ข้าวหอม (Aromatic Rice) ของสหรัฐฯ
๑. ข้าว Basmati ซึ่งได้แก่ข้าว Calmati 201, Calmati 202
๒. American Long Grain Aromatic ได้แก่ข้าว Sierra, Della, A201, Delrose, Delmont
๓. American Jasmine Rice ได้แก่ข้าว Jasmine 85 , Jazzman, JES
ข้าวเหล่านี้มีชื่อสามัญที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปเช่น Popcorn Rice, Basmatic, Jasmine, Texmati และ Wild Pecan เป็นต้น
ส่วนใหญ่ของข้าวเมล็ดยาวที่เป็นข้าวหอมของสหรัฐฯจะมีสัดส่วนของความยาวและความกว้างของเมล็ดข้าวมากกว่า ๓:๑ และส่วนใหญ่ของข้าวบาสมาติอเมริกันจะมีความยาวและความกว้างของเมล็ดข้าวมากกว่าข้าวเมล็ดยาวทั่วไป และสัดส่วนของความยาวและความกว้างจะมากกว่า ๔:๑
แหล่งปลูกข้าวหอมของสหรัฐฯคือ รัฐอาร์คันซอร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐหลุยเซียน่า รัฐมิสซูรี่ และรัฐเท๊กซัส
๑. Doguet’s Rice Milling Company, www.doguets.com
๒. Falcon Rice Mill, Inc., www.falconrice.com
๓. G & H Seed Company, Inc., Box 321, Crowley, LA 70527, Tel: 337 785-7706
๔. Jazzmen Rice, LLC, www.jazzmenrice.com
๕. Lundberg Family Farms, www.nationalrice.com
๖. Producers Rice Mill, Inc., www.producersrice.com
๗. RiceTex,Inc., www.ricetec.com
๘. Riverbend Rice Mill Inc., Box 830, Colusa, CA 95932, Tel: 530 458-8561
๙. Riviana Foods, Inc., www.riviana.com
๑๐. Sem-Chi Rice Products Corporation, www.floridacrystals.com
๑๑. Specialty Rice, Inc., www.dellarice.com
๑๒. Sub Commerce Inc., www.subconinc@yahoo.com
๑๓. SunWest Foods, Inc., www.sunwestfoods.com
ข้าว Jazzman
เนื่องจากข้าวหอมมะลิสายพันธุ์แท้ของประเทศไทยไม่สามารถนำไปปลูกได้ในสหรัฐฯโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ปลูกข้าวขาวเมล็ดยาวในภาคใต้ของสหรัฐฯ สืบเนื่องมาจากอากาศที่หนาวเย็นกว่า สภาพดินที่แตกต่างกันและความยาวของวันที่แตกต่างกันสองชั่วโมง Dr. Xueyan Sha นักวิจัยสหรัฐฯที่เป็นคนอเมริกันเชื้อสายจีนที่ศูนย์วิจัยข้าว (Rice Research Station at Crowley) ที่ Louisiana State University เมือง Crowley ในรัฐหลุยเซียน่าจึงได้พยายามค้นคิดสายพันธุ์ข้าวหอมมะลิที่สามารถปลูกได้ในภาคใต้ของสหรัฐฯมานานถึงสิบสองปีโดยนำพันธุ์ข้าวจีนที่มีคุณสมบัติมีกลิ่นหอมมาผสมกับพันธุ์ข้าวสหรัฐฯ (Ahrent rice) ได้ข้าวพันธุ์ใหม่ที่ให้ผลผลิตสูงและเร็ว