ซึ่งคาดว่าทำให้สูญเสียรายได้ไปถึงกว่า 5 พันล้านรูปีในวันเดียว นอกจากนั้นก็มีการเดินขบวนประท้วงอีกด้วย โดยมีผู้ประท้วงโดนตำรวจจับไปประมาณ 20 คน รวมทั้ง Mr. Raj Purohit ประธานสาขาพรรค Bharatiya Janata เขตมุมไบ (พรรคฝ่ายค้าน) ส่วนในเมืองบังกาลอร์มีร้านค้าปลีกรายย่อยบางส่วนปิดร้านค้าประท้วง แต่ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าสมัยใหม่เปิดให้บริการตามปกติ
นายกรัฐมนตรี Manmohan Singh ยังคงเดินหน้าเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลสองพรรค คือ พรรค Trinamool Congress และพรรค Dravida Munnetra Kazhgam (DMK) ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาลในการเปิดเสรีค้าปลีกครั้งนี้ ทั้งนี้ ไม่ว่านายกรัฐมนตรีฯ จะชี้แจงให้เห็นถึงผลดีของการเปิดเสรีค้าปลีกว่าจะทำให้ประชาชนทั่วไปได้รับประโยชน์จากการมีโอกาสเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นในราคาทีถูกลงอย่างไร ผู้นำของพรรคร่วมทั้งสองพรรคดังกล่าวก็ยังมีความเห็นไปในทิศทางตรงกันข้าม โดยระบุว่าอะไรที่ดีในประเทศอื่นอาจจะไม่ดีสำหรับประเทศอินเดียก็ได้
อนึ่ง หากนายกรัฐมนตรี Manmohan Singh ยังไม่สามารถเจรจาให้พรรคร่วมรัฐบาลสนับสนุนนโยบายนี้ได้ คาดว่าการนำเสนอวาระนี้ให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบเพื่อออกเป็นกฎหมายบังคับใช้อาจจะต้องเลื่อนออกไปอีก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีฯ ยังเดินหน้าเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ คาดว่าน่าจะทราบผลในวันพุธที่จะถึงนี้ (7 ธันวาคม 2554)
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ
ที่มา: http://www.depthai.go.th