รายงานการเข้าชมงาน Hotelex Shanghai ๒๐๑๒ วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๐๑๒ ที่ Shanghai New International Expo Center

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 25, 2012 14:53 —กรมส่งเสริมการส่งออก

รายงานการเข้าชมงาน Hotelex Shanghai ๒๐๑๒

วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๐๑๒ ที่ Shanghai New International Expo Center

งาน Hotelex Shanghai ครั้งที่๒๑ (The 21st Shanghai International Hospitality Equipment & Supply Expo) ถือได้ว่าเป็นงานใหญ่แห่งปีสำหรับผู้จัดจำหน่ายสินค้าทางด้านการโรงแรม การจัดเลี้ยง การออกแบบ และการตกแต่งภายในระดับชั้นนำ โดยงานดังกล่าวได้รวบรวมเอาบรรดาผู้อยู่ในอตสาหกรรมด้านโรงแรมและงานบริการที่เกี่ยวข้องระดับชั้นนำจากทั่วประเทศจีนและจากหลายๆประเทศมาไว้ด้วยกัน โดยเป้าหมายของงานครั้งนี้คือการจัดหาแหล่งสินค้า การสร้างเครือข่าย การจัดแสดงผลิตภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมนี้ โดยกลุ่มของผู้จัดแสดงในงานถูกจัดเป็น ๖ หมวดด้วยกัน ได้แก่ Catering Supply Equipment(อุปกรณ์ด้านจัดเลี้ยง), Bakery Equipment(อุปกรณ์ด้านขนมอบ), Tableware(ผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร), IT&Security(ไอทีและความปลอดภัย), Textile & Uniform(สิ่งทอและเครื่องแบบ), Amenities(สิ่งอำนวยความสะดวก)

โดยในส่วนของผู้บริหารระดับสูงของธุรกิจในเครือที่เกี่ยวข้องจำนวนมากทั้งบริษัทจีนเองหรือบริษัทต่างชาติก็ให้ความสนใจมาร่วมชมงานครั้งนี้ จากตัวเลขการลงทะเบียนล่วงหน้าและข้อมูลจาก www.hotelex.cn ของทางผู้จัดงานได้มีผู้มาลงทะเบียนขอร่วมจัดแสดงกว่า ๓๐๐๐ ราย คิดเป็นสัดสวนของทวีปที่เข้าร่วมงานได้แก่ ทวีปเอเชีย ๕๓% ปวีปยุโรป ๒๔% ทวีปอเมริกา ๑๑% ทวีปออสเตรเลีย ๕% และทวีปแอฟริการวมถึงอื่นๆ ๗% โดยในส่วนของผู้จัดแสดงมีแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศได้ให้ความสนใจเข้าร่วมประมาณ ๗๐% ในจำนวนนี้ประกอบด้วยแบรนด์ระดับแนวหน้าของโลกอย่าง KEMA, TOTO, Manitowec, FRETTE, PASABAHCE, Middleby, MEIKO หรือจะเป็นแบรนด์ใหม่มาแรงอย่าง Sifa, Halton, FISKARS เป็นต้น ซึ่งหากถามถึงผู้ที่อยู่ในวงการด้านการโรงแรมและบริการแล้ว ย่อมจะรู้จักแบรนด์ที่กล่าวมาข้างต้นในด้านของชื่อเสียงและคุณภาพเป็นอย่างดี ในส่วนของผู้เข้าชมงาน มีการคาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า ๑๐๐๐๐๐ ราย ในจำนวนนี้น่าจะมีผู้ทีดูแลเรื่องการจัดซื้อในธุรกิจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกว่า ๕๐% และผู้บริหารระดับสูงประมาณ ๑๐% ในกลุ่มผู้เข้าชมงานได้มีเหล่าตัวแทนโรงแรมชั้นนำระดับโลก อาทิเช่น Hilton, Westin, Shangri-La, Marriott, RAMADA, Sofitel, MERZDIEN เป็นต้น โดยงานดังกล่าวยังคาดว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางกว่า ๔๐๐๐ ท่านจาก ๑๕๐ ประเทศสนใจเข้าร่วม

บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความครึกครื้นประกอบกับมีการจัดแสดงไฮไลท์ของงานที่แต่ละศูนย์แสดงสินค้าในแต่ละวัน โดยงานครั้งนี้จะมีกิจกรรมแสดงโชว์ตระการตาจากผู้เชี่ยวชาญกว่า ๑๐ ชุดเป็นไฮไลท์ในแต่ละวันไม่ซ้ำกันที่แต่ละโซนของงาน เช่น Throwing Pizza Show, Fancy Ice-making Show, Tableware Salon หรือจะเป็นในส่วนของแต่ละซุ้มจัดแสดงที่มีกิจกรรมเกมส์ต่างๆให้ผู้เข้าชมงานได้มีส่วนร่วม ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้สนับสนุนให้เหล่าผู้ชมและผู้จัดซื้อได้เข้ามามีส่วนร่วม ผลตอบรับพบว่าผู้เข้าชมงานเองได้ให้ความสนใจเข้าชมและเข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างมาก

สำหรับแนวโน้มของตลาดด้านการโรงแรมและการจัดเลี้ยงในอนาคตคาดว่ากระแสของ “Low Carbon”ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลกขณะนี้จะมาเป็นกระแสหลักทางด้านการผลิตและการตลาด โดยแนวคิด Low Carbon หมายถึงแนวคิดที่ว่าสินค้าจะก่อให้เกิดของเสียน้อยที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ครัวที่ไร้ควัน แนวคิดโรงแรมสีเขียว(Green Hotel) ระบบบริหารจัดการที่ปล่อยของเสียออกสู่สิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เป็นต้น ขณะที่ปัจจุบันกระแส Low Carbon ดูจะเป็นกระแสหลักของการออกแบบและผลิตสินค้าทั่วโลก ในส่วนของธุรกิจโรงแรมและเครือที่เกี่ยวข้องก็จำเป็นต้องอาศัยแนวคิดดังกล่าวเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนสู่อนาคตเช่นกัน ซึ่งงาน Hotelex ๒๐๑๒ ก็พยายามตอบโจทย์ดังกล่าว โดยนำแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนมาจับกับแนวคิดของผลิตภัณฑ์ที่ประหยัดทั้งพลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งลดการปล่อยของเสียออกสู่ธรรมชาติ ที่พลิกโฉมวงการโรงแรมในศตวรรษที่ ๒๑ และดูจะตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืนได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น ในงานจะมีการจัดสัมมนาว่าด้วยหัวข้อ Low Carbon กับทิศทางวงของธุรกิจการโรงแรมโดยผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารระดับสูงจะมาถกเถียงและยกประเด็นปัญหาจริงที่พบเจอในวงการร่วมกับการเสนอแนวคิดและแนวทางแก้ไข เป็นต้น ทั้งนี้สามารถมั่นใจได้ว่า การที่ธุรกิจโรงแรมและการจัดเลี้ยงจะสามารถยืนหยัดในวงการได้อย่างยั่งยืนได้นั้น จำเป็นต้องยืนอยู่บนกระแสของ Low Carbon ดังกล่าวโดยคำนึงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ

วิเคราะห์จากภาพรวมของงานแล้ว งานนี้เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้แต่ละแบรนด์ผู้ค้าได้มาแสดงออกและประชันผลงานกัน โดยจะพบว่าในกลุ่มของผู้ค้า(ผู้จัดจำหน่าย)เองได้มีโอกาสมานำเสนอศักยภาพในเรื่องของผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมให้แก่กลุ่มผู้ซื้อ(ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจด้านอาหาร ธุรกิจค้าปลีก)รวมรายเล็กจนถึงรายใหญ่ในจีน เป็นการพบปะกับกลุ่มผู้ซื้อทั้งกลุ่มผู้ซื้อรายเดิมเพื่อเป็นการนำเสนอความคืบหน้าและเพิ่มความมั่นใจต่อตัวผลิตภัณฑ์ของบริษัท และนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่อสายตาของผู้ซื้อรายใหม่ นอกจากนี้ ยังเป็นการประชันความยิ่งใหญ่ของแต่ละแบรนด์สินค้าที่จะเข้ามาในตลาดจีน ซึ่งภาพลักษณ์ที่แต่ละแบรนด์นำเสนอนั้น ส่วนหนึ่งแสดงให้เห็นถึงการให้คุณค่าและกลยุทธ์ที่แต่ละแบรนด์มุ่งใช้ในการจับจองพื้นที่ทางการตลาด ณ ดินแดนแห่งนี้