ใช้เวลานับตั้งแต่ปลูกจนถึงตกรวงประมาณร้อยละ ๕๐ นาน ๘๗ วัน มีความสูงของต้นข้าวที่เหมาะสมมีกลิ่นหอมที่คล้ายคลึงกับข้าวหอมมะลิไทย เป็นข้าวเมล็ดยาวที่สามารถสีได้ดีและหลังการสีข้าวจะได้ข้าวคุณภาพดีเลิศและมีความใกล้เคียงกับข้าวหอมมะลิไทยทั้งในเรื่องของขนาด (dimension) และความเรียวของข้าว สหรัฐฯ เรียกชื่อข้าวดังกล่าวว่า Jazzman rice ในระยะแรกสหรัฐฯยังไม่เผยแพร่พันธุ์ข้าวนี้ออกสู่ตลาดเนื่องจากไม่แน่ใจว่าจะมีผู้ซื้อ จนกระทั่งนักธุรกิจ อเมริกันเชื้อสายจีน ๓ คนคือ George Chin, Andrew Wong และ Egbert Ming ได้ร่วมกันตั้งบริษัท Jazzmen Rice, LLC เพื่อทำธุรกิจขายข้าวหอมที่ผลิตได้ในสหรัฐฯที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการขนส่งข้ามประเทศ ได้เข้าไปติดต่อ
ศูนย์วิจัยข้าวฯแสดงความสนใจที่จะซื้อถ้าข้าวดังกล่าวสามารถปลูกเพื่อการค้าได้สำเร็จ ในปี ๒๐๐๙ ข้าว Jazzman รุ่นแรกได้ออกสู่ตลาดการค้าสหรัฐฯ ในปี ๒๐๑๐ มีประมาณการณ์ว่าสหรัฐฯมีพื้นที่ปลูกข้าว Jazzman ประมาณหนึ่งหมื่นหนึ่งเอเคอร์ ในปี ๒๐๑๑ ประมาณการณ์ว่าจะผลิตได้ประมาณ ๖๓,๐๐๐ เมตริกตัน หรือประมาณร้อยละ ๑๘ ของปริมาณการนำเข้าข้าวจากประเทศไทยในปี ๒๐๑๐
ปัจจุบันบริษัทสำคัญๆที่ทำการตลาดและการกระจายข้าว Jazzman rice คือ Hoppe Farms, Louisiana Rice Mill, Falcon Rice Mill และ Jazzmen Rice LLC การตลาดข้าว Jazzman มีทั้งที่เป็นการวางขายในร้านค้าปลีก การขายตรงเข้าสู่ตลาดที่เป็น niche market เช่น ตลาดประเภท farmer market ตลาดขนาดเล็กในท้องถิ่น และการขายผ่านทางระบบ internet อาจกล่าวได้ว่าบริษัท Jazzmen Rice, LLC ในรัฐหลุยเซียเป็นบริษัทที่ทำการค้าข้าว Jazzman อย่างเป็นล่ำเป็นสันมากที่สุด บริษัทฯรับข้าวมาจาก Louisiana Rice Mill และมีพื้นที่ปลูกข้าว Jazzman ของตนเองประมาณแปดสิบเอเคอร์ ข้าวที่ได้จะวางจำหน่ายภายใต้ชื่อว่า “Jazzmen Louisiana” โดยระบุบนถุงว่าเป็นข้าวหอมหรือ “Aromatic Rice” ข้าวของบริษัทขนาดบรรจุถุง ๒๕ ปอนด์ราคาขายปลีกประมาณ ๒๐ เหรียญฯ ใกล้เคียงกับราคาข้าวหอมมะลิไทย นอกจากการขายตรงออกจากบริษัทฯผ่านทางระบบ online store แล้วยังวางจำหน่ายในร้านค้าปลีกประมาณ ๕๐๐ แห่งทั่วสหรัฐฯส่วนใหญ่แล้วจะวางในตลาดเอเซีย ในรัฐอลาบาม่า อาร์คันซอร์ แคลิฟอร์เนีย ฟลอริด้า จอร์เจีย และ หลุยเซียน่า โดยจะมีวางจำหน่ายมากที่สุดในพื้นที่เป็นแหล่งผลิตและรัฐใกล้เคียงคือ รัฐอลาบาม่า หลุยเซียน่า