นายศิวะลักษณ์ นาคาบดี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจดดาห์ เปิดเผยถึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศซาอุดีอาระเบีย ในปี พ.ศ. 2554 ว่ามีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (Real GDP) ถึงร้อยละ 6.90 การเติบโตในปีนี้ เป็นผลจากการการที่ซาอุฯ ผลิตน้ำมันส่งออกเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยการผลิตที่ลดลงจากปัญหาภายในประเทศลิเบีย รวมถึงการที่ซาอุฯ ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และดำเนินโครงการพัฒนาประเทศ หลายโครงการ ตัวเลขจากรายงานเศรษฐกิจของ SAMBA Financial Group ระบุว่าในปี พ.ศ. 2554 ซาอุฯ มี GDP (Nominal) 570.80 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้เฉลี่ยต่อหัว (Per capita GDP) 20,000 เหรียญสหรัฐฯ/คน/ปี และมีอัตราเงินเฟ้อร้อยละ 5.1
สำหรับปี พ.ศ. 2555 SAMBA คาดการณ์ว่าซาอุฯ จะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 3.80 ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยบวก คือ ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่คาดว่าจะยังคงตัวอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม ซาอุฯ ยังเผชิญกับปัจจัยลบ จากปริมาณการผลิตน้ำมันที่ลดลง เพราะไม่จำเป็นที่จะต้องผลิตชดเชยให้กับลิเบีย โครงการ/แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของซาอุฯ ที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า รวมทั้งพบกับปัญหาทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป
การส่งออกของไทยไปซาอุดีอาระเบีย ในปี 2555 นายศิวะลักษณ์ นาคาบดี ให้ความเห็นว่า การส่งออกของไทยยังน่าที่จะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2554 เนื่องจากเศรษฐกิจของซาอุฯ ที่ยังขยายตัว โครงการต่างๆ ของซาอุฯ ยังต้องดำเนินการต่อไป ผู้บริโภคยังคงมีกำลังซื้อในระดับที่สูง อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2554 ถึงช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 การส่งออกของไทยไปซาอุฯ อาจไม่ดีนัก ซึ่งเป็นผลจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในไทย และกระทบถึง Supply chains ของสินค้าสำคัญที่ซาอุฯ นำเข้าจากไทย เช่น ยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน ตู้เย็น ตู้แช่ และชิ้นส่วน รวมทั้งสินค้าอาหาร/ข้าว
ในปี พ.ศ. 2553 ไทยและซาอุฯ มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 7,764 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ร้อยละ 2.06 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย) จำแนกเป็นการนำเข้า 5,646 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และส่งออก 2,118 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าที่ไทยนำเข้าเกินกว่าร้อยละ 80 ได้แก่ น้ำมันดิบ เคมีภัณฑ์ และน้ำมันสำเร็จรูป สินค้าที่ไทยส่งออกไปซาอุฯ มากที่สุด ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน (1,099 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เหล็กและผลิตภัณฑ์ (98 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ข้าว (93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน (88 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) และ ตู้เย็น/ตู้แช่และชิ้นส่วน (68 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
ปี พ.ศ. 2554 (มค.-พย.) ไทยและซาอุฯ มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 8,777 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ร้อยละ 2.08 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย) แยกเป็นการนำเข้า 6,704 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และส่งออก 2,073 ล้านเหรียญสหรัฐฯ การส่งออกขยายตัวร้อยละ 5.76 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สินค้าที่ซาอุฯ นำเข้าจากไทยมากที่สุด 5 อันดับแรกในปี พ.ศ. 2554 (มค.-พย.) ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ยาง และตู้เย็น/ตู้แช่ และชิ้นส่วน ตามลำดับ
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจดดาห์
ที่มา: http://www.depthai.go.th