อีกประการหนึ่ง งานดังกล่าวยังสะท้อนความต้องการสินค้าของชาวจีนออกมาในรูปของกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากรูปแบบการจัดงานที่มีผู้จัดแสดงสินค้าและผู้เข้าชมงานให้ความสนใจมาเข้าร่วมงานอย่างอุ่นหนาฝาคั่งมากขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี ๑๙๙๑ ซึ่งจัดงานครั้งแรกที่นครเซี่ยงไฮ้เป็นต้นมานั้น เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ความต้องการสินค้าในกลุ่มตลาดบนของจีนกำลังขยายตัวไปในทิศทางบวกมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ขณะเดียวกัน การแข่งขันกันระหว่างธุรกิจในเครือดังกล่าวก็ย่อมจะรุนแรงมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

อย่างไรก็ดี ผู้จัดจำหน่ายไทยเองยังถือว่ามีส่วนร่วมในงานนี้ค่อนข้างน้อยอาจจะเนื่องด้วยหลายปัจจัย โดยจากการเข้าชมงานดังกล่าว พบว่า แบรนด์จากทางฝั่งยุโรป อเมริกาและจีนซึ่งเป็นเจ้าบ้านเองจับจองพื้นที่การแสดงในงานเสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนนี้เองก็สอดคล้องกับสัดส่วนการตลาดที่แบรนด์เหล่านี้ถือครองพื้นที่ในจีนอยู่แล้ว สำหรับสาเหตุที่ผู้จัดแสดงสินค้าจากประเทศไทยเองยังมีบทบาทในงานนี้ค่อนข้างน้อย ก็เนื่องด้วยเรื่องของต้นทุนงานเมื่อนำมาพิจารณาประกอบกับความคุ้มค่าของงานที่จะได้รับ ซึ่งจุดนี้อาจยังไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจแก่ผู้ประกอบการไทยเราเอง ประกอบกับสัดส่วนทางการตลาดในอุตสาหกรรมดังกล่าว ประเทศไทยยังเข้าไปถือครองเป็นสัดส่วนที่น้อย

สำหรับสิ่งที่ผู้ประกอบการไทยจะได้รับจากการเข้าร่วมงานดังกล่าวคือผู้ประกอบการจะมีโอกาสได้พบกับกลุ่มผู้ซื้อรายใหญ่โดยตรง อีกทั้งยังได้ติดตามความเคลื่อนไหวของแวดวงธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องว่ามีความเป็นไปอย่างไรบ้างแล้ว บริษัทคู่แข่งมีความคืบหน้าไปอย่างไร ผู้ซื้อให้ความสนใจกับสินค้าด้านไหน อีกทั้งผู้จัดจำหน่ายด้วยกันเองได้มาพบปะแลกเปลี่ยนมุมมอง ความคิดเห็นซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ แบรนด์ไทยที่จะเข้ามาในตลาดจีนสามารถสร้างความมั่นใจให้แก่คู่ค้าในอนาคตได้ ไม่ว่าจะในเรื่องของคุณภาพของแบรนด์ รูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์จากการเข้าร่วมการจัดแสดงสินค้าในงานดังกล่าวได้ ซึ่งประเด็นสำคัญอยู่ที่การต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์และความเข้าใจในตลาดจีนเป็นหัวใจหลักในการเรียกคะแนนความสนใจ

ข้อเสนอแนะถึงผู้ประกอบการไทยคือเรื่องของการมุ่งเน้นทำการตลาดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการที่อยู่ในวงการธุรกิจโรงแรมหรือไม่ก็ตามว่า จากแนวโน้มของ Low Carbon Product ที่เป็นทิศทางหลักของตลาดสินค้าในอนาคต หากว่าธุรกิจต้องการยืนหยัดและพัฒนาอย่างยั่งยืนอีกทั้งเจิดจรัสได้ในวงการธุรกิจนานาชาติ ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบูรณาการด้านการใช้งานร่วมกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาเป็นหัวใจหลักในการออกแบบและทำการตลาดของธุรกิจเอง

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้

๑๗ เมษายน ๒๕๕๕

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