รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะการค้า ภูมิภาคอาเซียน ประเทศสิงคโปร์ (1-30 ธันวาคม 2554)

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 24, 2012 09:53 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและภาวะการค้าระหว่างวันที่ 1-30 ธันวาคม 2554

1. การจ้างงานของสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 3 ปี 2554 มีจำนวนเพิ่มขึ้น จากรายงานของ Ministry of Manpower (MOM) เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 สถิติการจ้างงานมีอัตราเพิ่มขึ้น 32,000 อัตรา ทำให้อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 2 (ไตรมาสที่ 2 ปี 2554 ร้อยละ 2.1) ทั้งนี้ การจ้างงานเพิ่มขึ้นมากในภาคบริการ จำนวน 21,900 อัตรา สำหรับภาคอุตสาหกรรมการผลิตและภาคการก่อสร้าง เพิ่มขึ้น 3,500 และ 6,600 อัตรา ตามลำดับ อนึ่ง นักเศรษฐศาสตร์ คาดว่า เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวต่อไปอีก รวมถึงมีสัญญาณบ่งบอกการชะลอตัวของเศรษฐกิจในจีน ที่จะส่งผลกระทบต่อสิงคโปร์โดยตรงในด้านการท่องเที่ยว การค้าปลีกและการค้าส่ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างอัตรางาน

2. สิงคโปร์จัดตั้ง Floating Solar Project มูลค่า 11 ล้านเหรียญสิงคโปร์ นับเป็นการสร้าง ครั้งแรกในสิงคโปร์ที่เขต Western Tengeh Reservoir โครงการฯดังกล่าวนำร่องโดย Economic Development Board (EDB), National Environment Agency (NEA) และ National Water Agency (PUB) เพื่อใช้ทดแทนการสร้าง Solar Panels บนหลังคาอาคาร และจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2013 สามารถผลิตพลังไฟฟ้าได้เพียงพอสำหรับห้องชุด(4 ห้อง) จำนวน 450 ยูนิต ทั้งนี้ คาดว่า การปรับเปลี่ยนไปใช้พลัง Solar ภายในสิงคโปร์จะมีอนาคตที่สดใส เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยประสานร่วมมือกับบริษัทเอกชนที่สนใจสร้างระบบดังกล่าว ให้มีระบบ Floating Solar ทั่วเกาะสิงคโปร์ในอนาคต นอกจากนี้ EDB และ PUB ยังได้ประโยชน์ในด้านการศึกษาเพื่อลดการเติบโตของ Alga ใน reservoir อีกด้วย อนึ่ง สิงคโปร์จัด Solar Pioneer Awards เป็นประจำทุกปี และในปี 2011 เป็นการจัดครั้งที่ 3

3.การส่งออกสินค้าของสิงคโปร์ในเดือนพฤศจิกายน 2554 แบ่งออกเป็น

(1) การส่งออกสินค้าทั่วไปที่ผลิตในสิงคโปร์ (Non-Oil Domestic Exports : NODX) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้าอิเล็คทรอนิกส์ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 สินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้นคือ ICs (+ร้อยละ 5.6), Telecommunications Equipment (+ร้อยละ 42) และ Other Computer peripherals (+ร้อยละ 68) ส่วนสินค้าทั่วไปอื่นๆ(ยกเว้นอิเล็คทรอนิกส์) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 สินค้าที่

ส่งออกเพิ่มขึ้น คือ Pharmaceuticals (+ร้อยละ 22), Printed matter (+ร้อยละ 168) และ Pumps (+ร้อยละ 150) ประเทศคู่ค้าส่งออกสำคัญคือ ญี่ปุ่น (+ร้อยละ 18) ฮ่องกง (+ร้อยละ 11) และไต้หวัน (+ร้อยละ 15) ยกเว้นการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ไทย และ EU27 ลดลงร้อยละ 10.6, 13.6 และ 20.0 ตามลำดับ

(2) การส่งออกต่อสินค้าทั่วไป (Non-oil re-exports : NORX) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 โดย สินค้า non-electronic NORX เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 สินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้นคือ Copper, Aromatic Chemicals และ Electrical Circuit Apparatus สำหรับ Electronic NORX ขยายตัวลดลงร้อยละ 2.2 สินค้าที่ส่งออกลดลงคือ Diodes & Transistors, Parts of PCs, และ Consumer Electronics ประเทศคู่ค้าส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ อินโดนีเซีย

