ค่าเช่าพื้นที่ย่านค้าปลีกของอินเดีย (บนถนนสายหลักและในศูนย์การค้า) มีราคาแพงที่สุดอยู่ในอันดับที่ 21 ของโลก จากการจัดอันดับของบริษัท Cushman & Wakerfield ประจำปี 2554 โดย Khan Market ในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศอินเดียมีอัตราค่าเช่าสูงที่สุดในประเทศอินเดีย จนทำให้อินเดียขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 21 ของโลก โดยย่าน Khan Market มีอัตราค่าเช่าพื้นที่ต่อตารางฟุตสูงถึง 322 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 14,400 รูปีต่อปี (อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐฯ = 44.72 รูปี) ส่วนอันดับ 1 ที่มีอัตราค่าเช่าพื้นที่แพงที่สุดในโลก คือ ย่าน Fifth Avenue ในมหานครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกาอัตราค่าเช่าพื้นที่ต่อตารางฟุตอยู่ที่ 2,250 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี อันดับ 2 คือ ย่าน Causeway Bay ของฮ่องกง อัตราค่าเช่าพื้นที่ต่อตารางฟุตอยู่ที่ 1,943 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี อันดับ 3 คือ ย่าน Ginza ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อัตราค่าเช่าพื้นที่ต่อตารางฟุตอยู่ที่ 1,044 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี อันดับ 4 คือ ย่าน Pitt Street Mall ในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย อัตราค่าเช่าพื้นที่ต่อตารางฟุตอยู่ที่ 995 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี และอันดับ 5 คือ ย่าน Champs Elysees ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อัตราค่าเช่าพื้นที่ต่อตารางฟุตอยู่ที่ 992 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี
ส่วนเมืองที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าเช่าพื้นที่สูงที่สุด คือ กรุงปักกิ่ง ในย่าน Wangfujing ซึ่งมีอัตราการเพิ่มของค่าเช่าพื้นที่สูงถึงร้อยละ 109.5 ของปีก่อนหน้า รองลงมาก็ยังเป็นกรุงปักกิ่งเช่นกัน แต่อยู่ในย่าน CBD ซึ่งมีอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าเช่าพื้นที่ร้อยละ 55.9 ส่วนในประเทศอินเดียเมืองที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าเช่าพื้นที่สูงที่สุด คือ กรุงนิวเดลี ในย่าน Greater Kailash I ซึ่งมีอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าเช่าพื้นที่ร้อยละ 22.2 และเมืองบังกาลอร์ ในย่าน 100 Ft. Road Indiranagar ซึ่งมีอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าเช่าพื้นที่ร้อยละ 21.6
สำหรับในประเทศอินเดียย่านค้าปลีกบนถนนสายหลักที่มีค่าเช่าพื้นที่แพงที่สุด คือ Khan Market ในกรุงนิวเดลี โดยอัตราค่าเช่าพื้นที่ต่อตารางฟุต ณ เดือน มิถุนายน 2554 อยู่ที่ 1,200 รูปีต่อเดือน หรือ 14,400 รูปีต่อปีเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 9.1 รองลงมา คือย่าน Linking Road ในแถบชานเมืองด้านตะวันตกของมุมไบในเขต Bandra ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของบรรดาดาราชื่อดังของ Bollywood อัตราค่าเช่าพื้นที่ต่อตารางฟุตอยู่ที่ 685 รูปีต่อเดือน ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าย่านค้าปลีกที่มีค่าเช่าพื้นที่แพงที่สุดของอินเดีย 5 อันดับแรก เป็นย่านที่อยู่ในกรุงนิวเดลีถึง 4 แห่ง และเป็นย่านที่อยู่ในเมืองมุมไบเพียง 1 แห่งเท่านั้น นอกจากนั้น ค่าเช่าพื้นที่ในย่าน Khan Market ในกรุงนิวเดลีซึ่งเป็นย่านที่แพงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของอินเดียยังมีอัตราค่าเช่าพื้นที่สูงกว่าย่านที่มีอัตราค่าเช่าพื้นที่แพงเป็นอันดับ 2 คือ ย่าน Linking Road ในเมืองมุมไบเกือบ 2 เท่า อย่างไรก็ตาม ย่านที่มีอัตราการเพิ่มของค่าเช่าพื้นที่อยู่ในระดับสูง คือ ย่าน Greater Kailash I ในกรุงนิวเดลีซึ่งมีอัตราการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 22.2 รองลงมา คือ ย่าน 100 Ft. Road Indiranagar ในเมืองบังกาลอร์มีอัตราการเพิ่มร้อยละ 21.6 ย่าน J.M. Road และย่าน M.G. Road ในเมืองปูเน่มีอัตราการเพิ่มร้อยละ 20.0 ย่าน Commercial Street ในเมืองบังกาลอร์มีอัตราการเพิ่มร้อยละ 18.5 และย่าน Jubilee Hills Road No. 36 ในเมืองไฮเดอราบัดมีอัตราการเพิ่มร้อยละ 16.7 ซึ่งอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าเช่าพื้นที่ย่านค้าปลีกในเมืองต่างๆแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเจริญเติบโตของธุรกิจค้าปลีกในเมืองนั้นๆ ซึ่งได้แก่ เมืองปูเน่ เมืองบังกาลอร์ และเมืองไฮเดอราบัด โดยเฉพาะในย่าน 100 Ft. Road Indiranagar ในเมืองบังกาลอร์ เป็นย่านที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ เพราะเมืองบังกาลอร์เป็นเมืองพัฒนาใหม่และย่านดังกล่าวมีอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าเช่าที่สูงที่สุดแห่ง หนี่งในทวีปเอเชียอีกด้วย
ในส่วนของค่าเช่าพื้นที่ย่านค้าปลีกในศูนย์การค้าของอินเดียที่มีอัตราค่าเช่าพื้นที่สูงที่สุดคือ ย่าน Elgin Road ในเมืองกอลกัตตา โดยอัตราค่าเช่าต่อตารางฟุต ณ เดือนมิถุนายน 2554 อยู่ที่ 533 รูปีต่อเดือน และเป็นย่านที่มีอัตราการเพิ่มของค่าเช่าพื้นที่สูงที่สุดอีกด้วย โดยมีอัตราการเพิ่มจากปีก่อนหน้าร้อยละ 18.4 รองลงมา คือ ย่าน Lower Parel ในเมืองมุมไบ มีอัตราค่าเช่าพื้นที่ต่อตารางฟุตอยู่ที่ 480 รูปีต่อเดือน แต่อัตราค่าเช่าพื้นที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากปีก่อนหน้า ถัดมาคือย่าน South Delhi มีอัตราค่าเช่าพื้นที่ต่อตารางฟุตอยู่ที่ 450 รูปีต่อเดือนและมีอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าเช่าพื้นที่จากปีก่อนหน้าร้อยละ 4.6
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่าเช่าพื้นที่สำหรับธุรกิจค้าปลีกของอินเดียเพิ่มสูงขึ้นจนติดอันดับโลก คือ การขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินเดียในช่วงก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นผลมาจากการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นและการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในเมืองใหญ่ทั่วประเทศอินเดีย นอกจากนั้น การขยายตัวของการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยที่เติบโตถึงร้อยละ 13 ต่อปีก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้อินเดียกลายเป็นตลาดสำหรับสินค้าฟุ่มเฟือยที่สินค้า Brand ชั้นนำของโลกต่างจับตามอง โดยคาดว่าในปี 2555 จะเป็นปีที่ธุรกิจค้าปลีกของอินเดียขยายตัวอย่างมาก
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ
ที่มา: http://www.depthai.go.th