รายงานการเข้าร่วมงาน
Symposium on Fine Food + Drink
ณ เมือง Munich สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
Symposium on Fine Food + Drink เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปีเพื่อให้นักธุรกิจและผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมอาหารในประเทศที่พูดภาษาเยอรมัน (เยอรมนี ออสเตรียและสวิสเซอร์แลนด์) มารวมตัวกันเพื่อสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ความรู้ ความร่วมมือ โดยเฉพาะด้านธุรกิจและกลยุทธการตลาด กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 3-4 พฤษภาคม 2555 ณ Kulturhalle Zenith เมือง Munich แคว้นบาวาเรียงานSymposium จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 22 แล้ว จากความร่วมมือของผู้บริหารในวงการอาหารและสมาคม ค้าปลีกแคว้นบาวาเรีย จัดเป็นงานสำคัญในธุรกิจอาหารของประเทศในกลุ่มที่พูดภาษาเยอรมัน โดยงานจะเริ่มที่ Reception ในช่วงตอนเย็นวันแรก การจัดประชุม การจัดแสดงสินค้า และ Gala Dinner ในวันรุ่งขึ้น
1. เป็นที่พบปะนัดหมายของบุคคลในวงการอาหาร โดยเฉพาะด้านธุรกิจ ที่มีความสมดุลระหว่างภาคทฤษฎีและปฏิบัติ โดยมีการสัมมนาแลกเปลี่ยนความเห็นแสดงวิสัยทัศน์ กลยุทธการตลาด ใน Trade Conference และการให้ทดลองชิมอาหาร เครื่องดื่มในส่วน Marketplace
2. ผู้เข้าร่วมงานจะได้รู้จักกับบุคคลในระดับผู้ตัดสินใจของบริษัทอย่างง่ายดาย เนื่องจากงานไม่ใหญ่และ บรรยากาศเป็นกันเอง รวมทั้งบุคคลระดับสูงของบริษัทมักมาร่วมงานนี้ และหากสนใจสินค้าใด ก็จะบอกต่อให้ฝ่ายจัดซื้อดำเนินการต่อไป
1. The Reception Evening — งานต้อนรับในช่วงแรกให้คนรู้จักแนะนำตัวกันในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย จัดในวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 เวลา 19.00 — 23.00 น. โดยงานจัดในอาคารแสดงสินค้าที่ประกอบด้วยคูหาสินค้าต่างๆ และคูหาของประเทศในเอเชียหรือสินค้าจากเอเชีย 7 ชาติ ใน 1 อาคาร Theme ของงานในปีนี้คือ Asia แต่การให้ชิมอาหาร กลับเป็นในลักษณะงานเลี้ยง โดยใช้ภาชนะกระเบื้องเซรามิคและส้อมมีดสเตนเลส แทนการให้ชิมแบบงานแสดงสินค้าทั่วไปที่ใช้ถ้วยจานช้อมส้อมพลาสติคหรือกระดาษแบบใช้แล้วทิ้ง และมีบริกรมาบริการเครื่องดื่ม เก็บภาชนะตามโต๊ะแบบยืนกินที่วางไว้ทั่วงานตลอดเวลา
