ภาวะการตลาดและแนวโน้มสินค้า
เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เครื่องครัวและของใช้ในครัวเรือน
สินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เครื่องครัวและของใช้ในครัวเรือนอื่น ๆ ในประเทศเยอรมนี สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้
1. Dinnerware ได้แก่ จาน ชาม ถ้วยกาแฟ จานรองแก้ว ฯลฯ ซึ่งสินค้าในกลุ่มนี้ครองส่วนแบ่งตลาดรวมมากกว่าร้อยละ 65 โดยมี บริษัทรายใหญ่ๆ ของโลกที่ผลิตสินค้าในกลุ่มนี้ ได้แก่ Lenox, Noritake, Wedgwood, Royal Doulton และ Mikasa
2. Glassware ได้แก่ แก้วต่างๆ เช่น แก้วน้ำ แก้วไวน์ แก้วค็อกเทล ฯลฯ
3. Flatware ได้แก่ มีด ช้อน ส้อม และ อุปกรณ์ในการรับประทานอาหารอื่นๆ ซึ่งมีบริษัทรายใหญ่ของเยอรมนี ได้แก่ WMF เป็นต้น การนำเข้าของประเทศเยอรมนี
1. สินค้าในกลุ่ม เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เครื่องครัว หรือของใช้ในบ้านเรือนอื่นๆ ชนิด ไชน่าแวร์ และ พอร์ซเลน (รหัส HS Code 6911)
ในช่วงเดือน ม.ค. — พ.ย. 2554 ประเทศเยอรมนีนำเข้าสินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ฯ รหัส HS Code 6911 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 280.96 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยนำเข้าจากประเทศ จีน (135.49 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 48.22) เนเธอร์แลนด์ (28.82 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 10.26) ตุรกี (22.43 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 7.90) สหภาพเช็ค (20.78 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 7.40) ไทย (11.53 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 4.11) เรียงตามลำดับ
2. สินค้าในกลุ่ม เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เครื่องครัว หรือของใช้ในครัวเรือนอื่นๆ ชนิด เซรามิก (รหัส HS Code 6912)
ประเทศเยอรมนี นำเข้าสินค้ารหัส HS Code 6912 ในช่วงเดือน ม.ค. — พ.ย. 2554 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 147.21 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยนำเข้าจากประเทศ จีน (70.95 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 47.96) ไทย (13.92 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 9.46) โปรตุเกส (13.18 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 8.96) โรมาเนีย (11.99 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 8.15) เนเธอร์แลนด์ (8.77 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 5.96) เรียงตามลำดับ
ในช่วงเดือน ม.ค. — พ.ย. 2554 ประเทศเยอรมนีนำเข้าสินค้าเซรามิก (รหัส HS Code 69) จากไทยรวมมูลค่าทั้งสิ้น 39.48 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.42 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 64.12 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาสินค้าเซรามิคหลัก 4 อันดับแรก ที่ประเทศเยอรมนีนำเข้าจากประเทศไทย ได้แก่
- สินค้ารหัส HS Code 6912 (เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่เป็นเซรามิก) มูลค่า 13.92 ล้านเหรียญสหรัฐ จัดเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 2 มีมูลค่าการนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้น 3.68 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.87 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
- สินค้ารหัส HS Code 6911 (เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่เป็น พอร์ซเลน หรือ ไชน่าแวร์) มีมูลค่า 11.53 ล้านเหรียญสหรัฐ จัดเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 5 มีมูลค่าการนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้น 7.79 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 207.80 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
- สินค้ารหัส HS Code 6910 (อ่างล้างจาน อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ) มีมูลค่า 6.00 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สินค้ารหัส HS Code 6913 (รูปปั้นขนาดเล็กที่เป็นเซรามิก) มูลค่า 5.85 ล้านเหรียญสหรัฐ จัดเป็น
ประเทศคู่ค้าอันดับที่ 5 มีมูลค่าการนำเข้าจากไทยลดลง 0.71 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือลดลงร้อยละ 10.86 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
มูลค่าการนำเข้าจากประเทศไทยของสินค้าในกลุ่มเซรามิก แยกตามประเภทของสินค้า ในปี พ.ศ. 2552-2554
------------------------------------------------------------------------------------
ล้านเหรียญสหรัฐ % Change
------------------------------------------------------------------------------------
HS Description 2009 2010 2011 10/11 Thailand ม.ค.-พ.ย.
