ประเทศไฮติ ตั้งอยู่ด้านฝั่งตะวันตกของเกาะ Hispaniola หรือ La Isla Espa-ola ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของหมู่เกาะแคริเบียน ใช้พื้นที่บนเกาะร่วมกับประเทศสาธารณรัฐโดมินิกัน โดยไฮติมีพื้นที่ประเทศประมาณ 28,000 ตารางกิโลเมตร (ประมาณขนาดของประเทศอิสราเอล) ประชากรประมาณ 10 ล้านคน และเมืองหลวง คือกรุงพอร์ตออพรีซ Port Au Prince ประเทศไฮติถือเป็นประเทศที่ยากจน มีปัญหาด้านการเมืองและประสบปัญหาภัยธรรมชาติเป็นประจำ โดยเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2543 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่สุดในรอบ 200 ปีของประเทศ มีความรุนแรงเท่ากับ 7 ริคเตอร์ ที่มีจุดศูนย์กลางที่กรุง Port Au Prince เมืองหลวงของประเทศไฮติ ได้ทำลายสถานที่ทำการต่างๆ สำคัญของประเทศ รวมถึงทำเนียบรัฐบาล ธุรกิจและบ้านเรือนเป็นจำนวนมาก
มูลค่าความเสียหายจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ถูกประเมินไว้ประมาณ 8-14 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และรัฐบาลของไฮติได้แจ้งจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 316,000 ราย มีผู้สูญเสียบ้านเรือนอีกประมาณ 634,000 ราย จึงต้องขอรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศเพื่อการบูรณะโครงสร้างที่สูญเสียไป
ผลผลิตมวลรวมเศรษฐกิจของประเทศไฮติในปี 2553 ได้ลดลงจาก 12 พันล้านเหรียญฯ เป็น 11 พันล้านเหรียญฯ หรือลดลงร้อยละ 8 รายได้ต่อหัวเฉลี่ยประมาณ 1,200 เหรียญฯ ประมาณครึ่งหนึ่งของประชากรชาวไฮติจัดอยู่ในระดับความยากจนสุดขีด รายได้เฉลี่ยน้อยกว่า 2 เหรียญต่อคนต่อวัน ร้อยละ 60 ของประชากรทำงานในภาคเกษตรกรรมขั้นพื้นฐาน และไม่มีอุตสาหกรรมหลักที่สำคัญ มีการคาดคะเนว่าแผ่นดินไหวปี 2553 ได้ทำลายล้างธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง และย่อมที่เป็นหัวใจของเศรษฐกิจไฮติ ร้อยละ 99 ของธุรกิจเหล่านี้ได้ประสบสภาวะล้มละลาย การจ้างงานในกลุ่มธุรกิจดังกล่าวได้ลดลงจาก 150,000 เหลือเพียง 10,000 คน ผู้ตกงานเหล่านี้ได้หันไททำการหาบแร่ขายสินค้าบริโภคราคาถูกที่สั่งนำเข้าจากจีนเป็นจำนวนมาก
รัฐบาลของไฮติได้รณรงค์และการเชิญชวนให้มีการลงทุนจากต่างประเทศ โดยต้องการส่งเสริมการลงทุนในการผลิตเนื้อไก่ การทำประมงและการเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งโดยทั่วไปมีปัญหาการขาดเทคโนโลยี และความสามารถดั้งเดิมในการผลิตของอุตสาหกรรมดังกล่าว รวมทั้งปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการแสวงหาที่ดินเพื่อการลงทุน เนื่องจากไฮติไม่มีระบบการจดทะเบียนสิทธิ์การถือครองที่ดินอย่างถูกต้องหรือเป็นทางการ ผู้ลงทุนจึงต้องเริ่มจากศูนย์ แต่จะได้การสนับสนุนจากรัฐบาลของไฮติอย่างเต็มที่