อาร์คันซอร์ และจอร์เจีย โดยเน้นตลาดคนเอเซียเชื้อสายเวียดนามเป็นสำคัญ ในรัฐแคลิฟอร์เนียเกือบจะทั้งหมดวางจำหน่ายในแคลิฟอร์เนียภาคใต้ในเมืองรอบนอกมณฑลลอสแอนเจลิสที่เป็นย่านอยู่อาศัยหนาแน่นของผู้อพยพเชื้อสายเวียดนาม และมีวางจำหน่ายที่เมือง San Jose ในแคลิฟอร์เนียภาคเหนือ บริษัทฯมีแผนจะวางตลาดสินค้าบนฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯในอนาคตอันใกล้ นอกจากการวางตลาดในร้านค้าปลีกแล้วบริษัทฯยังเข้าสู่การขายให้แก่ตลาดสถาบันที่รวมถึงร้านอาหารข้าวยี่ห้อ Jazzmen Rice วางจำหน่ายในบรรจุภัณฑ์ถุงพลาสติกที่เป็น resealable เพื่อรักษาความสดของสินค้าขนาด ๒๘ ออนซ์ ราคาประมาณ ๙ เหรียญฯ และถุงขนาด ๒๕ ปอนด์ ราคาข้าวขาวประมาณ ๒๐ เหรียญฯ ราคาข้าวแดงประมาณ ๒๒ เหรียญฯ และข้าวแดงถุงขนาด ๕ ปอนด์ราคาประมาณ ๘ เหรียญฯ
บริษัท Falcon Rice Mill รัฐหลุยเซียน่า เริ่มวางตลาดสินค้าข้าว Jazzman ในปี ๒๐๐๙ ภายใต้ยี่ห้อ Cajun Country และระบุชื่อสินค้าบนถุงว่าเป็น Enriched Jasmine Rice วางจำหน่ายในร้านค้าปลีกบริเวณภาคใต้ของสหรัฐฯจากรัฐหลุยเซียน่าไปจนถึงรัฐเท๊กซัส บริษัทฯรายงานสินค้าข้าวหอมของบริษัทฯประสบความสำเร็จได้รับความนิยมสูงมากในหมู่ลูกค้า ในปี ๒๐๑๐ บริษัทฯจึงเพิ่มผืนที่นาข้าว Jazzman ของตนอีกร้อยละ ๒๐
เพื่อให้ได้ผลผลิตที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าบริษัท Hoppe Farm ระบุว่าในปี ๒๐๑๑ ความต้องการข้าว Jazzman ของบริษัทฯเพิ่มสูงมากถึงสองเท่า และวางแผนที่ขยายพื้นที่ปลูก Jazzman rice เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งในสามของพื้นที่ปัจจุบัน ผลผลิตของบริษัทฯถูกส่งไปจำหน่ายให้กับบริษัทผู้ค้าข้าวเช่น Falcon Rice Mill ธุรกิจให้บริการอาหาร ร้านค้าที่เป็น specialty stores และร้าน groceries ต่างๆในพื้นที่บริเวณใต้สุดของสหรัฐฯ ตลอดแนวเส้นทางหลวงระหว่างมลรัฐ I10 ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมระหว่างมลรัฐที่อยู่ใต้สุดและเป็นเส้นทางที่ยาวที่สุดที่เชื่อมระหว่างตะวันออกและตะวันตกของสหรัฐฯ
ข้าว Jazzman-2