(+ร้อยละ 21) จีน (+ร้อยละ 18) และฮ่องกง (+ร้อยละ 12) ประเทศคู่ค้าส่งออกลดลง ได้แก่ สหรัฐฯ EU 27 ไทย และเกาหลีใต้

(3) การส่งออกน้ำมัน (Oil Domestic Exports) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 39 ประเทศคู่ค้าสำคัญส่งออกเพิ่มขึ้นได้แก่ มาเลเซีย (+ร้อยละ 87) จีน (+ร้อยละ 116) และอินโดนีเซีย (+ร้อยละ 58) สำหรับปริมาณการส่งออกน้ำมันที่ผลิตในประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0 ทั้งนี้ ประเทศคู่ค้าสำคัญที่สิงคโปร์ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ญี่ปุ่น (+ร้อยละ 18) ฮ่องกง (+ร้อยละ 11) ไต้หวัน (+ร้อยละ 15) มาเลเซีย (+ร้อยละ 8.0) อินโดนีเซีย (+ร้อยละ 0.9) และจีน (+ร้อยละ 0.3) ส่วนประเทศคูค้าที่สิงคโปร์ส่งออกลดลง ได้แก่ EU 27 (-ร้อยละ 20) สหรัฐฯ (-ร้อยละ 11) ไทย (-ร้อยละ 14) และเกาหลีใต้ (-ร้อยละ 2)

4. การค้าปลีกของสิงคโปร์ในเดือนตุลาคม 2554 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 เมื่อเทียบกับเดือนเดืยวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ หากไม่รวมการจำหน่ายยานยนต์ การค้าปลีกขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 8.6 โดยอัตราการขยายตัวของสินค้า/บริการ ดังนี้

(1)สินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ขยายตัวเพื่มขึ้นร้อยละ 5.2 แบ่งออกเป็น Food Outlet และ Eating Place ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.4 และ 5.9 ตามลำดับ ในขณะที่ Food Caterers และ Restaurant ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0 และ 2.6 ตามลำดับ

(2)สินค้าการสื่อสารโทรคมนาคมและคอมพิวเตอร์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.7

(3)สินค้าน้ำมันและนาฬิกาและอัญมณีขยายตัวเพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 18.0 และ 16.4 ตามลำดับ

(4)สินค้า/บริการอื่นๆ ได้แก่ Department Store, Medical Goods & Toiletries, Motor Vehicles, Recreational Goods, Wearing Apparel & Footwear, Furniture & Household Equipment, Provision & Sundry Shop and Supermarkets ขยายตัวเพิ่มขึ้นระหว่างร้อยละ 2.0-9.0

(5) อนึ่ง สินค้าที่มีการขยายตัวลดลง คือ Optical Goods & Books ลดลงร้อยละ 6.3

5. Port of Singapore ให้บริการเรือขนส่งถึง 2 ล้าน Gross Tons (GT) ในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2554 โดยเรือที่เทียบท่าและทำให้อัตราเพิ่มขึ้นถึง 2 ล้าน GT คือ เรือ MV APL Washington น้ำหนัก 75,582 GT นับเป็นครั้งแรกที่มีอัตราสูงมากและเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า การเติบโตดังกล่าว ช่วยส่งเสริมให้สิงคโปร์มีฐานะเป็นท่าเรือที่มีธุรกิจมากที่สุด โดยเรือทุกชนิดที่เข้าเทียบท่าระหว่างเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2554 รวมจำนวน 116,963 ลำ แบ่งออกเป็น Containers 17,682 ลำ, Freighters 4,223 ลำ, Coasters 3,587 ลำ, Bulk Carriers 11,987 ลำ, Tankers 20,367 ลำ, Passengers 370 ลำ, Regional Ferries 30,437 ลำ, Barges 9,707 ลำ และ Tugs 10,142 ลำ

