ธนาคารกลางจีน ประกาศลดอัตราเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศลง ร้อยละ ๐.๕ หรือ ๕๐ จุด โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ส่งผลให้อัตราเงินสำรองของธนาคาร ณ ปัจจุบัน มีค่าอยู่ที่ร้อยละ ๒๑ ขณะที่อัตราสำรองเงินกู้ขนาดกลางและย่อย อยู่ที่ระดับร้อยละ ๑๗.๕ ทั้งนี้ หลายฝ่ายเชื่อว่าการปรับลดครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณว่า จีนเริ่มใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบผ่อนคลาย เพื่อเพิ่มสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่า การปรับลดอัตราเงินสำรองในครั้งนี้ จะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้นถึง ๓.๕ — ๔ หมื่นล้านหยวน หรือ ๕.๕ — ๖.๓ พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่ง นับว่าเป็นมาตรการเร่งด่วนที่ใช้ในการแก้ปัญหาสภาพคล่องของเงินหมุนเวียนในระบบธนาคารจีน โดยเชื่อว่าการปรับอัตราเงินสำรองที่เกิดเร็วขึ้นกว่าที่คาดหมายในครั้งนี้ เป็นผลมาจากค่าเงินหยวนที่มีมูลค่าต่ำที่สุดในรอบ ๔ ปี
การปรับลดอัตราเงินสำรองในครั้งนี้ นับเป็นการปรับลดลงครั้งแรกในรอบ ๓ ปี และเกิดขึ้นภายหลังจากการปรับเพิ่มขึ้นครั้งที่แล้วไม่ถึงครึ่งปี โดยตั้งแต่เดือนธันวาคม ๒๕๕๑ ที่ผ่านมามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง ๑๒ ครั้ง
การที่จีนปรับลดอัตราเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ นับเป็น การกระตุ้นเศรษฐกิจในทางตรง โดยเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับธนาคารพาณิชย์ และเพิ่มปริมาณเงินที่ธนาคารจะนำไปใช้ในการปล่อยกู้หรือให้สินเชื่อกับลูกค้า รวมทั้งเป็นการสร้างเสถียรภาพในกับระบบเศรษฐกิจ หลังจากระดับเงินเฟ้อและดัชนีราคาผู้บริโภคได้ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายทางเศรษฐกิจอย่างเข้มงวดของรัฐบาลจีนในช่วงที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลลี่ วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๔
สำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้
ที่มา: http://www.depthai.go.th