สหรัฐฯได้เริ่มต้นพัฒนาข้าว Jazzman-2 มาตั้งแต่ปี ๒๐๐๖ ข้าว Jazzman-2 เป็นข้าวเมล็ดยาวแบบข้าวหอมมะลิเช่นเดีวกับข้าว Jazzman แต่มีกลิ่นหอมกว่า เป็นข้าวพันธุ์ semidwarf ความสูงของต้นประมาณ ๓๖ นิ้วซึ่งเตี้ยกว่าข้าว Jazzman ข้าวตกรวงเร็วประมาณ ๘๓ วัน เมื่อผ่านการสีแล้วให้ข้าวที่ได้จำนวนมากและมีคุณภาพดีเลิศ นักวิจัยสหรัฐฯระบุว่าข้าว Jazzman-2 เมื่อหุงแล้วจะมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับข้าวหอมมะลิไทยมากที่สุดทั้งกลิ่นหอม รสที่หวาน สีของข้าวที่ขาวมันวาว และความนุ่มของเนื้อข้าว สหรัฐฯเชื่อว่าข้าว Jazzman-2 มีศักยภาพสูงมากที่จะแข่งขันกับข้าวหอมมะลิของไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นข้าวยี่ห้อธรรมดาๆ (non-premium brands)และเชื่อว่าจะมีศักยภาพสูงมากที่จะแย่งตลาดข้าวหอมมะลิไทย
ปัจจุบันสหรัฐฯพัฒนาข้าว Jazzman — 2 ได้สำเร็จแล้วและในปี ๒๐๑๑ บริษัท Louisiana Rice Mill ได้ทำสัญญาจ้างชาวนาปลูกข้าว Jazzman — 2 โดยให้ราคาสูงกว่าการปลูกข้าวขาวเมล็ดยาวปกติศักยภาพในการเป็นคู่แข่งขันกับข้าวหอมมะลิไทย
ปัจจุบันสหรัฐฯยังคงปลูกข้าว Jazzman ได้ในจำนวนน้อยและมีวางแพร่หลายอยู่ในตลาดเฉพาะในพื้นที่ปลูกข้าวทางใต้และรัฐโดยรอบ กลยุทธทางการตลาดยังคงเน้นไปที่การสนับสนุนสินค้าที่ผลิตได้ในพื้นที่ ลูกค้าเป้าหมายยังคงเป็นกลุ่มผู้บริโภคทั้งที่เป็นภาคธุรกิจและผู้บริโภคทั่วไปที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลูกข้าวของสหรัฐฯและตลาดคนอเมริกันเชื้อสายเอเซียโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเวียดนามอเมริกัน อย่างไรก็ดี การขยายตัวของการบริโภคและการเป็นคู่แข่งขันของประเทศไทยมีโอกาสเกิดขึ้นได้สูงมาก เนื่องจากข้าว Jazzman ได้รับการสร้างภาพพจน์ว่าเป็นข้าวที่ผลิตได้ในสหรัฐฯตามมาตรฐานการผลิตสินค้าของสหรัฐฯซึ่งสูงกว่าในประเทศผู้ส่งออกในเอเซีย มีคุณภาพเหมือนข้าวหอมมะลิไทยหรืออาจจะดีกว่าในแง่ที่ว่าสดกว่าเพราะไม่ต้องผ่านการขนส่งข้ามทวีปที่ใช้ระยะเวลาในการขนส่งนาน มีบรรจุภัณฑ์ที่ง่ายแก่การใช้และได้มาตรฐานในการเก็บรักษาสินค้า ในบางครั้งจะมีราคาขายปลีกที่ต่ำกว่าสินค้านำเข้า และการบริโภคสินค้าที่ผลิตได้ในท้องถิ่นเป็นการช่วยเหลือชาวนาและประเทศของตนเอง
นอกจากความตั้งใจที่จะแข่งขันกับข้าวหอมมะลิเข้าจากไทยในตลาดภายในประเทศสหรัฐฯแล้ว สหรัฐฯยังมองโอกาสที่จะแข่งขันกับข้าวหอมมะลิของไทยในประเทศอื่นที่เป็นตลาดนำเข้าข้าวหอมมะลิของไทยที่สหรัฐฯสามารถเสนอขายข้าวหอมมะลิของสหรัฐฯได้ในราคาที่ต่ำกว่าข้าวหอมมะลิของไทย