69 CERAMIC PRODUCTS
------------------------------------------------------------------------------------
6912 เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่เป็นเซรามิก 12.49 11.28 13.92 35.87 6911 เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่เป็น พอร์ซเลน หรือ ไชน่าแวร์ 3.29 4.33 11.53 207.80 6913 รูปปั้นขนาดเล็กที่เป็นเซรามิก 6.73 6.99 5.85 -10.86 6908 กระเบื้องปูพื้นและทางเดิน ที่เป็นเซรามิกเคลือบแล้ว 0.93 0.75 0.92 31.86 6914 เซรามิกอื่นๆ 1.18 0.71 0.92 29.06 6910 อ่างล้างจาน อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ 0.54 1.82 6.00 228.54 6902 อิฐบล็อก กระเบื้องชนิดทนไฟ ผลิตภัณฑ์เซรามิก 0.05 0.12 0.16 32.28
------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา — World Trade Atlas
- ในช่วงปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคมีแนวโน้มนิยมสินค้าที่ใช้บนโต๊ะอาหารที่มีรูปแบบที่เรียบง่าย เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยนิยมสีสดใส เช่น สีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม และ สีเหลือง ซึ่งบ่งบอกถึงความสดชื่นและความสนุกสนานร่าเริง นอกงานนี้แล้ว ยังนิยมใส่ลวดลายเพิ่มเติมในการออกแบบอีกเล็กน้อย รวมถึงสินค้าที่ใช้สีผสมที่ตัดกัน เช่น สีขาวกับสีดำ หรือ สีแดงกับสีดำ
- สินค้าจากประเทศเยอรมัน เนเธอร์แลนด์ ได้รับการพัฒนาคัดเลือกในระดับ high end มีการสร้าง Theme & Concept ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้นำเข้า/ตัวแทนจำหน่ายจากทั่วโลกเป็นจำนวนมาก และสินค้า เป็นที่ดึงดูดลูกค้าแต่ราคาค่อนข้างสูง
- ผู้ผลิตรายใหญ่ๆหลายราย เช่น Waterford Wedgwood หรือ Lenox ได้ย้ายฐานการผลิตบางส่วนไปตั้งโรงงานผลิตในต่างประเทศที่มีค่าแรงที่ถูก เช่น ประเทศจีน แต่ยังมีการปรับปรุงการผลิตและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยต่อเนื่อง
- การแข่งขันในสินค้าที่มีราคาถูกจากการรับจ้างผลิตของไทยกับคู่แข่งในเอเชียจะค่อนข้างยาก จำเป็นต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งด้านวัตถุดิบการผลิต/เทคโนโลยีการผลิต/การออกแบบ ซึ่งไทยยังมีข้อได้เปรียบ ควรมุ่งการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มและอยู่ในกระแสความนิยมในตลาดอนาคต เช่น การใช้วัสดุการผลิตที่อนุรักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อม การไม่ใช้แรงงานเด็ก เป็นต้น
- ควรจับกลุ่มลูกค้าที่เป็น Contract Business มากขึ้น หรือผลิตสินค้าที่มีแบรนด์ของตนเอง/ร่วมผลิตสร้างแบรนด์ร่วมกับคู่ค้าที่เป็น Trade Partner ไม่ใช่แค่เป็นผู้ผลิตและควรปรับรูปแบบธุรกิจ/การตลาด เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกไทยต้องปรับปรุงรูปแบบของสินค้าให้โดดเด่นเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ซึ่งเน้นสำคัญอยู่ที่รูปแบบและการออกแบบ
- ผู้ผลิต/ผู้ประกอบการไทย ควรหาโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชม งานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมในประเทศเยอรมนี เพื่อศึกษารูปแบบและแนวโน้มของสินค้าที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปี งานแสดงสินค้าในเยอรมนีเป็นศูนย์รวมของผู้ผลิต/ผู้ส่งออกจากทุกมุมโลก ขนาดเดียวกันผู้ซื้อและผู้นำเข้าจากประเทศต่างๆ ก็จะมาเยี่ยมชมงานเพื่อสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เป็นจำนวนมาก งานแสดงสินค้าที่กล่าวถึงคืองาน Ambiente และงานTendence Lifestyle จัดที่นครแฟรงก์เฟิร์ต
- สินค้าในกลุ่มเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เครื่องครัว และของใช้ในครัวเรือนอื่นๆ ชนิดไชน่าแวร์ และ พอร์ซ-เลน (รหัส HS Code 6911) ต้องเสียภาษีการนำเข้า ร้อยละ 12 ยกเว้นการขนส่งทางอากาศพร้อมใบรับรองการค้า/การขนส่งทางอากาศ ซึ่งเสียภาษีการนำเข้าเท่ากับ 0( ที่มาจาก www.zoll-tarif.de)
- ส่วนสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เครื่องครัว และของใช้ในครัวเรือนอื่นๆ ชนิดเซรามิก (รหัส HS Code 6912) ไม่ต้องเสียภาษีการนำเข้า Trend สินค้าในกลุ่มเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เครื่องครัว และของใช้ในครัวเรือนอื่นๆ ประจำปี 2012-2013
- สีที่เรียบง่าย เช่น สีเทา ขาว และดำ
- สีที่สดใส เช่นสีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม และ สีเหลือง ซึ่งบ่งบอกถึงความสดชื่นและความสนุกสนานร่าเริงพร้อมการนิยมใส่ลวดลายเพิ่มเติมในการออกแบบสินค้าอีกเล็กน้อย
-------------------------------------------------------------------------------
จัดทำโดย นายอาทิตย์ กองเกตุ ผู้ช่วยดำเนินการฯ คนที่ 1
สคต.แฟรงก์เฟิร์ต
กุมภาพันธ์ 2555