2. Trade Conference — จัดวันที่ 4 พฤษภาคมช่วงเช้าและบ่ายในอาคารใกล้กับส่วนแสดงสินค้า แต่แยกออกจากกัน ลักษณะงานเป็นการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญ/ผู้มีอำนาจสั่งซื้อในอุตสาหกรรม/ธุรกิจอาหาร ภายใต้สโลแกน “Von Mensch zu Mensch-Mit gut ausgebildeten und motivierten Mitarbeitern zum Erfolg” (จากประชาชนถึงประชาชน - จากกลุ่มเพื่อนร่วมงานผู้มีความรู้และแรงจูงใจสู่ความสำเร็จ) โดยมีผู้เข้าร่วมการสัมมนาที่เป็นบริษัทใหญ่ ๆ อาทิ Mr. Alain Caparros ประธานบริหาร ReWe Group, ผู้บริหาร dm Mr. Erich Harsch, ประธานบริหาร Edeka Dr. Reinhard Schutte รวมทั้ง อดีตเทรนเนอร์ของทีมชาติแฮนด์บอล Mr. Heiner Brand ที่พูดเรื่อง teamwork ในช่วงการจัดสัมมนา “Von Mensch zu Mensch” ได้มีผู้เข้าร่วมรายสำคัญๆ อาทิ Mrs. Martina Sandrock ประธานบริหาร iglo GmbH, Mr. Torsten Toeller ผู้บริหาร Fresssnapf-Grupp, Dr.Gotthard Kirchner เจ้าของ Rosen-Eiskrem-GmbH, Mr. Harn Hamburg ผู้บริหาร Ferrero รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญในการสร้างความแรงจูงใจให้ลูกค้า Mr. Paul Johannes Baumgartner โดยในช่วงการเปิดสัมมนาอดีตเทรนเนอร์ของทีมชาติแฮนด์บอล ย้ำว่า”ความสำเร็จมาจากการใช้หัวสมอง” การสร้าง Teamwork เป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่เข้มงวดเกินไป , ผู้บริหาร ReWe Group พูดในหัวข้อการทำงานเป็นทีมและการบริหารกิจการในมุมมองของผู้บริหาร, ผู้บริหาร dm พูดในหัวข้อการประเมินผลลูกน้อง การบรรยายใช้ภาษาเยอรมัน แต่มีล่ามแปลภาษาอังกฤษในตู้แปลภาษาและหูฟังสำหรับชาวเอเชียที่เข้าร่วมงาน
สิ่งที่น่าสนใจคือรูปแบบอาคารและการตกแต่ง โดยอาคารมีลักษณะเหมือนโกดังเก่าที่ข้างนอกโทรม มีบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่เยอรมนีตะวันออกมากกว่า Munich ทางเข้างานเป็นกำแพงเปลือยไม่ทาสีเก่าๆ สลับไปมา ในอาคารด้านบนเปลือยไม่มีฝ้า เสาเหล็กขนาดใหญ่ แต่ผู้จัดงานจัดแสงสี ส่วนตกแต่ง เช่น แชนเดียเลียร์แบบปราสาทแดร๊กคูล่า ไฟดิสโก้ นำสินค้ามาวางบนชั้นหลังเวที โดยชั้นวางบางส่วนมียอดเหมือนศาลพระภูมิ ซึ่งการจัดแสดงในโกดังเก่าดูเหมือนเป็น trend ในขณะนี้
3. The Marketplace — ช่วงที่ผู้เข้าฟังสัมมนาพักจากการฟังอภิปรายมาดื่มกินชิมอาหาร ชมสินค้าในงานงานจัดในวันที่ 4 พฤษภาคม ตั้งแต่ 8.00—16.15 น. มีบริษัทในวงการอาหารรายสำคัญในเยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ ที่เข้าร่วมออกงาน เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า/พบปะแลกเปลี่ยนความรู้ ประมาณ 100 บริษัท อาทิ Barilla Deutschland GmbH, Ferrero Deutschland GmbH, Haribo GmbH, Nestle Deutschland GmbH, Paulaner Brauerei GmbH & Co.KG, Rotkapchen-Mumm Sektkellereiern GmbH & Co.KG, Lindt & Sprungli GmbH ฯลฯ รวมทั้งการประชาสัมพันธ์สินค้า อาหารจากประเทศ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ไทยและเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีการแสดงบนเวทีที่ผู้จัดงานนำการฟ้อนรำของเอเชียชาติต่างๆ รวมทั้งไทยมาจัดแสดง และให้นางรำที่ผู้จัดงานจ้างสาธิตการแกะสลักผลไม้ตามมุมในงานด้วย