ในด้านการประมงและการเลี้ยงสัตว์น้ำนั้น ไฮติไม่มีเรือประมงน้ำลึก แต่มีการทำประมงตามชายฝั่งทะเล และมีความได้เปรียบเนื่องจากมีกุ้งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ประเทศไต้หวันได้เข้ามาลงทุนในการเลี้ยงกุ้งมานาน และประสบความสำเร็จมากโดยเพิ่มผลผลิตได้ถึงเจ็ดเท่าในหนึ่งปี และสามารถทำการเก็บเกี่ยวได้สองฤดูกาล เป็นที่น่าสังเกตว่า นักธุรกิจไต้หวันมีส่วนสำคัญในภาคธุรกิจของไฮติ นักธุรกิจสำคัญคนหนึ่ง นาย Bernard Chauvet มีความประสงค์พัฒนาการประมงในไฮติ และมีความต้องการนำเข้าอุปกรณ์การตกปลาต่างๆ เช่น เบ็ด เส้นเอ็นและตะข่ายตกปลา รวมทั้งเครื่องเดินเรืองหางยาวกำลัง 15 แรงม้า ซึ่งเป็นที่นิยมใช้ เนื่องจากไฮติไม่มีกองกำลังดูแลชายฝั่ง (coastguard) โอกาสการประมงน้ำลึกจึงมี เช่นสัตว์น้ำประเภทปลิงทะเล แมงกระพรุน และปลา pengasus เป็นต้น
นอกจากนี้แล้ว ที่ปรึกษาพิเศษของประธานาธิบดีไฮติ คือนาย Clark Chevalier ได้แจ้งความประสงค์ขอความช่วยเหลือจากประเทศไทยในด้านการลงทุน และการถ่ายทอดความรู้เกี่ยว สำหรับภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งความร่วมมือด้านการเพาะปลูกและถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิตข้าว ทั้งนี้ ผู้บริโภคชาวไฮติมีความคุ้นเคยกับข้าวหอมมะลิไทยอยู่แล้ว เพราะเป็นข้าวที่นิยมใช้ในร้านอาหารต่างๆ ที่นำเข้าจากสหรัฐฯ แต่มักจะมีปประสบปัญหาในเรื่องการหาผู้จัดจำหน่ายสินค้าได้อย่างสม่ำเสมอ
ประเทศไฮติมีสินค้าส่งออกที่สำคัญ คือ เหล้ารัม มะม่วง เบียร์ กล้วย กาแฟ ถั่ว วนิลลา สัม และโคโค้ แต่ไม่ได้มีการส่งออกในปริมาณมากนัก ในปีทีผ่านมา ได้มีการส่งออกเศษเหล็กไปยังเกาหลีใต้
ธุรกิจที่มีโอกาสอีกประเภทหนึ่ง คือ การขายสินค้าเพื่อการก่อสร้าง ซึ่งมีบริษัท EKO Depot เป็นผู้จัดจำหน่ายสำคัญ โดยจัดจำหน่ายในรูปแบบของห้าง Home Depot และนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ยุโรป และจีนเป็นหลัก โดยนำเข้าผ่านโปรเกอร์ที่เมืองไมอามี่ ในสหรัฐฯ ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณการสั่งซื้อไม่มากพอ บริษัท EKO Depot จึงมีความสนใจที่จะนำเข้าบันใดจากประเทศเม็กซิโก สินค้าที่ขายดีได้แก่ ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า ระบบการเดินไฟ ผลิตภัณฑ์ห้องน้ำและการเดินท่อน้ำ กลยุทธ์ที่บริษัทฯ ใช้เพื่อเฉลี่ยการทำผลกำไรชดเชยจากปริมาณการสั่งซื้อต่ำ คือการสั่งชิ้นส่วนหรือสินค้าเล็กๆ เป็นจำนวนมาก แต่ได้กล่าวว่าการหาบแร่ขายของถูกที่นำเข้าจากจีน ได้ทำให้ยอดขายของบริษัทฯ ลดลงไปเล็กน้อย
การบูรณะโครงสร้างต่างๆ ในประเทศไฮติ ได้เปิดโอกาสให้ธุรกิจที่มีความสามารถในการก่อสร้างโครงสร้างใหม่ๆ โดยเริ่มพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งแต่เดิมได้ทรุดโทรมลงไปเพราะการทำลายป่าเนื่องจากมีการตัดไม้ทำฟืนค่อนข้างมาก และการทำเฟอร์นิเจอร์ประดิษฐ์ ประกอบกับสภาพสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศไฮติประสบปัญหาภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างสาธารณรัฐโดมินิกัน
