การท่องเที่ยวบนเรือสำราญของชาว อิตาเลียน ช่องทางใหม่ของการส่งออกสินค้าไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 26, 2011 11:36 —กรมส่งเสริมการส่งออก

พฤติกรรมการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญของชาวอิตาเลียน

การท่องเที่ยวโดยเรือสำราญในอิตาลีซึ่งในอดีตนับว่าเป็นการท่องเที่ยวสำหรับเศรษฐีเท่านั้น ในยุคปัจจุบันนี้กลับกลายเป็นกระแสนิยมอย่างมากในหมู่ชาวอิตาเลียนที่จะไปพักผ่อนฤดูร้อนบนเรือสำราญซึ่งแล่นไปตามมหาสมุทรต่างๆ โดยในปี 2009 ที่ผ่านมาประเทศอิตาลี และประเทศกรีซ นับเป็นเป้าหมายแรกๆ ในการเดินทางท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวที่ท่องเที่ยวโดยเรือสำราญในยุโรปประมาณ 24 ล้านคน เพิ่มจากปี 2008 ถึง 9% ซึ่งแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่อาศัยอยู่ในทวีปยุโรป 4.9 ล้านคน หรือคิดเป็น 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดจากทั่วโลก

ในปี 2011 CEMAR (Port agent tour operator ferries and cruises in Italy) คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 10.9 ล้านคนที่จะผ่านเข้าท่าเรือในอิตาลีเพื่อทำการท่องเที่ยว ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 17% เมื่อเทียบกับปี 2010 และคาดว่าจะมีชาวอิตาเลียนท่องเที่ยวโดยเรือครูสประมาณ 2.5 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 60% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ในฤดูร้อนปี 2011 ซึ่งนับเป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยวที่สำคัญของชาวอิตาเลียน บริษัท Frigerio Travel Network ซึ่งเป็นเครือข่ายบริษัททัวร์ที่มีสมาชิกกว่า 70 บริษัททั่วอิตาลี ได้ทำการสำรวจถึงพฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาวอิตาเลียนที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยพบว่าชาวอิตาเลียนออกเดินทางท่องเที่ยวช้าลงเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ และจุดหมายหลักๆ ที่นักท่องเที่ยวชาวอิตาเลียนนิยมไป เช่นประเทศอียิปต์ และตูนีเซียนั้นเกิดปัญหาภายในประเทศจึงทำให้ชาวอิตาเลียนเปลี่ยนจุดหมายและหันมานิยมท่องเที่ยวในประเทศมากยิ่งขึ้น โดยชาวอิตาเลียนที่เลือกการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศนั้นหันมาให้ความสนใจกับแหล่งท่องเที่ยวอย่าง ซาเดนญ่า ซิชิลี พูเลีย และทัสคานีมากขึ้น ส่วนแหล่งท่องเที่ยวในแถบเมดิเตอร์เรเนี่ยนนั้น ประเทศกรีซ และสเปนยังคงเป็นที่นิยมอยู่แต่ก็มีราคาที่สูงขึ้นมากเนื่องจากปัญหาทางทะเลที่เกิดขึ้น ส่วนแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมรองลงมานั้น ชาวอิตาเลียนนิยมไปพักผ่อนที่ Cape Verde และเกาะ Canary หรือประเทศตามแนวคาริบเบียนได้แก่ แม็กซิโก คิวบา หรือไปพักผ่อนที่สหรัฐอเมริกา เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยังมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากที่สนใจไปท่องเที่ยวในแถบมาดากัสก้า หรือมหาสมุทรอินเดีย มัลดีฟ เป็นต้น

ฤดูกาลการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ

โดยปกติการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญสามารถทำได้ตลอดทั้งปีในมหาสมุทรต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งสามารถแบ่งช่วงฤดูการท่องเที่ยวตามสภาพภูมิประเทศได้ดังนี้

