1. เงิน เมื่อเราถามว่าอะไรที่ขายได้ในปี 2011 จะได้คำตอบคือ “เงิน เงิน เงิน และเงินเท่านั้น” ในอดีตผู้จำหน่ายอัญมณีเครื่องประดับในระดับ Hi end (Fine jeweler) ไม่สนใจเครื่องประดับเงินแต่ปัจจุบันเงินกลายเป็นสินค้าที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในอุตสาหกรรม ส่วนหนึ่งเนื่องจากราคาทองคำที่สูงขึ้นและอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาของเงินราคาไม่สูงมาก ผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อถึงแม้เป็นช่วงเศรษฐกิจซบเซา
2. การรับซื้อเพชรจากผู้บริโภค สมาคม Jewelers' Circular Keystone (JCK) กล่าวว่า ผู้จำหน่าย อัญมณีหลายรายได้เปลี่ยนความคิดจาก “เรารับซื้อทอง” ไปเป็น “เรารับซื้อทองและเพชร” ร้านค้าปลีกแห่งหนึ่งได้กล่าวว่า เขาจะไม่ซื้อจากผู้จำหน่าย (dealer) อีกต่อไป เขาได้เพชรทั้งหมดที่ร้านต้องการจากการรับซื้อในร้านค้าของเขาเอง นักวิเคราะห์ Mr. Ben Janowski ได้ทำนายว่า ถึงแม้ว่าแนวโน้มนี้เพิ่งเริ่มต้นขึ้นแต่เมื่อผู้บริโภครู้ว่าราคาเพชรเพิ่มสูงขึ้นมากในปัจจุบัน “ต่อไปแหล่งเพชรจะอยู่ที่ผู้บริโภคเพชรในสหรัฐอเมริกา (U.S public)”
3. เพชร ผู้บริหารบริษัท De Beers กล่าวว่าเขามีความแปลกใจมากกับการเพิ่มขึ้นของยอดขายเพชรไม่ใช่ในต่างประเทศเท่านั้นแต่รวมถึงในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย เพชรสีเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ขายสินค้า อัญมณีราคาแพง (high-end jeweler)
4. มีผู้กล่าวว่าลูกค้าหลายคนกำลังมองหาแหวนหมั้นอัญมณีที่เป็นอัญมณีหินสี เป็นแนวโน้มของเครื่องประดับ
5. ลูกปัด/จี้สร้อยคอสร้อยข้อมือ (Beads/charms) ผู้ค้าอัญมณีบางรายมียอดขายที่ลดลง และไม่ได้เป็นปีที่ดีของบริษัท Pandora (และหุ้นของบริษัท) แต่ผู้ค้าอัญมณีหลายรายยังคงผลิตเครื่องประดับ ลูกปัด/จี้สร้อยคอสร้อยข้อมือเหมือนกับบริษัท Pandora โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัท Chamilia และบริษัท Trolldeads ถึงแม้สินค้าลูกปัด/จี้สร้อยคอสร้อยข้อมือเป็นแฟชั่น แต่สินค้าก็ยังคงเป็นที่นิยมอยู่
6. สินค้าเครื่องประดับที่มีลักษณะปรับเปลี่ยนอัญมณีได้ (Jewelpop) ของบริษัท Kameleon เป็นที่กล่าวถึงกันมากและมีผลให้ยอดขายสูงขึ้นและน่าจะมีการฟ้องร้องต่อบริษัทที่เลียนแบบ ซึ่งถือว่าเป็นสัญญลักษณ์ว่ารูปแบบสินค้าแบบนี้ประสบผลสำเร็จแล้ว
7. ร้านค้าอัญมณีรายงานว่าเทศกาลวันหยุดที่ผ่านมา Forevermark มียอดขายที่น่าพอใจถึงแม้จะเป็นเพียงฤดูกาลเดียว แต่ก็เป็นสัญญานที่ดีของสินค้าชนิดนี้
8. แนวโน้มสินค้าแฟชั่นใดที่จะมาแรงในอนาคตที่มีราคาจับต้องได้? เพื่อนร่วมงานของ Mr. Paul Holewa คิดว่าน่าจะเป็นไข่มุก: เขากล่าวว่า “การเลี้ยงมุกน้ำจืดทำให้ราคาของมุกดึงดูดผู้บริโภคมากขึ้น”
9. การออกแบบและผลิตเครื่องประดับตามความต้องการของลูกค้า (Custom work) ยังคงไปได้ดีในด้านของยอดขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้นทุนของวัตถุดิบมีราคาสูงขึ้น ผู้ค้าอัญมณีต้องการที่จะเก็บสินค้าในสต๊อคให้น้อยที่สุดที่จะทำได้ (ผู้ค้าอัญมณียังคงเก็บต้นแบบสินค้าไว้) และแนวโน้มนี้ยังเกิดขึ้นกับบริษัท online ด้วย ไม่ใช่เพียงบริษัท Gemvara แต่บริษัท Sterling ก็มีความสนใจด้วย
10. การจับคู่ทางธุรกิจ หลังจากที่สถานการณ์ทางเศรษกิจดีขึ้นจากปี 2008 — 2009 ผู้ค้าอัญมณีตระหนักว่าบริษัทผู้จำหน่ายรายใดที่ช่วยเหลือในเวลาที่ยากลำบาก — และบริษัทใดที่ไม่ช่วย ดังนั้นผู้ค้าอัญมณีจะมุ่งเน้นการทำธุรกิจบริษัทผู้จำหน่ายสินค้าที่เป็นบริษัทคู่ค้าที่จริงใจ
ท้ายที่สุด ข้อมูลแนวโน้มร้านค้าปลีกอัญมณีเหล่านี้อาจจะไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นทางการ แต่ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาแนวโน้มของตลาด
ผู้สังเกตการณ์แนวโน้มแฟชั่น Ms. Jennifer ทำนายว่าแนวโน้มในปีต่อไปจะเป็น “Roaring Twenties”ประยุกต์จากแฟชั่นยุคทศวรรษ 1920 ไม่ว่าจะเป็นอัญมณีที่สร้างสรรค์ (inspired jewelry) และการแต่งกายจากแฟชั่นโชว์ช่วงฤดูใบไม้ผลิ รายการโทรทัศน์ HBO Boardwalk Empire และสินค้าอัญมณีชิ้นสำคัญจาก The Great Gatsby (ที่บริษัท Tiffany & Co ได้ออกแบบให้กับภาพยนต์เรื่องนี้) Ms. Jennifer คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อการสร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องประดับ รูปแบบลายดอกไม้ (Floral motifs) และ เครื่องประดับ (Accessories) สีขาวและดำ
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก
ที่มา: http://www.depthai.go.th