อินเดียและปากีสถานสานสัมพันธ์ทางการค้า
อินเดียและปากีสถานประเทศเพื่อนบ้านที่เคยเป็นศัตรูต่อสู้ทำศึกสงครามกันในอดีตหลังจากที่ได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1947 แต่ความบาดหมางดังกล่าวได้จางหายไปเนื่องจากทั้งสองประเทศพยายามเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีร่วมมือกันในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันอินเดียและปากีสถานได้ตกลงร่วมใช้นโยบาย “การค้า” นำ “การทหาร” โดยที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเป็นผู้แทนสูงสุด ของอินเดียเดินทางเยือนปากีสถานอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบสามทศวรรษเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 และล่าสุดเมื่อต้นเดือนเมษาฯ ประธานาธิบดีปากีสถานเยือนอินเดียเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าและพัฒนาความร่วมมือทางด้านอื่นๆ เช่น ตกลงร่วมมือกันอย่างจริงจังในการป้องกันมิให้เกิดเหตุก่อการร้ายในดินแดนของทั้งสองประเทศ
ความสัมพันธ์ของอินเดียและปากีสถานดูเริ่มจะแนบแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นจากการที่รัฐบาลของทั้งสองประเทศมีความเห็นพ้องกันว่า “การค้า” จะช่วยเสริมสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงให้กับประชาชนและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจให้กับประเทศฯ “การค้า” จึงเป็นเสมือนทูตพาณิชย์(Trade Diplomacy) เข้ามาช่วยผ่อนคลายความตึงเคลียดทางการเมือง ซึ่งต่อมารัฐบาลอินเดียประกาศให้ปากีสถานเป็น “Most Favorite Nation (MFN)” ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการค้าขายระหว่างกันเป็นอย่างมากเนื่องจากทำให้สามารถขนส่งสินค้าแทบทุกชนิดเข้าออกตรงจุดผ่านแดนฯได้ ซึ่งแต่เดิมทำไม่ได้โดยต้องขนส่งสินค้าฯผ่านประเทศที่สามเท่านั้นซึ่งในทางปฏิบัติจะใช้เมืองดูไบเป็นทางผ่านของสินค้าฯ นอกจากนี้จะค่อยๆลดภาษีนำเข้าฯตามรายการสินค้าที่จะตกลงกันให้เหลือเพียงร้อยละ 5
นโยบายส่งเสริมการค้าชายแดนระหว่างอินเดียและปากีสถานนั้น เริ่มด้วยการเปิดจุดผ่านแดนของทั้งสองประเทศที่ด่าน “WAGAH” เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2555 เพื่อเป็นการผ่อนปรนกฎระเบียบอนุญาตให้มีการบรรทุกขนส่งสินค้าผ่านด่านระหว่างกันได้สะดวกและจำนวนเที่ยวมากกว่าเดิมกล่าวคือ ทั้งสองประเทศสามารถนำรถบรรทุกขนสินค้าฯผ่านเข้าออกทางจุดผ่านแดนจากเดิมได้แค่ 150 เที่ยว เพิ่มขึ้นเป็น 600 เที่ยวต่อวัน จึงมีการคาดการณ์ว่า ปริมาณและมูลค่าการค้าระหว่างอินเดียและปากีสถานจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากปีที่ผ่านมามีมูลค่า 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 6.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2013-2014
ดังนั้นจากกรณีดังกล่าว ทำให้มองเห็นโอกาสของสินค้าไทยในการบุกตลาดทางภาคเหนือของอินเดีย ซึ่งปากีสถานได้มองเห็นศักยภาพของตลาดดังกล่าวแล้วด้วยการจัดงานแสดงสินค้า “MADE IN PAKISTAN” เมื่อวันที่ 22 — 26 มีนาคม 2555 ที่เมือง CHANDIGARH
หากผู้ประกอบการและผู้ส่งออกไทยสามารถหาพันธมิตรทางการค้ากับผู้นำเข้าอินเดียตอนเหนือ หรือผู้นำเข้าปากีสถานตอนใต้ แล้วอาศัยช่องทางพิเศษดังกล่าวผลักดันสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดอินเดียตอนเหนือโดยเน้นเมืองเป้าหมายไปที่ CHANDIGARH ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษที่มีความมั่งคั่งและประชากรมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงที่สุดในอินเดียคือ 110,676 รูปี(ประมาณ 77,500.-บาท) รวมทั้งเป็นประตูทางการค้าสู่ภาคเหนือตอนบนของอินเดีย ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้สินค้าไทยกระจ่ายไปภาคเหนือและทะลุผ่านไป ยังตลาดประเทศปากีสถาน
สคต.กรุงนิวเดลี
พฤษภาคม 2555