ไตรมาสแรก ปี 2555: สถานการณ์เศรษฐกิจ และการค้าของหนิงเซียะ
1.1 ไตรมาสแรก ปี 2555 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเขตปกครองตนเองหนิงเซียะ มีมูลค่ารวม 38,500 ล้านหยวน เติบโตขึ้นร้อยละ 12.2 ดัชนีราคาสินค้าผู้บริโภค (CPI) เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าโดยเฉลี่ยที่ร้อยละ 2.1 โดยราคาสินค้าอาหารเฉลี่ยสูงขึ้นถึงร้อยละ 5.5 ส่งผลกระทบให้CPI ปรับตัวสูงขึ้นกว่าร้อยละ 83 สำหรับรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชาชนในเมือง คือ 4,965.4 หยวน เติบโตขึ้นร้อยละ 16.5 รายได้เฉลี่ยต่อหัวของเกษตรกร 1,797.3 หยวน เติบโตขึ้นร้อยละ 14.1 ด้านมูลค่าการค้าปลีก รวม 13,230 ล้านหยวน เติบโตขึ้นร้อยละ 16.5
1.2 ช่วง 3 เดือนแรกปี 2555 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของหนิงเซียะ รวม 436 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวลดลงร้อยละ 15.2 แบ่งเป็นมูลค่าการส่งออก 291 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าการนำเข้า 145 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวลดลงร้อยละ 14.5 และ 16.5 ตามลำดับ
ด้านมูลค่านำเข้า-ส่งออก ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูง แม้ว่าช่วงไตรมาสแรกจะมีอัตราการขยายตัวลดลงร้อยละ 21.8 แต่มูลค่าการนำเข้าและส่งออกเครื่องจักรกล และอุปกรณ์ไฟฟ้ายังคงขยายตัวขึ้นร้อยละ 14.7 นอกจากนี้การส่งออกเสื้อขนแกะ และด้ายขนแกะ ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดการส่งออกสูงขึ้นกว่า 1.45 เท่า และ 1.65 เท่า ตามลำดับ
สาเหตุหลักที่ทำให้การส่งออกขยายตัวลดลง เนื่องจาก มูลค่าส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น และประเทศในแถบยุโรปปรากฏลดลงอย่างเด่นชัด โดยการส่งออกไปยังญี่ปุ่นลดลงกว่าร้อยละ 36.7 หรือคิดเป็นสัดส่วนที่ลดลงกว่าร้อยละ 39.3 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมดของหนิงเซียะ ดึงให้อัตราขยายตัวด้านการส่งออกลดลงกว่าร้อยละ 5.7 ส่วนประเทศส่งออกทางแถบยุโรป เช่น อิตาลี เนเธอร์แลนด์ และเยอรมัน ยอดส่งออกขยายตัวลดลงร้อยละ 33.5, 51.5 และ 24.5 ตามลำดับ นอกจากนี้ มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ อาทิ ยางล้อรถ แร่ซิลิคอนคาร์ไบด์ โลหะแมกนีเซียม แทนทาลัม ไนโอเบียม เบริลเลียม และผลิตภัณฑ์อื่นๆ มีอัตราการขยายตัวลดลงมากกว่าร้อยละ 30
1.3 ช่วง 3 เดือนแรก ปี 2555 มูลค่าเงินลงทุนจากอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รวม 19,380 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวขึ้นร้อยละ 16.5 แบ่งเป็น อุตสาหกรรมเบา 1,890 ล้านหยวน และอุตสาหกรรมหนัก 17,490 ล้านหยวน ขยายตัวขึ้นร้อยละ 14.2 และ 16.8 ตามลำดับ ร้อยละ 85.7 ของอุตสาหกรรมสำคัญที่มี การขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมี 2.อุตสาหกรรมถลุงโลหะ 3.อุตสาหกรรมโลหะ 4.อุตสาหกรรมพลังไฟฟ้า 5.อุตสาหกรรมยาสูบ โดยอัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมแต่ละประเภท แบ่งได้เป็นร้อยละ 65.1, 21.8, 23.1, 21.7 และ 26.4 ตามลำดับ ร้อยละ 75 ของปริมาณการผลิตสินค้า/ผลิตภัณฑ์หลักที่สำคัญของหนิงเซียะที่ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์นม (เพิ่มขึ้น 2.6 เท่า) สุราขาว (เพิ่มขึ้น 2.1 เท่า) การแปรรูปน้ำมันดิบ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 79.8) การแปรรูปพลาสติก (ยางไม้ ยางเรซิน) (เพิ่มขึ้นร้อยละ 94.7) อะลูมิเนียม (เพิ่มขึ้นร้อยละ 68.1) โลหะผสม (เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.8) พลังงานไฟฟ้า (เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.7) และการกำเนิดไฟฟ้า (เพิ่มขึ้นร้อยละ 34)