               มหาสมุทร/ทวีป                            เดือน
          เมดิเตอร์เรเนียน                           ตลอดทั้งปี
          ทะเลบอลติก และยุโรปเหนือ                   พฤษภาคม  - กันยายน
          หมู่เกาะคานารี่ และมาเดรา                   มิถุนายน - กันยายน
          คาริเบียน และ West Indies                 ตลอดทั้งปี ยกเว้นเดือนกรกฎาคม -สิงหาคม
          เอเชีย                                   ตลอดทั้งปี ยกเว้นเดือนกรกฎาคม -สิงหาคม
          มหาสมุทรแปซิฟิก                            ตลอดทั้งปี ยกเว้นเดือนกรกฎาคม -สิงหาคม
          มหาสมุทรอินเดีย                            ตลอดทั้งปี ยกเว้นเดือนกรกฎาคม -สิงหาคม
          ลาตินอเมริกา                              ธันวาคม - เมษายน
          อเมริกาเหนือ                              พฤษภาคม  - กันยายน
          อลาสก้า                                  พฤษภาคม  - กันยายน

บริษัทผู้ให้บริการเดินเรือสำราญในอิตาลี

บริษัทที่ให้บริการเดินเรือสำราญในอิตาลี มีอยู่ 7 บริษัทหลักๆ คือ

           บริษัท                            รายละเอียด

จำนวนเรือที่ให้บริการ :

          Costa Crociere              15 ลำ รอการนำส่ง 1 ลำ อยู่ในระหว่างการสั่งผลิตอีก 1 ลำ
          (อิตาลี)                      รองรับนักท่องเที่ยว : 46,400 คน

เส้นทางการเดินเรือ : เมดิเตอร์เรเนียน, ยุโรปเหนือ, คาริเบียน, อเมริกาเหนือ,

อเมริกาใต้, อ่าวเปอร์เซีย, มหาสมุทรอินเดีย และดูไบ

          MSC Crociere                จำนวนเรือที่ให้บริการ : 11 ลำ
          (อิตาลี)                      รองรับนักท่องเที่ยว : 29,760 คน

เส้นทางการเดินเรือ : เมดิเตอร์เรเนียน, อัฟริกาเหนือ, ช่องแคบยิบรอลตาร์, ยุโรป

เหนือ, อัฟริกาใต้, อเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้, คาริเบียน, มหาสมุทรอินเดีย,

มาดากัสการ์ และสหรัฐอาหรับ เอมิเรท

          Silver Sea (อิตาลี)           จำนวนเรือที่ให้บริการ : 6 ลำ

รองรับนักท่องเที่ยว : 2,028 คน

เส้นทางการเดินเรือ : คาริเบียน, เอเชีย, อลาสก้า, อเมริกาใต้, ยุโรปเหนือ, คลอง

ปานามา, เมดิเตอร์เรเนียน, มหาสมุทรอินเดีย, ทะเลแดง, ทะเลดำ, ตะวันออกกลาง,

อเมริกาใต้ และแอนตาร์คติค

          Carnival (สหรัฐ)             จำนวนเรือที่ให้บริการ : 22 ลำ

รองรับนักท่องเที่ยว : 57,526 คน

เส้นทางการเดินเรือ : เมดิเตอร์เรเนี่ยน, อเดรียติก, คาริเบียน, ฮาวาย, อเมริกาใต้,

บาฮามาส และ อลาสก้า

จำนวนเรือที่ให้บริการ : 21 ลำ

          Royal Caribbean             รองรับนักท่องเที่ยว : 60,667 คน
          (นอร์เวย์/สหรัฐ)               เส้นทางการเดินเรือ : คาริเบียน, เมดิเตอร์เรเนียน, ยุโรปเหนือ, สแกนดิเนเวีย,

แอตแลนติก, ตะวันออกกลาง, ออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์, อเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้

และเอเชีย

Princess Cruises (แม็กซิโก) จำนวนเรือที่ให้บริการ : 11 ลำ

รองรับนักท่องเที่ยว : 25,610 คน

เส้นทางการเดินเรือ : คาริเบียน, ยุโรปเหนือ, เมดิเตอร์เรเนียน, เอเชีย, อลาสก้า,

คลองปานามา, อเมริกาใต้, ทรานส์แอตแลนติค และออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์