4. Gala Dinner — เชิญแขกจำนวนประมาณ 500 รายมาทานอาหารแบบ seating ณ Hotel Bayernrische Hof กลางเมือง Munich ตั้งแต่เวลา 20.00-24.00 น. และมี After Party ดื่มเหล้า cocktail เต้นรำหลังจากนั้น งานจัดได้สนุกน่าสนใจด้วยโชว์กายกรรมจากจีนที่หัวหน้าทีมเป็นชาวเยอรมัน แต่ผู้แสดงเป็นจีนทั้งหมด ดนตรีประกอบเป็นไวโอลินที่สีอย่างสนุกสนานจากชาวอิตาเลี่ยนอาหารเสิร์ฟประมาณ 5-6 courses ที่พยายามใช้กุ๊กฝรั่งในโรงแรมทำอาหารจากเอเชีย เช่น “Green Papaya Salad” หรือส้มตำที่หน้าตาดูไม่ออก เนื่องจากมะละกอถูกฝานค่อนข้างละเอียดและถูกทับด้วยกุ้งตัวใหญ่ แต่รสชาติพอทานได้ อย่างไรก็ตามพิธีกรแจ้งบนเวทีว่า ผู้ร่วมรับประทานชอบจานนี้ (เนื่องจากเป็นฝรั่งเกือบ 100% มีเอเชียที่มาร่วมงานเพียง 10 กว่าราย) หรือนำกล่องไม้ไผ่สำหรับใส่ติ๋มซำมาใส่ก๋วยเตี๋ยวหลอด ของหวานเป็นเค๊กมูสกับไอศครีมรสมะม่วงเชอร์เบท
ปีนี้เป็น theme เอเชียที่ผู้จัดงานพยายามตกแต่งและมีกิจกรรมทุกอย่างเป็นเอเชียอย่างมาก ทำให้น่ารัก น่าเอ็นดู เช่น พิธีเปิดมีการเชิดมังกรตัวน้อย (ผู้เชิดเป็นชาวเยอรมัน) จุดรับฝากโค้ทมีโคมแดง แมวกวักสีทองของญี่ปุ่นเกือบ 20 ตัวทำให้ตอนแรกนึกว่าอาจไม่มีผู้ชมงานมาก จึงมีแมวกวักมากขนาดนี้ จุดลงทะเบียนมีภาพที่รองประธานไปเยี่ยมชมตลาดที่ฮ่องกง เวียดนาม จีน และร้านชำเอเชียใน Munich โดย สคต. เบอร์ลินพ้อว่าทำไมไม่มีภาพที่ถ่ายในไทย ได้รับคำตอบว่าภาพถ่ายในไทยมาก แต่อยู่อีกที่หนึ่ง (ซึ่งไม่ทราบว่าปรากฎอยู่ที่ใด) ในอาคาร บริษัท Kreyenhop + Kluge นำของตกแต่งพวกรถตุ๊กๆ ตุ๊กตาไม้แกะสลักรูปผู้หญิงไหว้ ร่มทางเหนือ และของตกแต่งจากประเทศ เอเชียอื่นๆ อีกมากมาวางไว้ตามคูหาและหน้าเวทีมากมาย ตามคูหาพบพระพุทธรูปนำมาตกแต่งจำนวนมาก เป็นที่สังเกตว่าจีนไม่ได้เข้าร่วมงานในลักษณะประเทศ หรือ partner country แบบงาน Cebit (คอมพิวเตอร์เทคโนโลยี) หรืองาน Practical World (อุปกรณ์ hardware) มีเพียงคูหาสินค้าบางยี่ห้อ แต่ก็จัดแสดงวัฒนธรรมกิจกรรมจากจีนมากอย่างไรก็ตาม คูหา 2 ใน 3 ของงานเป็นสินค้าที่ผลิตในเยอรมนี โดยเฉพาะรัฐทางใต้ คือ Bavaria และBaden-Wuerttemberg ซึ่งรวมถึงบริษัทที่มีชื่อเสียงในวงการอาหาร ขนม เครื่องดื่มต่างๆ
จัดในลักษณะโปร่งโล่งบนพื้นที่ 100 ตารางเมตร รูปแบบ contemporary เรียบง่าย แฝงความเป็นไทยด้วยหลังคา ศาลาไทยตรงกลาง และส่วนตกแต่ง ใช้สีเนื้อไม้ตามธรรมชาติ เพื่อส่งสินค้าให้เด่น และสามารถนำสินค้าหลากหลายยี่ห้อมาแสดงได้ ส่วนจัดแสดงแบ่งเป็น
1. คูหาประชาสัมพันธ์ เคาน์เตอร์รูปตัว L ที่แบ่งด้านหนึ่งเป็นส่วนให้ข้อมูลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ อีกส่วนหนึ่งเป็นของ ททท.
