คว่ำบาตรอิหร่านฉุดการค้ายูเออี
รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เตรียมหาช่องทางอื่นสำหรับการโอนเงินจ่ายค่าสินค้า สำหรับการค้าระหว่างประเทศกับอิหร่านภายใต้กรอบการคว่ำบาตร เน้นสินค้าที่ไม่ถูกควบคุม อาทิ อาหารและเภสัชภัณฑ์ เป็นต้น
หลังจากที่สหรัฐและอียูได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อกดดันให้อิหร่าน ยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และเพิ่มมาตรการมากขึ้นโดยล่าสุดองค์กร Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication (SWIFT) ที่ใช้สำหรับโอนเงินระหว่างธนาคารผ่านระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ได้ประกาศตัดขาดสถาบันการเงิน 30 แห่งของอิหร่านออกจากระบบธุรกรรมการเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก ทำให้การโอนเงินสดเพื่อชำระค่าสินค้าผ่านประเทศที่ 3 ทำได้ยากลำบาก ซึ่งอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจอิหร่านล่มสลาย เพราะเศรษฐกิจยุคใหม่ไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้หากปราศจากระบบการชำระบัญชีระหว่างประเทศ
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากมาตรการล่าสุดนี้ เพราะอิหร่านเป็นตลาดรองรับสินค้าส่งออกต่อ (Re-export) ของยูเออีที่สำคัญ มูลค่าการค้าระหว่างกันเมื่อปี 2554 ประมาณ 13.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าจากยูเออีขนส่งไปอิหร่านโดยใช้เรือ Dhow ซึ่งเป็นเรือขนสินค้าขนาดเล็กแบบพื้นเมืองคิดเป็นร้อยละ 10-15 ของการนำเข้าทั้งสิ้นของอิหร่าน
ในบรรดาสินค้าที่ขนข้ามพรมแดนได้แก่ สินค้าจำเป็นประจำวัน เช่น น้ำตาล, น้ำมันพืช, แป้ง, ขนมขบเคี้ยว, ผ้าอ้อมเด็ก จนไปถึงเสื้อผ้า ข้าว เครื่องดื่ม อาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์พลาสติก กระดาษ นิตยสาร และหนังสือพิมพ์ ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม เครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้าเฟอร์นิเจอร์ วัสดุอุปกรณ์สร้าง ยางรถยนต์ อะไหล่รถยนต์ ผ้าผืน และของเล่น หลังจากยูเอ็นประกาศมาตรการคว่ำบาตรได้ส่งผลกระทบการส่งออกต่อของยูเออี โดยเฉพาะธุรกิจขนส่งสินค้าโดยเรือ Dhow จากดูไบไปอิหร่านที่เกาะ Kish เมืองท่า Bandar Abbas ลดลงกว่า 70%
หลังจากการประกาศตัดอิหร่านออกจากระบบ SWIFT รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ยูเออีได้พบหารือกับตัวแทนระดับสูงจากอิหร่าน เพื่อหาวิธีชำระค่าสินค้าชนิดที่ไม่ถูกควบคุม เพื่อช่วยเหลือนักธุรกิจของทั้งสองประเทศ โดยจะใช้การชำระค่าสินค้าระบบ IBAN หรือ International Bank Account Number คือเลขที่บัญชีของผู้รับเงินตามมาตรฐานการกำหนดเลขที่บัญชีระหว่างประเทศในภูมิภาคยุโรป ซึ่งธนาคารต่างๆในประเทศยุโรปใช้หมายเลขนี้สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ รวมทั้งธนาคารหลายแห่งในยูเออีเช่นกัน แต่ผู้เชี่ยวชาญการเงินกล่าวว่าการโอนเงินระบบนี้ไม่นิยมแพร่หลายเหมือนกับ SWIFT อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายในการโอนเงินสูง ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะฝ่ายอิหร่าน
ยูเออีอยู่ห่างจากอิหร่านเพียง 56 กิโลเมตรตรงช่องแคบ Hormuz ปัจจุบันมีนักธุรกิจชาวอิหร่านจำนวนหลายแสนคนในยูเออี และมีชาวอิหร่านอีกจำนวนมากได้รับสัญชาติยูเออี การส่งสินค้าจากอิหร่านผ่านยูเออีเปรียบได้กับฮ่องกงที่รับสินค้าผ่านแดนจากประเทศจีนที่ผ่านมา
--------------------------------------------------------
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองดูไบ
มีนาคม 2555