1.4 ด้านมูลค่าลงทุนสินทรัพย์ถาวรของหนิงเซียะช่วงไตรมาสแรก ปี 2555 มีการขยายตัวขึ้นค่อนข้างดี โดยมูลค่าลงทุนรวม 13,593 ล้านหยวน ขยายตัวขึ้นร้อยละ 35.2 แบ่งเป็น การลงทุนภาคอุตสาหกรรมปฐมภูมิ (เกษตรกรรม) มีมูลค่า 175 ล้านหยวน ขยายตัวลดลงร้อยละ 43.8 อุตสาหกรรมทุติยภูมิ (อุตสาหกรรม) มีมูลค่า 8,722 ล้านหยวน เติบโตร้อยละ 36 และอุตสาหกรรมตติยภูมิ (บริการ) มีมูลค่า 4,696 ล้านหยวน เติบโตร้อยละ 41
2.1 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ช่วงไตรมาสแรก ปี 2555 ของนครหยินชวน รวมมูลค่าทั้งสิ้น 22,184 ล้านหยวน ขยายตัวขึ้นร้อยละ 13.3 ดัชนีราคาสินค้าผู้บริโภค (CPI) อยู่ที่ร้อยละ 2.5 โดยที่ราคาสินค้าประเภทอาหาร ยังคงเป็นตัวการสำคัญที่ผลักดันให้ดัชนีราคาสินค้าผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นสำหรับรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชาชนในเมืองอยู่ที่ 5,597 หยวน ขยายตัวขึ้นร้อยละ 16.9 ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อหัวของเกษตรกรอยู่ที่ 2,722 หยวน เติบโตขึ้นร้อยละ 12.5
2.2 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของนครหยินชวนช่วงไตรมาสแรก ปี 2555 อยู่ที่ 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวลดลงร้อยละ 6.8 มูลค่าการส่งออกรวม 178 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าการนำเข้า 71.58 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวลดลงร้อยละ 2.08 และ 16.6 ตามลำดับ สินค้าส่งออกของนครหยินชวน ได้แก่ ยางล้อรถ โลหะแมกนีเซียม อีริโทรมัยซิน และผลิตภัณฑ์จากขนแกะอื่นๆ มีอัตราการขยายตัวลดลง ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการขยายด้านการส่งออกเพิ่มสูงขึ้นค่อนข้างดี ได้แก่ คาร์บอนกัมมันต์ แท่นกลึงและชิ้นส่วนหล่อ เสื้อขนแกะ และด้ายขนแกะ สาเหตุที่การขยายตัวด้านการนำเข้าสินค้าลดลง เนื่องจาก บริษัทนำเข้าสินค้าที่สำคัญมีมูลค่าการนำเข้าสินค้าลดลง ในขณะเดียวกัน การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศค่อนข้างช้าลง ราคาสินค้าภายในตลาดไม่คงที่ นอกจากนี้ ประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างเช่นอเมริกา มีการควบคุมกระบวนการส่งออกผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูง แร่ซิลิคอนคาร์ไบด์ ตลอดจนวัสดุการผลิตอื่นๆ ที่เข้มงวดมากขึ้น สาเหตุเหล่านี้ จึงผลักดันให้อัตราการนำเข้าสินค้าของหนิงเซียะหดตัวลง
2.3 ช่วง 3 เดือนแรก ปี 2555 มูลค่าการค้าปลีกของนครหยินชวน รวมทั้งสิ้น 260 ล้านหยวน เติบโตขึ้นร้อยละ 14.6 เฉพาะมูลค่าค้าปลีกในตัวเมือง รวม 180 ล้านหยวน และมูลค่าค้าปลีกในชนบท รวม 70 ล้าน
หยวน ขยายตัวขึ้นร้อยละ 14.7 และ 14.3 ตามลำดับ ยอดมูลค่าค้าปลีกดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ทิศทางการจำหน่ายสินค้าปลีกของทั้งในตัวเมืองและชนบท ยังคงปรากฏให้เห็นถึงแนวโน้มการขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านมูลค่าการลงทุนสินทรัพย์ถาวร รวม 6,500 ล้านหยวน ขยายตัวขึ้นร้อยละ38
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
พฤษภาคม 2555