Celebrity Cruises (สหรัฐ) จำนวนเรือที่ให้บริการ : 8 ลำ

รองรับนักท่องเที่ยว : 19,000 คน

เส้นทางการเดินเรือ : คาริเบียน, เมดิเตอร์เรเนียน, ทรานส์แอตแลนติค, อเมริกาใต้,

เอเชีย, อลาสก้า และออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์

เส้นทางการเดินเรือ

การเดินทางท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญนั้น สามารถออกเดินทางได้จากตามเมืองท่าต่างๆ ในอิตาลี ซึ่งเมืองหลักๆ ที่มีการจอดรับผู้โดยสาร หรือจอดเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ท่องเที่ยวในตัวเมืองนั้น ได้แก่ เมืองเจโนวา ซาโวน่า ชิวิต้าเว็คเคีย เนเปิ้ล พาแลโม คาทาเนีย เมสซิน่า บารี ริวอร์โน่ และเวนิส ซึ่งในปี 2011 นั้นเมืองชิวิต้าเว็คเคียยังเป็นท่าเรือหลักของการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญของอิตาลี และยุโรป โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวผ่านเข้าท่าเรือประมาณ 2,458,000 คน ตามมาด้วยท่าเรือที่เมืองเวนิส (1,650,000 คน) ท่าเรือเมืองเนเปิ้ล (1,275,000 คน) ท่าเรือเมืองริวอร์โน่ (945,000 คน) ท่าเรือเมืองซาโวน่า (931,000 คน) ท่าเรือเมืองเจโนวา (874,000 คน) ท่าเรือเมืองบารี (525,000 คน) และท่าเรือเมืองพาแลโม่ (519,000 คน) ตามลำดับ

โดยเส้นทางการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญที่ออกเดินทางจากอิตาลีนั้นแบ่งออกเป็น 4 เส้นทางหลักๆ ดังนี้

เส้นทางเมดิเตอร์เรเนียน มีบริการเดินทางระหว่าง 3-12 วัน โดยแวะพักจุดสำคัญๆ แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางของแต่ละบริษัท เช่น เส้นทางการท่องเที่ยว 8 วันจากบริษัท MSC crociere เดินทางจาก Salerno-Lagoletta Tunisia-Ibiza- Palma- Marsiglia-Genova-Civitavecchia-Salarno เป็นต้น

เส้นทางอเดรียติก มีบริการเดินทางระหว่าง 8-9 วัน โดยแวะพักจุดสำคัญๆ แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางของแต่ละบริษัท เช่น เส้นทางการท่องเที่ยว 8 วันจากบริษัท Costa crociere เดินทางจาก BariKatakolon-Smirne-Istanbul-Dubrovnik-Venice-Bari เป็นต้น

เส้นทางยุโรปเหนือ มีบริการเดินทางระหว่าง 7-10 วัน โดยแวะพักจุดสำคัญๆ แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางของแต่ละบริษัท เช่น เส้นทางการท่องเที่ยว 10 วันจากบริษัท Costa Crociere เดินทางจาก Amsterdam - Cork - Vigo - Lisbon - Cadice - Barcellona - Savona เป็นต้น

เส้นทางทรานส์แอตแลนติก มีบริการเดินทางระหว่าง 15-20 วัน โดยแวะพักจุดสำคัญๆ แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางของแต่ละบริษัท เช่น เส้นทางการท่องเที่ยว 17 วันจากบริษัท Princess Cruises เดินทางจาก Venice-Dubrovnik-Corfu-La Valletta-La Goletta (Tunisia) - Gibilterra - Racife - Rio de Janeiro เป็นต้น

กิจกรรมที่ให้บริการระหว่างการเดินทาง

การให้บริการการท่องเที่ยวบนเรือสำราญในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีการแข่งขันที่สูงมาก โดยแต่ละบริษัทได้พัฒนาเรือของตน เปิดเส้นทางการเดินเรือใหม่ๆ และเสนอบริการที่ครอบคลุมและตอบสนองกับนักท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัย รวมทั้งจัดบริการพิเศษสำหรับแก่ผู้โดยสารที่มีความประสงค์ในการเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญๆ เช่นการจัดงานแต่งงาน การฮันนีมูน หรือการจัดงานวันเกิด เป็นต้น โดยสามารถแบ่งการบริการหลักๆ ที่มีบริการบนเรือครูสได้ดังนี้

