เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์เป็นสินค้าสำคัญของการค้าปลีกในเยอรมนี จะมีการจับจ่ายซื้อกันมากในช่วงเทศกาลปลายปี และตามภาวะเศรษฐกิจที่แจ่มใส มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น คนว่างงานลดน้อยลง ทำให้มีการจับจ่ายซื้อสินค้ารายการนี้เพิ่มขึ้นมากในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ เครื่องเสียง สินค้าเพื่อความบันเทิงต่างๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ เครื่องเล่น DVD, Blue Ray ในขณะที่คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นที่ต้องการน้อยลง ในช่วง 10 เดือนแรกปี 2554 สินค้าเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์มียอดการจำหน่ายเป็นมูลค่า 56,216 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 เป็นการจำหน่ายในประเทศมูลค่า 25,381 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 และในต่างประเทศมูลค่า 30,835 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 สินค้าในหมวดคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ยังคงมียอดขายลดลงร้อยละ 13.0 และ 15.5 ตามลำดับ ส่วนสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มียอดขายรวม 69,845 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.1
ในปี 2554 ที่ผ่านมาไทยส่งออก เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปเยอรมนีเป็นมูลค่า 387.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 10.3 ของการส่งออกสินค้าไทยไปเยอรมนี มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.2 ที่สำคัญๆ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ มูลค่า 149.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 125.4% ไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 3.7 แหล่งนำเข้าสำคัญของ เยอรมนี ได้แก่ เช็ค ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ (ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 23, 15 และ 8 ตามลำดับ) เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่นๆ ไทยส่งออกไปเยอรมนีเป็นมูลค่า 57.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.0 คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 0.6 แหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน เนเธอร์แลนด์และสหราชอาณาจักร มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 17, 14 และ 6 ตามลำดับ สำหรับ เครื่องใช้อิเล็คทรอนิกส์ ไทยส่งออกไปเยอรมนีเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 688.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 18.3 ของการส่งออกสินค้าไทยไปเยอรมนี มูลค่าลดลงร้อยละ 6.7 ที่สำคัญๆ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มูลค่า 375.4 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าลดลงร้อยละ 23.1 ไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 1.3 แหล่งนำเข้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ จีน เนเธอร์แลนด์ และเช็ค (ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 28, 21 และ 11) แผงวงจรไฟฟ้า (IC) มีการส่งออกไปเยอรมนีเป็นมูลค่า 87.4 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.9 ไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 1.3 แหล่งนำเข้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น (ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 21, 9 และ 8) วงจรพิมพ์ มีการส่งออกไปเยอรมนีเป็นมูลค่า 66.2 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 ไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 3.9 แหล่งนำเข้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ จีน ออสเตรีย และไต้หวัน (ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 37, 11 และ 7)
ที่มา: http://www.depthai.go.th