สถานเอกอัครราชทูตของเม็กซิโกในประเทศไฮติ มีบทบาทสำคัญในการความร่วมมือด้านการก่อสร้างใหม่ๆ ได้แก่ในการก่อสร้างคลินิกโรงพยาบาล โรงเรียน และสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า โดยการใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างแบบใหม่จากบริษัท GMI จากรัฐเคเร็ทตาโร่ ซึ่งใช้วัสดุจากพลาสติก PET เป็นวัสดุสำคัญในการสร้างโครงสร้าง ที่จะมีความสามารถต้านทานแผ่นดินไหวและไฟไหม้ได้ดี ทั้งนี้ ห้างสรรพสินค้า Walmart ในประเทศเม็กซิโกซึ่งใช้วัสดุและเทคโนโลยีในการก่อสร้างของบริษัท GMI สำหรับการสร้างร้านค้าทั้งหมดในเครือข่ายของ Walmart ในเม็กซิโก
ระบบโทรคมนาคมในประเทศไฮติ เป็นอีกโครงสร้างหนึ่งที่ยังไม่มีการพัฒนา กรุง Port Au Prince ยังขาดถนนไฮเวย์สายหลัก มีแต่ถนนประเภทสองช่องทางเดินรถ ทำให้รถที่นิยมใช้เป็นประเภทรถบรรทุก และรถกระปะปิคอัพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถมือสองที่นำเข้าจากต่างประเทศ ประมาณร้อยละ 85 จะนำเข้าจากญี่ปุ่น รถที่นิยม ได้แก่ รถยี่ห้อ KIA, Mitusbishi และ Izuzu แต่ก็จะเห็นรถ Ford และ VW บ้าง ส่วนชิ้นส่วนประกอบจะนิยมนำเข้าจากประเทศจีนเป็นหลัก
ระบบโลจิสติกส์เป็นประเด็นปัญหาที่ท้าทายธุรกิจทุกประเภทที่ต้องการทำธุรกิจในประเทศไอติ แต่ผู้นำเข้าของไฮติไม่ละเว้นที่จะแสวงหาสินค้าและช่องทางใหม่ๆ ประเทศไฮติยังมีโอกาสอีกมากมาย โดยเฉพาะสำหรับด้านอาหาร ผู้นำเข้าอาหารที่สำคัญรายหนึ่ง นาย David Coles ได้กล่าวว่า บริษัทของตนสั่งนำเข้าเนื้อไก่จากบราซิลและสหรัฐฯ เป็นจำนวน 20-40 คอนเทนเนอร์ต่อเดือน ปลาซาร์ดินอีก 5 ถึง 10 คอนเทนเนอร์ต่อเดือน และมีความสนใจที่จะนำเข้าทูน่าและซาร์ดินกระป๋องจากไทย อีกทั้งได้ให้ข้อสังเกตว่า ถึงแม้ว่าชาวไฮติจะมีรายได้ต่ำ แต่จะเลือกซื้อสินค้าอาหารมีการเลือกใช้สินค้าที่มีคุณภาพ
ประเทศไฮติมีร้านอาหารไทยชื่อว่าร้าน Look Nuns เป็นร้านไทยแห่งเดียวในประเทศไฮติ ตั้งอยู่เลขที่ 35 ถนน Rue Villate ในกรุง Port Au Prince และมีการให้บริการนวดไทยแผนโบราณอีกด้วย
1. EKO DEPOT
Ms. Valerie Simeon
Tel. (509) 2250-5613, 2250-5614, 2816-1457
Fax: (509) 2250-5615
E mail: vsimeon@ekodepot.com
2. QUISA Quality Industries S.A. (เป็นบริษัทประมง)
Mr. Bernard Chauvet
Mobile: (509) 3702-2424
E mail: chauvet.bernard@gmail.com
3. Coles Distribution (เป็นผู้นำเข้าอาหาร)
Mr. David Coles
Tel. (509)3701-5252, 3999-1804
E mail: dcoles@coisahaiti.com
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก
ที่มา: http://www.depthai.go.th