บริการห้องพักโดยให้บริการห้องพักระบบเดียวกับโรงแรม และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น เช่น ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ โทรทัศน์ โทรศัพท์ มินิบาร์ เครื่องปรับอากาศ และสัญญาณอินเตอร์เน็ต ซึ่งแบ่งห้องพักออกเป็น 8 ประเภท ได้แก่

1 ห้องพักเดี่ยวด้านใน (ไม่สามารถมองเห็นทะเลได้) พื้นที่ขนาด 13 ตารางเมตร บริการเตียงคู่ที่สามารถปรับเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ได้ และไม่มีหน้าต่าง

2 ห้องพักเดี่ยวด้านนอก (สามารถมองเห็นทะเลได้) พื้นที่ขนาด 16 ตารางเมตร บริการเตียงคู่ที่สามารถปรับเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ได้ และมีหน้าต่างซึ่งสามารถมองเห็นวิวทะเลได้

3 ห้องพักเดี่ยวด้านนอกพร้อมระเบียง พื้นที่ขนาด 18-22 ตารางเมตร บริการเตียงคู่ที่สามารถปรับเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ได้ และมีระเบียงซึ่งสามารถออกไปรับลมทะเลได้

4 ห้องพักสำหรับครอบครัวพร้อมระเบียง พื้นที่ขนาด 27 ตารางเมตร บริการเตียงคู่ที่สามารถปรับเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ได้ ห้องรับแขก และมีระเบียงซึ่งสามารถออกไปรับลมทะเลได้

5 ห้องสวีท เดอลักษ์ พื้นที่ขนาด 31 ตารางเมตร บริการเตียงคู่ที่สามารถปรับเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ได้ ห้องรับแขก และมีระเบียงซึ่งสามารถออกไปรับลมทะเลได้

6 ห้องพักด้านใน สำหรับผู้พิการ พื้นที่ขนาด 20 ตารางเมตร บริการเตียงคู่ที่สามารถปรับเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ได้ โดยมีประตูกว้างขนาด 81.5 ซม. ประตูห้องน้ำกว้าง 85 ซม. พื้นที่ห้องน้ำขนาด 4 ตารางเมตร

7 ห้องพักด้านนอก สำหรับผู้พิการ (สามารถมองเห็นทะเลได้) พื้นที่ขนาด 17 ตารางเมตร บริการเตียงคู่ที่สามารถปรับเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ได้ โดยมีประตูกว้างขนาด 81.5 ซม. ประตูห้องน้ำกว้าง 85 ซม. พื้นที่ห้องน้ำขนาด 4 ตารางเมตร และมีหน้าต่างซึ่งสามารถมองเห็นวิวทะเลได้

8 ห้องพักด้านนอก สำหรับผู้พิการ พร้อมระเบียง พื้นที่ขนาด 33-40 ตารางเมตร บริการเตียงคู่ที่สามารถปรับเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ได้ โดยมีประตูกว้างขนาด 81.5 ซม. ประตูห้องน้ำกว้าง 85 ซม. พื้นที่ห้องน้ำขนาด 4 ตารางเมตร และมีระเบียงซึ่งสามารถออกไปรับลมทะเลได้

บริการร้านอาหาร/ภัตตาคาร/บุฟเฟต์ซึ่งจะให้บริการอาหารเช้า กลางวัน เย็น ตามเวลาท้องถิ่นที่เรือเดินทางไปถึง โดยจะมีการแจ้งล่วงหน้าในโปรแกรมประจำวัน ซึ่งนอกจากอาหารอิตาเลี่ยน หรืออาหารตะวันตกแล้ว ยังมีบริการอาหารตะวันออกด้วย เช่น อาหารจีน ญี่ปุ่น อินเดีย อินโดนีเซีย และไทย รวมทั้งอาหารประเภทฟิวชั่น หรือเมนูพิเศษ เช่น เมนูมังสวิรัติ ซึ่งจำเป็นต้องมีการแจ้งหรือจองล่วงหน้า และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มสำหรับบางรายการ

