นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า การขยายตัวอย่างไม่หยุดยั้งในภาคส่งออกของไทยในหลายๆ ทศวรรษที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมที่สินค้าและบริการของไทยได้รับเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจากผู้บริโภคในตลาดโลก สินค้าไทยได้รับการยอมรับว่ามีเอกลักษณ์ มีคุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผล สินค้าและบริการมีทั้งความ
หลากหลายและความประณีตพิถีพิถัน จึงได้มอบหมายให้ทางกรมส่งเสริมการส่งออกเตรียมสร้างตราสัญลักษณ์ Thailand Trusted Quality Mark (TTM) หลังจากที่ตราสัญลักษณ์สินค้าไทย (Thailand's Brand) ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2542 ประสบความสำเร็จอย่างดี
“ขณะนี้ได้มอบหมายให้ทางกรมส่งเสริมการส่งออกเตรียมเปิดตัวตราสัญลักษณ์ Thailand Trusted Quality Mark (TTM) เพื่อตอกย้ำจุดแข็ง สร้างความโดดเด่นในเอกลักษณ์ (Brand Identity) ของตราสัญลักษณ์สินค้าไทย สื่อสารให้เป็นที่เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น และยังเป็นตัวที่สามารถการันตีคุณภาพที่ทั่วโลกมั่นใจได้ของสินค้าไทยอันเกิดจากความเข้มแข็งของภาคการผลิต คุณสมบัติที่แตกต่าง และความพร้อมของหลากหลายปัจจัยของอุตสาหกรรมไทย พร้อมทั้งสื่อสารเน้นภาพลักษณ์อันแข็งแกร่งของแต่ละภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมในภาพรวมและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศ” นายศิริวัฒน์ กล่าว
อย่างไรก็ดี ตราสัญลักษณ์ TTM จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศและสินค้าไทย ผ่านตราสัญลักษณ์สินค้าไทย โดยมุ่งเน้นการสร้างทัศนคติที่ดีในกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อประเทศไทย (Country Image) รวมทั้งยกระดับภาพลักษณ์ของสินค้าไทย (Product Image) ให้อยู่ในแถวหน้าตามมาตรฐานระดับสากล สร้างการรับรู้ และตอกย้ำสร้างการจดจำต่อตราสัญลักษณ์ “Thailand Trusted Quality Mark” เครื่องหมายอันเป็นมาตรฐานสินค้าและแบรนด์ชั้นนำของไทยในตลาดโลกและยังเป็นการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมให้สินค้าและบริการคุณภาพของไทยที่ได้รับสัญลักษณ์นี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ได้รับการยอมรับ จนเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ทั้งยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของการส่งออกสินค้าและบริการไทยทั้งในด้านปริมาณและมูลค่า
ล่าสุดจากการสำรวจวิจัยการรับรู้ของผู้บริโภคในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกพบว่า ไทยมีความโดดเด่นด้านภาพลักษณ์สินค้า/บริการ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความมีเอกลักษณ์ คุณภาพสินค้าและราคาที่สมเหตุผล ซึ่งตราสัญลักษณ์ TTM จะเป็นเครื่องมือที่ดีในการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศตลอดจนสินค้าและบริการของไทย โดยสามารถสื่อสารกับผู้บริโภคถึงแหล่งกำเนิดสินค้า (Country of Origin) มาตรฐานและคุณภาพของสินค้าและบริการ
ด้านนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เผยว่า กรมฯ มีแนวทางและหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ได้รับสัญลักษณ์ TTM โดยทางกรมฯ จะเปิดรับสมัครสมาชิกเป็นครั้งแรกในเดือนมกราคม 2555 โดยสมาชิก Thailand’s Brand จะได้รับสิทธิ์ในการสมัครขอใช้ตราสัญลักษณ์ TTM เป็นกลุ่มแรก (ในปี 2555) โดยจะต้องกรอกใบสมัครแจ้งความจำนงขอใช้ตราสัญลักษณ์ เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และในปีต่อๆ ไป จะเปิดรับสมัครปีละครั้งในเดือนมกราคมเช่นกัน จากนั้นในเดือนมีนาคมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะประชุมกันเพื่อพิจารณาคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด คือ ต้องเป็นสมาชิกกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (EL: Exporter’s List) เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีภาพลักษณ์ของกิจการที่ดีและไม่มีประวัติเสียหาย นอกจากนั้น คณะกรรมการยังอาจพิจารณาคุณสมบัติอื่นๆ ด้านการส่งออก เช่น การได้รับรางวัล Prime Minister’s Export Award, DEmark หรือรางวัลที่น่าเชื่อถืออื่นๆ ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์หรือมาตรฐานด้านการค้าสากล เป็นผู้ส่งออกบัตรทองของกรมศุลกากร ฯลฯ
“ผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์จะได้รับประโยชน์มากมาย โดยกรมฯ จะมุ่งเน้นเรื่องการประชาสัมพันธ์เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ประเทศและสินค้า ผ่านตราสัญลักษณ์ TTM ซึ่งก่อให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ ทำให้สามารถขายสินค้าในต่างประเทศได้ง่ายและมากขึ้น สามารถเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศได้สะดวกขึ้น และลดปัญหาการถูกกดราคา ต่อราคาและปัญหาย้ายฐานการสั่งซื้อสินค้า ช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองกับช่องทางจัดจำหน่าย ไม่ถูกกำหนดโดยผู้ซื้อเพียงผู้เดียว นอกจากนั้น ยังได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษในการเข้าร่วมกิจกรรมของกรมฯ ทั้งกิจกรรมในประเทศและต่างประเทศ เช่น งานแสดงสินค้า คณะผู้แทนการค้า ฯลฯ โอกาสในการเข้าร่วมโครงการเครือข่ายกระจายสินค้า/หรือโครงการพันธมิตรคู่กระจายสินค้าในต่างประเทศ โอกาสในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์หน่วยงานและสินค้าผ่านสื่อต่างๆ ของกรมฯ เป็นต้น
กรมฯ คาดหวังว่าตราสัญลักษณ์ TTM จะสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศ คือ ผู้บริโภคในตลาดโลกรับรู้ถึงภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยและสินค้าไทย ว่าสินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพที่ทั่วโลกมั่นใจ ก่อให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน กระตุ้นการขยายตัวของยอดส่งออกทั้งในด้านปริมาณและมูลค่า ซึ่งส่งผลให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ เพิ่มการจ้างงาน ลดการขาดดุลการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยที่ได้เห็นสินค้าไทยไปประสบความสำเร็จในตลาดโลก” นางนันทวัลย์ กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: http://www.depthai.go.th