2. ส่วนสาธิตการปรุงอาหาร ให้ชิม และแกะสลักผลไม้
3. ส่วนจัดแสดงสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภท Grocery จากผู้นำเข้า Kreyenhop + Kluge และบางส่วนจาก ส. ขอนแก่นซึ่งจ้างโรงงานในโปแลนด์ผลิต (หากส่งเข้ามาเยอรมนีโดยตรง อาจติดปัญหาเรื่องสุขอนามัยเนื้อหมู)
4. ส่วนจัดแสดงสินค้าประเภทไก่แช่แข็ง ผักผลไม้สดจากบริษัทผู้นำเข้า Valio ที่นำเข้าสินค้าประเภทเนื้อสัตว์และอาหารปรุงสำเร็จจาก CP และมีบริษัทลูกชื่อ Koerner Agro นำเข้าผักผลไม้สดจากไทย
5. เคาน์เตอร์เบียร์สิงห์ ให้ทดลองชิม
1. จำนวนผู้ชมงานภาพรวม ปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 1,000 คน โดยมาจากวงการธุรกิจ/ฝ่ายจัดซื้อ 500 ราย และ 170 รายจากหน่วยงาน/องค์กรด้านการค้า
2. การชิมอาหารไทย คืนวันที่ 3 พฤษภาคม คูหาไทยทำอาหารเมนูแกงเขียวหวาน 1 หม้อ(ภาชนะลักษณะหม้อสี่เหลี่ยมจตุรัสที่มีฐานข้างล่างแบบที่เสร์ฟในงานเลี้ยงบุฟเฟ่ต์) และต้มยำ 1 หม้อ รวมทั้งหุงข้าว 3 หม้อ แจกแขกจนเกือบหมด สำหรับตลอดวันที่ 4 พฤษภาคม แจกตัวอย่างอาหารเมนูที่มีกุ้งเพื่อส่งเสริมกุ้งไทย ได้แก่ ผัดไทยกุ้ง แกงเขียวหวานกุ้ง และต้มข่ากุ้ง อย่างละ 3 หม้อ รวมทั้งแหนม หมูยอ กุนเชียงที่ ส.ขอนแก่นให้มาจัดแสดงและทอดให้แขกชิม และหุงข้าวรวม 4 หม้อ
3. การแลกนามบัตรกับผู้เข้าร่วมงานและบริษัทในงาน ดังเอกสารแนบ
4. สินค้าไทยในบริษัทผู้เข้าร่วมงานอื่น ในงานพบสินค้าไทยประเภทกุ้งที่นำเสนอแบบไทยอย่างสวยงามในใบตองที่นำมาเย็บติดกันเป็นภาชนะสี่เหลี่ยมเล็กๆ โดยเป็นสินค้ากุ้งแช่แข็งของบริษัท Solomon ที่ได้รับแจ้งว่าผลิตในไทย หรือ การให้ชิมปรุงอาหารมัสมั่นไทยกับของบริษัท Feinkost Dittmann ผู้นำเข้าสินค้าประเภท Grocery ของไทย และ ผลไม้อบแห้ง ซึ่งสามารถประยุกต์ใส่อาหารอื่นได้ เช่น ใส่ในแยม spread เป็นต้น
5. การมอบรางวัลคูหาสวยงาม ผู้จัดงานได้ให้ผู้ร่วมงานโหวตเลือกคูหาที่สวยงามที่สุด แต่ก็ให้รางวัลพิเศษแก่คูหาของประเทศเอเชียทั้ง 7 ประเทศ โดยมีการมอบรางวัลบนเวที และใบประกาศนียบัตรเป็นภาษาของประเทศนั้นๆ ด้วย สร้างความประทับใจแก่ผู้เข้าร่วมงานเอเชียมาก
1. การเข้าร่วมงาน Symposium on Fine Food & Drinks 2012 เป็นงานที่แตกต่างจากการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเพื่อการเจรจาการค้า/ธุรกิจตรงที่ลักษณะงานมีกิจกรรมทั้งส่วนการสัมมนาและการจัดแสดงสินค้าที่มีบรรยากาศในลักษณะการพบปะสังสรรค์แบบงานเลี้ยง ทำให้การเข้าถึงนักธุรกิจกลุ่มเป้าหมายเป็นไปได้โดยง่ายกว่างานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ โดยผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่เป็นบุคคลระดับตัดสินใจของบริษัท ที่ไม่ได้ซื้อขายกันทันทีโดยตรง แต่เป็นงานลักษณะ soft sell ให้ทดลองชิม เพื่อนำไปสู่การแจ้งให้บุคลากรในบริษัทติดต่อเจรจาการค้าต่อไป หากสนใจสินค้าใดๆ ในงานนี้
2. Soellner Communications AG ผู้จัดงานสามารถจัดงานนี้ได้อย่างมีความสร้างสรรค์ ทำให้เกิดความแตกต่างและสนุก เช่น อาคารจัดสัมมนา การตกแต่ง/กิจกรรมที่เน้นความเป็นเอเชียอย่างมาก ลักษณะงานในส่วน Market Place ที่คล้ายงานเลี้ยง หรืออาหารใน Gala Dinner ทำให้ไม่น่าเบื่อ น่าจดจำ และผู้เข้าร่วมงานชาวเอเชียรู้สึกดีที่พยายามเอาใจตน
หมายเหตุ : ในอดีตเกือบ 10 ปีมาแล้ว กรมฯ เคยนำสินค้า OTOP ที่จำหน่ายผ่านบริษัทผู้นำเข้า Kreyenhop + Kluge ไปจัดแสดงในงาน Symposium on Fine Food & Drinks ที่ขณะนั้นจัดที่เมือง Karlsruhe ซึ่งอยู่ทาง ตะวันตกเฉียงใต้ ติดชายแดนประเทศฝรั่งเศส
*********************************************
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน
พฤษภาคม 2555