ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 27 ปีเทียบกับเงินปอนด์อังกฤษ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 26, 2012 15:30 —กรมส่งเสริมการส่งออก

วันที่ 17 มกราคม 2555 ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวสูงสุดในรอบ 27 ปีเทียบกับค่าเงินปอนด์ของอังกฤษที่ 0.68 ปอนด์ และใกล้เคียงกับสถิติสูงสุดเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (1.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อสิงหาคม 2554) ที่ 1.04 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยดอลลาร์ออสเตรเลียมีอำนาจการซื้อสูงขึ้นเกือบ 50% เทียบกับ 3 ปีที่แล้วที่ 1 ดอลลาร์ออสเตรเลียมีค่าเพียง 0.46 ปอนด์ เมื่อต้นปี 2009

สาเหตุสำคัญของการปรับตัวสูงขึ้นถึงจุดสูงสุดในรอบ 27 ปีครั้งนี้ ได้แก่วิกฤติหนี้ในสหภาพยุโรป สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองของสหรัฐอเมริกา และแนวโน้มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจโดยรวมของออสเตรเลีย ซึ่งหลักๆ มาจากการเติบโตของอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของออสเตรเลีย และการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของ GDP ของจีนซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของออสเตรเลีย โดยอัตราการเติบโตของ GDP ของจีนในปี 2554 อยู่ที่ 8.9 ซึ่งสูงกว่าที่รัฐบาลจีนได้คาดการณ์ไว้ที่ 8.0 แม้จะเป็นการเติบโตต่ำสุดตั้งแต่ปี 2009

นอกจากนี้ธนาคารกลางออสเตรเลีย (Reserve Bank Australia: RBA) ประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินสด (Official Cash Rate) ที่ร้อยละ 4.25 เป็นอัตราสูงสุดในประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งหมายถึงนักลงทุนจากต่างประเทศได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในออสเตรเลียสูงกว่าการไปลงทุนในอังกฤษ หรือสหรัฐอเมริกา ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเงินสดต่ำกว่าออสเตรลียมากที่เกือบร้อยละศูนย์ ดังนั้นการที่ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น และอัตราดอกเบี้ยเงินสดสูงกว่า 4% ออสเตรเลียถือเป็นแหล่งลงทุนที่น่าดึงดูดในมุมมองของนักลงทุนจากต่างประเทศ

ในขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์ออสเตรเลียส่งผลดีต่อการลงทุนจากต่างประเทศ อุตสาหกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะธุรกิจบริการและการท่องเที่ยว (Hospitality and tourism) แต่การเข้ามาศึกษาต่อที่ออสเตรเลียของนักเรียนต่างชาติจะต้องเผชิญกับความท้าทายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากต้นทุนการท่องเที่ยวและการศึกษาต่อในออสเตรเลียสูงขึ้น โดยสำนักงานสถิติออสเตรเลีย (Australian Bureau of Statistics) แสดงมูลค่ารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติรายเดือนประจำเดือนพฤศจิกายน 2554 ลดลงเกือบ 450 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายนในปี 2553 และยอดเข้ามาศึกษาต่อของนักเรียนต่างชาติซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้ใหญ่ของออสเตรเลียลดลงด้วย เห็นได้จากตารางด้านล่าง ที่ผู้เดินทางเข้าประเทศเพื่อสาเหตุทางธุรกิจขยายตัว แต่นักท่องเที่ยวและนักเรียนลดจำนวนลง

จำนวนผู้เดินทางเข้ามาออสเตรเลียช่วงเดือนมกราคม 2554 ถึง พฤศจิกายน 2554 โดยรวมลดลง 0.1% จากช่วงเดียวกันของปี 2553 โดยเป็นการลดลงของการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว (4.5%) เพื่อเข้าร่วมการประชุม (0.8%) และการศึกษา (0.6%) ส่วนจำนวนผู้เดินทางมาออสเตรเลียเพื่อเยี่ยมครอบครัว เพื่อเหตุผลทางธุรกิจ และเหตุผลทางอาชีพขยายตัวที่ 0.6% 6.7% และ 11% ตามลำดับ

โดยจำนวนนักเดินทางจากประเทศจีนมีอัตราการขยายตัวสูงสุดถึง 18.2% ซึ่งส่วนใหญ่ป็นการเข้ามาเพื่อเหตุผลทางุรกิจ และผู้เดินทางจากประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอังกฤษ ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ -17.3 -8.7 และ -4.7 ตามลำดับ

นักเศรษฐศาสตร์ชาวออสเตรเลียเห็นว่าแนวโน้มทางเศรษฐกิจและการค้าของออสเตรเลียจะมุ่งหน้าสู่การเป็นประเทศที่มีลักษณะ Investment spending แทนที่ consumer spending ซึ่งหมายถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจมาจากการลงทุนมากกว่าการใช้จ่ายซื้อสินค้าของผู้บริโภค

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