สิ่งหนึ่งที่ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายข้าว Jazzman มองว่าเป็นจุดอ่อนสำคัญของข้าวหอมมะลิไทยที่วางจำหน่ายในตลาดสหรัฐฯและจะเป็นเงื่อนไขที่เปิดโอกาสให้แก่ข้าว Jazzman ก็คือ ข้าวหอมมะลิไทยที่วางจำหน่ายในตลาดสหรัฐฯส่วนใหญ่จะถูกผสมด้วยข้าวข้าวเมล็ดยาวที่ไม่ใช่ข้าวหอมทำให้คุณภาพของข้าวที่วางจำหน่ายภายใต้ชื่อข้าวหอมมะลิไทยด้อยกว่าข้าว Jazzman
ข้าวหอมบาสมาติของสหรัฐฯที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคือข้าว Texmati ซึ่งถือได้ว่าเป็นข้าวบาสมาติอันแรกที่สหรัฐฯสามารถผลิตในประเทศสหรัฐฯได้เป็นผลสำเร็จ ข้าว Texmati ผลิตได้เฉพาะในเขตตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ และออกสู่ตลาดมานาน ๓๐ ปีแล้ว
ข้าวหอม Texmati เป็นสินค้าของบริษัท Rice Tec, Inc. วางจำหน่ายสินค้าภายใต้ยี่ห้อ Select บริษัทฯผลิตข้าว Texmati ทั้งที่เป็นข้าวบาสมาติและข้าวหอมมะลิ วางจำหน่ายทั้งข้าวขาว ข้าวแดง ข้าวอินทรีย์ ข้าวหอม(Texmati Jasmati Rice) ข้าวริโสโต้ ข้าวซูชิ นอกจากนี้ยังเป็นข้าวที่ได้รับประกาศนียบัตร Kosher
ข้าว Texmati Jasmati Rice ที่เป็นข้าวขาวเมล็ดยาวจะระบุบนกล่องว่าเป็น Long Grain American Jasmine Rice ขณะที่ข้าว Organic Jasmati Rice จะระบุบนกล่องว่าเป็น Long Grain American Basmati ข้าวยี่ห้อ Rice Select เป็นข้าวยี่ห้อเดียวในสหรัฐฯที่ทำบรรจุภัณฑ์ในขวดแก้วที่เป็น resealable และ reusable ที่ช่วยเก็บรักษาความสดใหม่ของข้าว ข้าว Texmati ส่วนใหญ่จะบรรจุในขวดแก้วสี่เหลี่ยมขนาด ๓๒ หรือ ๓๖ ออนซ์ ราคาเริ่มต้นที่ ๗ เหรียญฯขึ้นไปจนถึง ๓๔ เหรียญฯขึ้นอยู่ชนิดของข้าวและขนาดของขวด หรือบรรจุในกล่องกระดาษขนาด ๑๔ ออนซ์ ราคาประมาณ ๑๙ เหรียญฯ
ข้าวหอมเมล็ดยาวของสหรัฐฯส่วนใหญ่จะเป็นข้าวบาสมาติ
ข้าว Della, Delrose ปลูกในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำทางตะวันออกตอนกลางของรัฐอาร์คันซอร์ บริษัทที่ปลูกและขายข้าว Della คือ Specialty Rice Inc., มีพื้นที่นาข้าวประมาณ ๖,๐๐๐ เอเคอร์
ในสหรัฐฯบริษัทฯวางจำหน่ายสินค้าภายใต้ยี่ห้อ Della Gourmet Rice ในคานาดาวางจำหน่ายภายใต้ยี่ห้อ Delrose ในสหรัฐฯจะวางขายปลีกใน Supermarket ทั้งที่เป็น national chain stores และ local stores ใน ๓๗ มลรัฐ มีขายมากที่สุดในรัฐอิลินอยส์ มิชิแกน และมิสซูรี่ สินค้าจะถูกบรรจุในถุงพลาสติกแบบ resealable ขนาดบรรจุ ๒ ปอนด์ราคาเริ่มต้นที่ ๕.๕๐ เหรียญฯ และ ๕ ปอนด์ ราคาเริ่มต้นที่ ๑๐ เหรียญฯ
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ นครลอสแอนเจลิส
๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