6. การจัดตั้งศูนย์ความรู้ด้านการคมนาคมภูมิภาค (Regional Land Transport Knowledge Hub) ในสิงคโปร์ โดยความร่วมมือระหว่าง Singapore Land Transport Authority (LTA ภายใต้ Ministry of Transport) และ International Association of Public Transport (UITP ซึ่งเป็น Global Advocate of Public Transport) เพื่อการพัฒนาความรู้ด้านการคมนาคมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ภายใต้ชื่อ UITP Centre ณ LTA Academy ที่ถนน Hampshire มีจุดมุ่งหมายเป็นศูนย์ให้ความรู้และค้นคว้าวิจัยด้านการคมนาคมสาธารณะ พร้อมการจัดฝึกอบรม/แลก เปลี่ยนความรู้ และสนับสนุนผู้ปฏิบัติงานด้านการคมนาคมทางบกในภูมิภาคให้เป็นไปอย่างสะดวกและมีชีวิตชีวา ท่ามกลางการคมนาคมที่ท้าทายและจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น โดยดำเนินการผ่านการประชุม/สัมมนา การฝึกอบรม งานแสดงสินค้า เป็นต้น อนึ่ง สิงคโปร์แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาการคมนาคมสาธารณะด้วยการสร้างสรรอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ LTA Academy มีสถานที่เหมาะสมเพื่อการฝึกอบรม/ค้นคว้าและพัฒนาความรู้ด้านการคมนาคมโดย LTA มีเป้าหมายในการสร้างให้การคมนาคมสำหรับผู้เดินทาง

ทุกคนเป็นไปอย่างสะดวกไร้พรมแดน อีกทั้งให้สิงคโปร์เป็น one-stop shop สำหรับการคมนาคมสาธารณะของภูมิภาคทั้งนี้ LTA และ UITP กำหนดจัด LTA-UITP SITC (Singapore International Transport Congress) เป็นครั้งแรกในปี 2013 โดยจัดให้มีการบรรยายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้าน Urban Transport Planning, development operation and management

7.หน่วยงานสิงคโปร์ Monetary Authority of Singapore (MAS) สำรวจความคาดหวังการเติบโตภาคอุตสาหกรรมปี 2012 โดยทำการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ในสิงคโปร์ จำนวน 21 ราย ปรากฎผลดังนี้ (1) ในภาพรวม การเติบโตของทุกภาคอุตสาหกรรมในปี 2012 จะเป็นไปในระดับปานกลาง (2) กลุ่มที่จะชะลอตัวลง คือ การผลิต โรงแรมและภัตตาคาร และการบริการด้านการเงิน (3) กลุ่มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ การก่อสร้าง การค้าส่งและการค้าปลีก ทั้งนี้ บริษัทและสหพันธ์แรงงานได้มีนโยบายเตรียมพร้อมสำหรับตั้งรับเศรษฐกิจที่จะชะลอตัวลง ดังนี้ (1) ขอรับความช่วยเหลือการฝึกอบรมความชำนาญจาก Employment and Employability Institute และ Singapore Workforce Development Agency (2) วางแผนในการปลดพนักงานและปรับชั่วโมงการทำงานให้น้อยลง (3) งดการจ้างงานในกลุ่มที่ชะลอตัว (4) จ้างพนักงานเหมาบริการแทนการจ้างพนักงานประจำ

8. สิงคโปร์มุ่งลงทุนด้าน Research and Development (R&D) เพิ่มขึ้น โดยภาครัฐจะยกระดับจากร้อยละ 2.3 ให้เป็นร้อยละ 3.5 ของ GDP ภายในปี 2015 เพื่อทำให้ประเทศเท่าเทียมกับประเทศ research-intensive ทั้งนี้ ในปี 1991 การลงทุน R&D เป็นเงิน 760 ล้านเหรียญสิงคโปร์ และขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 6 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ ในปี 2009 สำหรับการสร้างอัตรางานซึ่งในปี 1990 มีเพียง 4,300 อัตรา ได้เพิ่มขึ้นเป็น 26,000 อัตราในปี 2009 ซึ่งภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญในการทำให้ R&D มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยที่ภาคเอกชนสามารถสร้างความร่วมมือกับโรงเรียนและสถาบันการค้นคว้าวิจัย เพื่อยกระดับความรู้ความชำนาญและเพิ่มผลประโยชน์ อนึ่ง R&D ช่วยให้สิงคโปร์ไม่ต้องจำกัดอยู่กับขนาดที่เล็กของประเทศและทำให้เกิด ความคิดสร้างสรร สร้างประสิทธิภาพ ส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน ดังนั้น ภาครัฐจึงส่งเสริมให้ลงทุนในด้าน R&D เพิ่มขึ้นและสร้างให้มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพื่อช่วยเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญเติบโตและต่อสู้กับสภาวะทั่วโลกที่แปรปรวน ทั้งนี้ จากการที่สิงคโปร์มุ่งมั่นด้าน R&D ทำให้กลุ่ม Biomedical

