‘THAILAND TRUST MARK’ บุกเปิดศักราชใหม่ด้านการค้าระหว่างประเทศ
- เผยเป็นหัวหอกกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อก้าวสู่การเข้าร่วมเป็นตลาดเดียวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน -
กรมส่งเสริมการส่งออก (สอ.) ได้เปิดตัวตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark หรือ TTM ที่จะใช้เป็นเครื่องมือสร้างความเชื่อมั่นใน “คุณภาพที่วางใจได้” ให้แก่สินค้าและบริการจากประเทศไทยแทนที่ตราสัญลักษณ์ Thailand’s Brand ซึ่งใช้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าและบริการของไทยมาตั้งแต่ปี 2533 การเปิดตัวครั้งนี้สนองตอบนโยบายเชิงรุกของภาครัฐที่มุ่งพัฒนาการค้าเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็น ส่วนหนึ่งของ “ตลาดเดียว” หรือ “Single Market” ในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ในปี 2558
Thailand Trust Mark หรือ TTM คือ เครื่องหมายที่กรมส่งเสริมการส่งออกภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้พิจารณาให้ใช้กับสินค้าและบริการที่จดทะเบียนถูกต้องและได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งนี้ การเปิดตัว TTM ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จของตราสัญลักษณ์ Thailand’s Brand ที่สร้างชื่อเสียงให้สินค้าและบริการของไทยเป็นที่จดจำในด้านความหลากหลายและความประณีตพิถีพิถัน (Diversity & Refinement) โดยตราสัญลักษณ์ TTM จะชูประเด็นเรื่องคุณภาพเพื่อผลักดันให้ผู้บริโภคทั่วโลกรับรู้และมั่นใจใน “คุณภาพที่วางใจได้”(Trusted Quality) ของสินค้าและบริการจากประเทศไทย
กรมส่งเสริมการส่งออกได้นำเครื่องหมาย TTM มาใช้เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ด้านการค้าเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อชาวต่างชาติในการตัดสินใจซื้อสินค้า ตลอดจนเสริมความเชื่อมั่นของคู่ค้า ชาวต่างชาติในทำการค้ากับผู้ประกอบการไทยที่ได้รับเครื่องหมายรับรองคุณภาพ TTM ทั้งยังเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ดีของสินค้าและของประเทศ ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มอีกทั้งขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าและบริการของไทยในตลาดโลก ปัจจัยเหล่านี้จะส่งเสริมให้ประเทศไทยมีศักยภาพทางการแข่งขันสูงบนเวทีการค้าระหว่างประเทศและพร้อมสำหรับการเป็นฐานการผลิตและการเป็นตลาดเดียวของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนภายใต้ “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน”
“ตราสัญลักษณ์ TTM จะช่วยรับรองคุณภาพให้กับสินค้าและบริการของไทย รวมทั้งเสริมสร้างภาพลักษณ์ ของประเทศในฐานะแหล่งกำเนิดสินค้าที่เชื่อถือได้ ซึ่งนับเป็นเรื่องสำคัญเมื่อคำนึงถึงปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ในด้านการค้าและความจำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้สอดรับกับสถานการณ์ของตลาดโลกในปัจจุบันซึ่งมีการแข่งขันสูง ทั้งนี้ ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าซึ่งมีตราสัญลักษณ์ TTM กำกับและผู้ค้าชาวต่างชาติที่ต้องการ ร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยซึ่งได้รับการรับรองจาก TTM
จะไม่เพียงมั่นใจได้ถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูงแต่ยังเชื่อมั่นได้ในกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรับผิดชอบต่อสังคมซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นมูลค่าเพิ่มที่อำนวยประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ” นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นประธานในพิธีเปิดตัวตราสัญลักษณ์ TTM กล่าว
ตั้งแต่ต้นปีพ.ศ.2555 เป็นต้นมา กรมส่งเสริมการส่งออก(สอ.) ได้เปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษจาก ‘Department of Export Promotion’ (DEP) เป็น ‘Department of International Trade Promotion’ (DITP) เพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ที่มีขอบเขตกว้างขึ้นในฐานะหน่วยงานที่ให้การส่งเสริมและอำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศโดยไม่เพียงมีพันธกิจหลัก 3 ประการ คือ การขยายตลาดสินค้าและบริการของไทยการพัฒนาและส่งเสริม การสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าและธุรกิจบริการส่งออกอย่างต่อเนื่อง และการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดอาเซียนและตลาดโลก แต่ยังมีภารกิจในการส่งเสริมการค้าแบบสองทาง (Two-Way Trade) เพื่อให้ทั้งผู้ประกอบการและคู่ค้าบรรลุเป้าหมายและประโยชน์สูงสุดร่วมกัน
“การเปลี่ยนชื่อกรมฯ เป็นการให้คำจำกัดความใหม่ที่กินความกว้างกว่าการเป็นหน่วยงานส่งเสริมการส่งออกและสะท้อนถึงการดำเนินงานที่จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อรักษาศักยภาพทางเศรษฐกิจเอาไว้ให้ได้ในภาวะเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันสูงเช่นปัจจุบัน การปรับภาพลักษณ์ของกรมฯ สื่อให้เห็นถึงการปรับกระบวนการคิดใหม่ทั้งหมด โดยเป้าหมายสูงสุดไม่ใช่แค่การกระตุ้นยอดการส่งออกหรือสร้างความมั่นใจให้กับสินค้าและบริการของไทย แต่ยังครอบคลุมถึงการจัดหาช่องทางที่ดีที่สุดให้ผู้ผลิตและผู้ค้าได้รับรู้และตอบสนองต่ออุปสงค์และอุปทานที่แท้จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายกิตติรัตน์ กล่าวเสริม
ผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้ารับตราสัญลักษณ์ TTM ให้กับสินค้าและบริการของตนจะต้องเป็นสมาชิก
กรมส่งเสริมการส่งออก (Exporter List: EL) และเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทยมีภาพลักษณ์
ของกิจการที่ดีและไม่มีประวัติเสียหาย นอกจากนี้ คณะกรรมการยังอาจพิจารณาคุณสมบัติอื่นๆร่วมด้วย เช่น การได้รับรางวัลด้านการส่งออกที่น่าเชื่อถือ การเปิดรับสมัครจะจัดขึ้นปีละครั้งในเดือนมกราคมโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะดำเนินการพิจารณาคัดเลือกในเดือนมีนาคม
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ดำเนินโครงการนำร่องหลากหลายรูปแบบเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ อาทิ สายด่วนให้คำปรึกษาและบ่มเพาะ 1169 โครงการตลาดกลางซื้อ-ขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketplace) ทางเว็บไซต์ www.thaitrade.com บริการที่ปรึกษาด้านการค้าและจับคู่การค้า ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการค้าอื่นๆ อีกมากมาย
“ตราสัญลักษณ์ TTM และโครงการริเริ่มต่างๆ เหล่านี้ เป็นประจักษ์พยานยืนยันให้เห็นถึงความพยายามและความมุ่งมั่นของกรมส่งเสริมการส่งออกที่จะดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะทำได้สำหรับการเปิดตัว TTM ในวันนี้นับเป็นสัญญาณที่สำคัญในการก้าวเข้าสู่อีกขั้นของพัฒนาการ ด้านการค้าระหว่างประเทศของไทย” นางนันทวัลย์ กล่าว
ที่มา: http://www.depthai.go.th