นอกจากร้านอาหาร/ภัตตาคาร บนเรือสำราญยังมีบริการบาร์ประเภทต่างๆ สำหรับบริการเครื่องดื่ม เช่น Coffee Bar, Cigar Bar, Jazza Bar รวมทั้งบาร์ที่มีคอนเซ็ปที่น่าสนใจต่างๆ เช่น Sport Bar, Vitamin Bar, Spa Bar เป็นต้น ซึ่งโดยทั่วไป จำเป็นต้องชำระเงินเพิ่มเมื่อประสงค์จะให้บริการ

สปา/ฟิตเนส ซึ่งมีอุปกรณ์กีฬามากมายให้บริการ เช่น โต๊ะปิงปอง คอร์ทเทนนิส สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส สนามวอลเล่บอล รวมทั้งคอร์สเต้นรำต่างๆ โยคะ Pilates นอกจากนี้ยังมีบริการเสริมความงาม และสปาให้บริการ (โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) เช่น การนวดแบบอินเดีย Shirodhara, Shirobhyanga การนวดแบบบาหลี อโรม่าเธอราพี การนวดแบบ 4 มือ Samsara การนวดน้ำมัน การนวดหน้า บริการร้านตัดผมชาย ร้านเสริมสวย ร้านทำเล็บ เป็นต้น โดยค่าบริการนั้นเริ่มต้นที่ 40 - 400 ยูโร

สนามเด็กเล่น สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กก็สามารถท่องเที่ยวบนเรือสำราญได้เช่นกัน โดยเรือจะมีพื้นที่สำหรับเด็กๆ ให้บริการ โดยรับเด็กตั้งแต่อายุ 3-17 ปี ซึ่งจะมีกิจกรรมต่างๆ สำหรับเด็ก เช่นเล่านิทาน การฉายภาพยนตร์การ์ตูน เกมส์ โดยมีตัวมาสคอตคอยดูแลเด็กๆ แต่จำเป็นต้องมีผู้ปกครองคอยอยู่ด้วยเสมอ

ร้านขายของ โดยปกติบนเรือสำราญนั้นจะมีร้านขายของคอยให้บริการนักท่องเที่ยว โดยอาจจะเป็นร้านขายของแบบ duty free หรือร้านขาย Accessories ทั่วๆไป รวมทั้งมีสินค้าของบริษัทเดินเรือนั้นๆ จำหน่ายเป็นของที่ระลึกด้วย สินค้าที่นำมาขาย เช่น แอลกอฮอลล์ เครื่องประดับ น้ำหอม นาฬิกา ของใช้ส่วนตัว เครื่องสำอาง กระเป๋า และเสื้อผ้า เป็นต้น

สถานบันเทิง ซึ่งไม่ต่างจากสถานบันเทิงบนบก เรือสำราญให้บริการทั้ง โรงหนัง โรงละคร คาสิโน ผับ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ คาราโอเกะ ลานโบว์ลิ่ง หรือแม้แต่กระทั้งสวนสนุกขนาดใหญ่แก่นักท่องเที่ยว ทุกเพศ ทุกวัย

นอกจากบริการหลักๆ ตามมาตรฐานที่บริษัทเดินเรือสำราญคัดสรรมาบริการนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีบริการพิเศษ สำหรับโอกาสพิเศษเพิ่มเติมอีก เช่น

บริการสำหรับโอกาสพิเศษ เช่น การจัดงานแต่งงาน การฮันนีมูน หรือการฉลองครบรอบแต่งงาน ซึ่งบริษัทจะเสนอเป็นแพ็คเก็จในการจัดงาน พร้อมบริการ Wedding planner การจัดงานเลี้ยง และการจดทะเบียนสมรสบนเรือ เป็นต้น

