วิกฤติหนี้สาธารณะในยุโรปยังคงเป็นปัญหาที่ยังไม่สามารถแก้ไขให้คลี่คลายลุล่วงไปได้ด้วยดี ถึงแม้ว่าจะได้มีการตกลงกันให้เพิ่มเงินกองทุนฯ เป็นวงเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 7 แสนล้านยูโรแล้วก็ตาม ก็ยังคงไม่เป็นที่มั่นใจว่าจะเพียงพอกับการที่อิตาลีอาจจะต้องขอกู้ยืมในช่วงต้นปีหน้านี้ เนื่องจากมีภาระต้องซื้อคืนพันธบัตรเป็นมูลค่าสูงมาก นอกจากนี้สถานการณ์ในกรีซยังคงวุ่นวาย มีการเดินขบวนประท้วงกันอยู่เนืองๆ ในส่วนของเยอรมนีถึงแม้ว่าจะมีส่วนต้องแบกรับวงเงินประกันมากก็ตาม (ประมาณร้อยละ 23 ของวงเงินทั้งสิ้น) แต่ผู้บริโภคเยอรมนีกลับไม่หวั่นวิตกมากนักและประกอบกับเป็นช่วงเทศกาลคริสต์มาสจึงทำให้ยังมีการจับจ่ายซื้อสินค้ากันอยู่ โดยได้มีการประมาณการณ์ว่า ยอดขายปลีกสินค้าในช่วงเทศกาลปลายปี 2554 นี้ จะมีมูลค่าลดลงน้อยกว่าปีก่อนหน้านี้เล็กน้อย อย่างไรก็ตามในช่วง 9 เดือนแรกปี 2554 นี้ยอดขายเครื่องประดับในเยอรมนียังคงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 293 ล้านยูโรหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.1 ในจำนวนนี้เป็นการจำหน่ายในประเทศ 155 ล้านยูโรหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 และจำหน่ายไปยังต่างประเทศมูลค่า 137 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 47.0
สินค้านำเข้าสำคัญๆ ของรายการนี้ยังคงเป็นวัตถุดิบ โลหะมีค่าต่างๆ ได้แก่ ทองคำ แพลทินัม อัญมณีมีค่าต่างๆ เพื่อนำไปผลิตเป็นเครื่องประดับต่อไป นอกจากนี้ยังคงมีการสะสมทองคำในรูปแบบเหรียญทองคำกันมากอยู่ ตามสถิติของ GTI ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2554 เยอรมนีนำเข้าสินค้ารายการนี้เป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 13,994 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.7 ที่สำคัญๆ ได้แก่ โลหะมีค่า เช่น แพลทินัม และทองคำ มีการนำเข้าเป็นมูลค่า 9,096 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 65 ของการนำเข้าสินค้ารายการนี้ มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.5 แหล่งนำเข้าที่สำคัญๆ ได้แก่ แอฟริกาใต้ สหรัฐ และเบลเยี่ยม มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 15, 10 และ 8 ตามลำดับ
ในช่วง 11 เดือนแรกปี 2554 (ม.ค.-พ.ย.) ไทยส่งออกสินค้ารายการนี้ไปเยอรมนีเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 267.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 7.7 ของการส่งออกสินค้าไทยไปเยอรมนีทั้งสิ้น มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นจากปีก่อนระยะเดียวกันร้อยละ 28.6 สินค้าส่งออกสำคัญของไทยจะเป็น เครื่องประดับแท้ทำด้วยเงินและทอง เป็นมูลค่า 186.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4 คิดเป็นส่วนแบ่งในตลาดเยอรมนีร้อยละ 16.0 แหล่งนำเข้าอื่นๆ ของเยอรมนี คือ เดนมาร์ค จีนและสวิตมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 18, 14 และ 11 ตามลำดับ เครื่องประดับอัญมณีเทียม ไทยส่งออกไปเยอรมนีเป็นมูลค่า 30.8 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าเพิ่มขึ้น 243.3 % คิดเป็นส่วนแบ่งในตลาดเยอรมนีร้อยละ 2.8 คู่แข่งสำคัญ ได้แก่ จีน ออสเตรีย และฮ่องกง มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 54, 18 และ 3 ตามลำดับ สำหรับ ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป ไทยส่งออกไปเยอรมนีมูลค่า 19.5 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 คิดเป็นส่วนแบ่งในตลาดเยอรมนีร้อยละ 0.4 แหล่งนำเข้าสำคัญของเยอรมนีจะเป็นสวิตมีส่วนแบ่งตลาดประมาณร้อยละ 59.9 ออสเตรีย 7.8 และแอฟริกาใต้ร้อยละ 5.4
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน
ที่มา: http://www.depthai.go.th