Sciences ของสิงคโปร์ในปัจจุบันเป็นเสมือนเสาหลักสำคัญเสาที่ 4 ของอุตสาหกรรมการผลิต เคียงข้างไปกับกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์และวิศวกรรม ทั้งนี้ ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนธุรกิจให้ลงทุนใน R&D เพิ่มขึ้นและพยายามหาวิถีทางสร้างสรรอย่างต่อเนื่องเพื่อลดความเสี่ยง โดยเฉพาะในภาวะที่เศรษฐกิจโลกไม่มั่นคง นอกจากนี้ R&D ยังสร้างโอกาสให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งจำนวนนักค้นคว้าวิจัย นักวิทยาศาสตร์และนักวิศวกรรมได้เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า จากจำนวน 4,300 อัตราในปี 1990 เป็นจำนวน 26,000 อัตราในปี 2009

          9. การค้าส่งภายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 18  ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2011 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากสถิติ Wholesale Trade Index ไตรมาสที่ 3 ปี 2011 จัดทำโดย Department of Statistics (DOS) แสดงการเติบโตของ Domestic Wholesale Trade ขยายตัวเพิ่มขึ้น ดังนี้ (1) น้ำมันและผลิตภัณฑ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.8  (2) การค้าส่งสินค้าทั่วไป เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 (3) การขนส่งทางเรือและ Bunkering เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.2          (4) อาหาร เครื่องดื่มและยาสูบ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3 (5) อุปกรณ์เพื่อการขนส่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 (6) เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8   ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มอื่นๆ ขยายตัวลดลงระหว่างร้อยละ 0.6-14.6   ในส่วนของ Foreign Wholesale Trade ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.8  โดยกลุ่มสินค้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่  (1) การค้าส่งสินค้าทั่วไป เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.3  (2) น้ำมันและผลิตภัณฑ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.9 (3) เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.4  สำหรับสินค้ากลุ่มอื่นๆ มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นระหว่างร้อยละ 4.3-17.0  ทั้งนี้ สินค้าอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ ขยายตัวลดลงร้อยละ 8.8

กิจกรรมที่ดำเนินการระหว่างวันที่ 1-30 ธันวาคม  2554

1. รายงานสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและภาวะการค้าของสิงคโปร์

2. รายงานข้อมูลอื่นๆ ได้แก่

  • การค้าปลีกของสิงคโปร์เดือนตุลาคม 2554
  • การจ้างงานของสิงคโปร์ไตรมาสที่ 3 ปี 2554
  • การส่งออกสินค้าของสิงคโปร์ในเดือนพฤศจิกายน 2554
  • สิงคโปร์จัดตั้ง Floating Solar Project

3. รายงานข้อมูลราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และราคาจำหน่ายปลีกสินค้าสำคัญในสิงคโปร์

4. ประสานการลงโฆษณางานฯ TAPA 2012 ทางสื่อสิ่งพิมพ์นิตยสาร Wheel Asia ในสิงคโปร์ ลงโฆษณาในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2555

5. ประสานการลงโฆษณางานฯ BIFF & BIL 2012 ทางสื่อสิ่งพิมพ์นิตยสาร Her World ในสิงคโปร์ ลงโฆษณาในเดือนมีนาคม 2555

6. ประสานขออนุมัติแขกพิเศษ และอนุมัติผู้อำนวยการฯ นำคณะนักธุรกิจสิงคโปร์เยือนงานฯ BKK Gems and Jewelry 2012 ระหว่างวันที่ 8-14 กุมภาพันธ์ 2555

7. ประสานจัดส่งใบสำคัญโครงการกิจกรรมการส่งเสริมการส่งออกและการให้บริการของกรมส่งเสริมการส่งออกผ่านสื่อโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อประชาสัมพัน์อื่นๆ ในสิงคโปร์

8. ประสานงานการจัดคณะผู้แทนการค้าสิงคโปร์ กลุ่มสินค้าของขวัญ ของชำร่วยและของตกแต่งบ้านเยือนประเทศไทย (เชียงใหม่) ระหว่างวันที่ 15-19 กุมภาพันธ์ 2555

9. ประสานเชิญชวนและจัดคณะผู้แทนการค้าสิงคโปร์เยือนงานแสดงสินค้าในประเทศไทย 3 งาน คือ

(1) Thailand Health & Beauty Show 2011 (25-29 January 2012)

(2) Bangkok Gems & Jewelry Fair 2012 (9-13 February 2012)

(3) Thailand International Furniture Fair 2012 (14-18 March 2012)

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ สิงคโปร์

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