การจัดการประชุม หรือสัมมนาต่างๆ ซึ่งบริษัท จะเสนอบริการครบวงจร ทั้งการจัดเตรียมห้องประชุม ห้องสัมมนาขนาดใหญ่ การเตรียมการเปิดตัวสินค้า พร้อมอุปกรณ์การฉายพรีเซนท์เทชั่น รวมทั้งการจัดงานเลี้ยงฉลอง เป็นต้น

ตลาดการซื้อขาย/จ้างงานในธุรกิจการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ

ในปี 2009 มหาวิทยาลัย Ca'Foscari Venezia ณ เมืองเวนิส ได้ทำการวิจัยถึงระบบเศรษฐกิจที่เกิดจากการประกอบการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ โดยมีบริษัท MSC Crociere เป็นบริษัทตัวอย่างในงานวิจัย พบว่าในปีหนึ่งๆ จะมีเงินสะพัดจากการประกอบการเดินเรือเพื่อการท่องเที่ยวถึง 1,523 ล้านยูโร โดยในจำนวนนี้นับเป็นเงินที่หมุนเวียนจากการใช้จ่ายทางตรง และทางอ้อม โดยค่าใช้จ่ายทางตรงนั้นแบ่งออกเป็น ค่าใช้จ่ายจากการประกอบการเดินเรือจำนวนถึง 510 ล้านยูโร และค่าใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านท่าเรือต่างๆ จำนวนถึง 118 ล้านยูโร (จากจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 2.07 ล้านคนในปี 2009)

มีบริษัทที่จัดหาสินค้าเพื่อส่งให้บริษัท MSC Crociere มากถึง 1,700 บริษัท โดยแบ่งออกเป็นผู้จัดจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่ม 600 บริษัท และสินค้าประเภทอื่นๆ เช่น บริษัทซ่อมบำรุง ตกแต่งภายใน ช่างเทคนิคต่างๆ หรือบริษัทต่อเรือ จำนวนถึง 1,100 บริษัท

นอกจากนี้ยังมีการจ้างงาน (เฉพาะสาขาในอิตาลี) จำนวน 2,370 คน จาก 11,869 คนทั่วยุโรป คิดเป็นค่าใช้จ่าย 270 ล้านยูโรต่อปี

โอกาสของสินค้าไทย

ชาวอิตาเลียนมีวัฒนธรรมการพักผ่อนฤดูร้อนในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ซึ่งมีระยะเวลาตั้งแต่ 15-30 วัน ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ ชาวอิตาเลียนเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายการเดินทางท่องเที่ยวจากเดิมที่นิยมท่องเที่ยวในต่างประเทศ เช่น ทวีปอเมริกา หรือเอเชีย หันมานิยมการท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า แต่อย่างไรก็ตาม สถานที่ท่องเที่ยวมักจะแออัดไปด้วยนักท่องเที่ยวตลอดทั้งเดือน ชาวอิตาเลียนส่วนหนึ่งจึงหันมาให้ความสนใจในการเดินทางท่องเที่ยวด้วยเรือ ซึ่งเหมาจ่ายค่าเดินทางเป็นแพ็คเก็จ มีจำนวนนักท่องเที่ยวจำกัดต่อการเดินทางแต่ละเที่ยว มีเวลาในการท่องเที่ยวที่แน่นอน มีบริการที่ครบวงจร รวมทั้งสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการคมนาคมที่ไม่ต้องขับรถ พร้อมยังสามารถล่องไปเที่ยวชมในประเทศใกล้เคียงต่างๆ ได้อีกด้วย การท่องเที่ยวโดยเรือสำราญจึงกลายเป็นความนิยมที่นักท่องเที่ยวชาวอิตาเลียนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาวโสดและพร้อมที่จะทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ตลอดเวลา หรือแม้กระทั่งครอบครัว ที่สามารถใช้เวลาอยู่ด้วยกัน และมีกิจกรรมที่คนแต่ละวัยสนใจคอยบริการตลอด 24 ชั่วโมง

