สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน ได้เปิดเผยว่า ในปี ๒๕๕๔ จีนมีปริมาณการผลิตรถยนต์ทั้งสิ้น ๑๘.๔ ล้านคัน และปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เป็นจำนวน ๑๘.๕ ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ ๐.๘๔ และ ๒.๔๕ ตามลำดับ นับเป็นอัตราการเพิ่มที่ต่ำสุดในรอบ ๑๓ ปี
ยอดการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่ลดลงในปีที่แล้ว คาดว่ามีสาเหตุหลักมาจากนโยบายของรัฐบาลในการควบคุมเศรษฐกิจในระดับมหภาคและการยกเลิกการใช้นโยบายกระตุ้นการบริโภค เช่นนโยบายการจำกัดปริมาณการซื้อรถยนต์ของนครปักกิ่ง ทั้งนี้ การที่ยอดการผลิตของรถยนต์ในปี ๒๕๕๔ จะชะลอตัวลงนับเป็นเรื่องปกติ แต่การที่ลดลงจนต่ำกว่าร้อยละ ๒.๕ นั้น เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย
จากข้อมูลสถิติในปี ๒๕๕๔ ปริมาณการขายรถมินิบัส ชะลอตัวลงค่อนข้างมาก ยอดการผลิตและยอดจำหน่ายทั้งปีเพียง ๒.๓ ล้านคัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ ๙.๔ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเภทรถยนต์นั่งที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกใช้นโยบายส่งเสริมการบริโภคมากที่สุด ในส่วนของรถบรรทุก ยอดขายทั้งปีลดลงจากปีก่อนถึงร้อยละ ๔.๖ รถแทรกเตอร์และรถพ่วงลดลงถึงร้อยละ ๒๗ เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ หลังจากที่รัฐบาลจีนออกมาตรฐานในการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยอดขายของรถยนต์ส่วนบุคคลขนาด ๑.๖ ลิตรและต่ำกว่าเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยยอดขายทั้งปีเป็น ๙.๘ ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ ๔
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ยอดการผลิตและยอดขายของรถยนต์แบรนด์จีนชะลอตัว ตลาดรถยนต์แบรนด์ต่างชาติยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดย ๕ บริษัทใหญ่ ได้แก่ Shanghai GM, Shanghai Volkswagen, and FAW Volkswagen, Dongfeng Nissan and Dongfeng Peugeot ต่างมีอัตราขยายตัวของยอดขายอยู่ที่ร้อยละ ๘ - ๑๖
ถึงแม้ตลาดภายในประเทศจะซบเซา แต่ยอดการส่งออกของรถยนต์แบรนด์จีนกลับสูงเป็นประวัติการณ์ มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วเละต่อเนื่องมาสองปีแล้ว จากสถิติของสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนในปี ๒๕๕๔ ยอดส่งออกรถยนต์แบรนด์จีนขยายตัวถึงร้อยละ ๔๙ % เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ ๒๗ ซึ่งนับว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ในปัจจุบัน รถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ หรือ Eco Car ก็ได้รับการพัฒนาอย่างมากและมีอัตราการเติบโตค่อนข้างเร็ว สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีนได้เปิดเผยว่า ในปี ๒๕๕๔ จีนได้ ผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่จำนวน ๘,๓๖๘ คัน คาดการณ์ว่าในอีกสองสามปีถัดไปยอดการผลิตและจำหน่ายรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่จะขยายตัวขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้
ที่มา: http://www.depthai.go.th