จากนโยบายแผนฯ ดังกล่าว คาดการณ์ว่าภายในปี 2558 มณฑลเสฉวนจะมียอดมูลค่าการนำเข้าส่งออกสูงถึง 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวขึ้นมากกว่าปี 2553 หนึ่งเท่าตัวขึ้นไป มูลค่าการลงทุนจากมณฑลอื่นๆทั่วจีนที่เข้ามาลงทุนในเสฉวน จะเติบโตมากกว่า 20% โดยยอดสะสมภายใน 5 ปี จะมากกว่า 3 ล้านล้านหยวน การลงทุนจากต่างชาติโดยเฉลี่ยจะเติบโตขึ้นมากกว่า ร้อยละ 20 ต่อปี มูลค่าการลงทุน 5 ปี จะมากกกว่า 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัทต่างชาติที่มีชื่อเสียง 500 อันดับแรก จะเข้ามาลงทุนในมณฑลเสฉวนมากกว่า 200 แห่งขึ้นไป...
ปัจจุบัน รัฐบาลมณฑลเสฉวน ได้ประกาศ โดยมีแผนการว่า ช่วงเวลาแห่งความพากเพียรในระยะเวลา 5 ปีนี้ รัฐบาลจะนำพาให้มณฑลเสฉวนเป็นศูนย์กลางทางการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญ ตลอดจนเป็นศูนย์กลางการบริการด้านการเงินระดับนานาชาติ เป็นศูนย์กลางการบริการด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ เป็นศูนย์กลางด้านการจัดนิทรรศการนานาชาติ และจะผลักดันให้เสฉวนเป็นพื้นที่แห่งการดึงดูดให้ต่างชาติเลือกเข้ามาลงทุนในเสฉวนเป็นพื้นที่แห่งแรก
ด้านศักยภาพการค้า (สินค้า) แปรรูป ภายในแผนฯ มีกำหนดสร้างให้เมืองเอกอย่างนครเฉิงตู เมือง เต๋อหยาง และเมืองจิ่นหยาง เป็นเขตศูนย์รวมแห่งอุตสาหกรรม IT อุตสาหกรรม Equipment ที่สำคัญ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า และศูนย์รวมธุรกิจชั้นนำด้านการค้า (สินค้า) แปรรูป ตลอดจนผลักดันให้เป็นศูนย์ R&D และเป็นเขตพื้นที่นำร่องด้านการสาธิตธุรกิจสินค้าแปรรูปในเขตภาคตะวันตกของจีนอีกด้วย
ภายในแผนฯ ยังสนับสนุนให้มีการตั้งInternational Technology Transfer Center และสนับสนุนให้บรรษัทข้ามชาติจัดตั้งสำนักงานใหญ่ ศูนย์ R&D ศูนย์จัดซื้อสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า ศูนย์การทางการเงิน และศูนย์บริการ Outsource ในมณฑลเสฉวนแห่งนี้ด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลฯ ยังผลักดันให้เขตเศรษฐกิจในนครเฉิงตูแสดงถึงความมีศักยภาพ โดยการใช้ประโยชน์จากการลงทุนของต่างชาติ และเร่งขยายการจัดงานนิทรรศการนานาชาติ เพื่อสร้างให้เขตตะวันตกของจีนเปรียบเสมือนเป็นเวที และหน้าต่างที่สำคัญในการติดต่อทางการค้าระหว่างประเทศ (เมื่อไม่นานมานี้ นครเฉิงตู เพิ่งจะได้รับรางวัลชนะเลิศประจำปี 2554 เกี่ยวกับ "เมืองแห่งความเป็นเลิศด้านการจัดงานนิทรรศการแห่งประเทศจีน" "เมืองแห่งความเป็นเลิศด้านการจัดการประชุมระดับประเทศ" และ "10 เมืองแห่งความเป็นเลิศด้านศูนย์นิทรรศการระดับชาติ")
ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ มีแผนฯ ว่า จะเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้าระหว่างอินเดีย และประเทศทางเขตเอเชียใต้ให้มากขึ้น โดยเฉพาะเน้นสร้างความร่วมมือเกี่ยวกับอุตสาหกรรม Equipment ที่สำคัญ อุตสาหกรรมซอฟแวร์ และการบริการ Outsource นอกจากนี้ยังเร่งสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ ระหว่าง อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซีย ประเทศในแถบยุโรป เอเชียใต้ และเอเชียตะวันตก ตลอดจนเร่งผลักดัน และส่งเสริมความร่วมมือต้านการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจ Pan-Asia เพื่อพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียต่อไป
ในช่วงแผนดังกล่าวฯ รัฐบาลมณฑลเสฉวน ยังระบุไว้ว่า ด้านอัตราการเติบโตเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเสฉวน จะอยู่ที่ร้อยละ 12 ต่อปี (ทั้งนี้ ช่วงแผนฯ ฉบับที่ 10 (ปี 2544 - 2548) GDP อยู่ที่ร้อยละ 11.2 และช่วงแผนฯ ฉบับที่ 11 (ปี 2549 - 2553) GDP อยู่ที่ร้อยละ 13.7 เฉพาะในปี 2553 GDP เติบโตเฉลี่ยที่ประมาณร้อยละ 15)
คาดการณ์ว่า สิ้นปี 2558 มณฑลเสฉวนจะมีมูลค่า GDP รวมกว่า 3 ล้านล้านหยวน GDP เฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 35,000 หยวน จะผลักดันให้เสฉวนเข้าสู่สังคมชนชั้นกลาง โดยวางแผนให้รายได้ต่อหัวมีอัตราเติบโตเฉลี่ยที่ร้อยละ 12 ต่อปี ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการเติบโตของ GDP
นอกจากนี้ รัฐบาลเสฉวน ยังจะให้ความสำคัญกับธุรกิจบริการมากขึ้น โดยวางแผนเพิ่มสัดส่วนในภาคธุรกิจบริการจากปี 2553 ที่ร้อยละ 34.7 เป็นร้อยละ 39 ในปี 2558 (โครงสร้างสัดส่วนของภาคเกษตรกรรม: ภาคอุตสาหกรรม: ภาคบริการ คือ 10.2: 50.8: 39)
นอกเหนือจากนโยบายแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ตลอดจน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่12 ที่กล่าวมาข้างต้นแล้วนั้น ล่าสุด รัฐบาลเสฉวนยังได้ประกาศ "แผนยกระดับอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์พืชสมัยใหม่แห่งมณฑลเสฉวน ช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 2554-2563" ขึ้นอย่างเป็นทางการ เพื่อพัฒนาศักยภาพของตลาด และเพื่อผลักดันให้เกิดการร่วมกลุ่มของผู้ประกอบการธุรกิจเมล็ดพันธุ์พืช ตลอดจนเพื่อนสร้างจุดเริ่มต้นในการยกระดับภาคอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์พืชของมณฑลให้ก้าวสู่ความทันสมัยอย่างเป็นรูปธรรม โดยรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า เมื่อสิ้นสุดปี 2563 ปริมาณการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชของมณฑลเสฉวนจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ซึ่งมีมูลค่ารวมแล้ว มากกว่า 10,000 ล้านหยวน
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ผลักดันให้มีการสร้างศูนย์เพาะเมล็ดพันธุ์ประจำมณฑล และสร้างตลาดเมล็ดพันธุ์พืชเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ที่มา: เว็บไซต์ (www.chengdu.gov.cn) วันที่ 12 ธันวาคม 2554
เว็บไซต์ (www.thaibizchina.com) วันที่ 12, 23 ธันวาคม 2554
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
ที่มา: http://www.depthai.go.th