การท่องเที่ยวโดยเรือสำราญจึงเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับการส่งออกสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าที่ไทยส่งออกมายังประเทศอิตาลีเป็นอันดับต้นๆ เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศ ปลาหมึกสดแช่งแข็ง เครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์ตกแต่งภายใน อุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร เครื่องใช้ในห้องน้ำ รวมทั้งการบริการ เช่นการนวดไทย หรือสปาไทย ซึ่งชาวอิตาลีให้ความสนใจ และรู้จักอย่างกว้างขวาง แต่ยังไม่มีบริการนวดไทยให้บริการบนเรือ มีแต่เฉพาะนวดแบบอินเดีย และอินโดนีเซีย รวมทั้งการเปิดร้านอาหารไทยบนเรือสำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยเรือครูสกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และมีการสั่งต่อเรือเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังมีการเปิดเส้นทางการเดินเรือใหม่ๆ และแพ็คเก็จการท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นทุกๆ ปี

สถิติสินค้าที่ไทยส่งออกมายังอิตาลี 10 อันดับแรก เรียงลำดับตามสินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออกเพื่อบริการในบริษัทเดินเรือ

ช่องทางการเข้าถึงธุรกิจการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ

การส่งออกสินค้าไทยเพื่อจัดจำหน่ายแก่บริษัทท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ สามารถทำได้ทั้งทางตรง และทางอ้อม โดยทางตรงนั้นสามารถจำหน่ายสินค้ากับบริษัทเดินเรือโดยตรงเพื่อจัดจำหน่ายบนเรือ หรือแปรรูปบนเรือ เช่นอาหาร เครื่องดื่ม หรือจัดจำหน่ายทางอ้อม โดยการส่งออกสินค้าแก่ผู้รับเหมาที่เป็นผู้จัดจำหน่ายให้แก่บริษัทท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ เช่นสินค้าเครื่องตกแต่งภายใน บริษัทซ่อมบำรุง เป็นต้น

การจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อบริการบนเรือสำราญโดยตรง มีขั้นตอนดังนี้ สำหรับเส้นทางเมดิเตอร์เรเนี่ยน 1.สำนักงานสินค้าคงคลังประจำเรือสำราญแต่ละลำจะทำการตรวจเช็คสินค้าที่จำเป็นต่อการเดินเรือในแต่ละครั้งและแจ้งไปยังสำนักงานจัดซื้อของบริษัท 2.สำนักงานจัดซื้อจะทำการเลือกซัพพลายเออร์ และทำการจัดซื้อ 3.สินค้าที่จัดซื้อมาแล้ว จะถูกนำส่งมายังเรือสำราญด้วยรถบรรทุก และรถบรรทุกสินค้าจะเดินทางไปพร้อมกับเรือ และจำเป็นต้องมีเอกสารการสั่งซื้อ และจัดส่ง เพื่อการตรวจเช็คจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร 4.เมื่อสินค้าจัดส่งเรียบร้อยแล้ว สำนักงานสินค้าคงคลังประจำเรือจะทำการตรวจสอบสินค้าอีกครั้ง และแจ้งไปยังสำนักงานจัดซื้อหากยังมีสินค้าขาดเหลืออื่นๆ อีก เส้นทางอื่นๆ นอกเหนือจากเมดิเตอร์เรเนี่ยนนั้น มีขั้นตอนคล้ายๆ กันแต่ไม่จำเป็นต้องขับรถบรรทุกขึ้นเรือเพื่อเดินทางไปพร้อมกับเรือ แต่จะจัดสินค้าเก็บลงคอนเทนเนอร์โดยแยกประเภท และลักษณะของสินค้านั้นๆ

โดยผู้ประกอบการไทยที่สนใจตลาดการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญในประเทศอิตาลี สามารถเข้าชมข้อมูลของบริษัท Costa Crociere ได้ที่ www.costacrociere.it และบริษัท MSC Crociere ได้ที่ www.msccruises.com ทั้งนี้สามารถติดต่อประสานการส่งเสริมการค้าได้ผ่านทางกรมส่งเสริมการส่งออก หรือผ่านสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลานได้โดยตรง

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