ห้างซุปเปอร์มาร์เกตในเมืองเซินเจิ้นเริ่มทำตลาดด้วยสินค้าแบรนด์ของตัวเอง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 21, 2012 16:08 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ห้างซุปเปอร์มาร์เกตในเมืองเซินเจิ้นเริ่มทำตลาดด้วยสินค้าแบรนด์ของตัวเอง

ปัจจุบัน ผู้บริโภคในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง สามารถเลือกซื้อสินค้าในซุปเปอร์มาร์เกตได้หลากหลายมากขึ้น เนื่องจากห้างซุปเปอร์มาร์เกตหลายแห่งเริ่มหันมาทำตลาดด้วยสินค้าแบรนด์ของตัวเอง (Own Brand / House Brand) เช่น ยี่ห้อ Topvalu ซึ่งวางขายอยู่ในจัสโก้ Great Value ของวอลมาร์ท และ Runzhijia ที่ CR Vanguard

การที่สินค้า Own Brand สามารถตอบโจทย์ด้านราคาต่อความคุ้มค่าได้ จึงได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค ทำให้สัดส่วนของสินค้า Own Brand ต่อสินค้ายี่ห้อทั่วไปที่มีอยู่ในตลาดมีการเพิ่มขึ้นทุกๆปี โดยสินค้า Own Brand หลายชนิดมีราคาที่ถูกกว่าสินค้ายี่ห้อทั่วไปในท้องตลาด 5% ถึง 20% แต่สามารถทำกำไรได้มากกว่า 5% ถึง 15% จึงถือเป็นเหตุผลสำคัญในการออกสินค้า แบรนด์ของตัวเองและเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด

ข้อได้เปรียบของการขายสินค้า Own Brand คือการประหยัดต้นทุน เนื่องจากตัวสินค้าสามารถถูกขนส่งโดยตรงจากโรงงานผลิตถึงศูนย์กระจายสินค้าของห้างซุปเปอร์มาร์เกตนั้นๆ โดยที่ไม่ต้องผ่านคนกลางและไม่ต้องมีค่า Royalty Fee มาเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังสามารถประหยัดค่าโฆษณาและค่าโปรโมชั่นได้ จึงทำให้ราคาขายของสินค้า Own Brand ถูกกว่าสินค้ายี่ห้อทั่วไป

ปัจจุบัน ตัวเลขกำไรจากการขายสินค้าอุปโภค-บริโภคของห้างซุปเปอร์มาร์เกตลดลงอย่างเห็นได้ชัด สืบเนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นระหว่างกลุ่มซุปเปอร์มาร์เกต รวมถึงราคาต้นทุนของวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้การพัฒนาสินค้าแบรนด์ของตนเองกลายเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการแข่งขัน โดยกลุ่มซุปเปอร์มาร์เกตทั้งหลายสามารถคัดเลือกผู้ผลิตที่ให้ราคาดีที่สุดในการผลิตสินค้าของตนเพื่อเพิ่มข้อได้เปรียบทางด้านการขาย นอกจากนี้การที่สั่งผลิตเป็นจำนวนมากยังทำให้ห้างซุปเปอร์มาร์เกตมีอำนาจในการต่อรองมากขึ้นอีกด้วย

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือห้างซุปเปอร์มาร์เกตคาร์ฟูร์ในเมืองเซินเจิ้นที่ขายผ้าห่มยี่ห้อของตัวเองในราคา 79 หยวน ในขณะที่ราคาต่ำสุดของผ้าห่มยี่ห้ออื่นๆอยู่ที่ 169 หยวน โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็ยินดีเลือกซื้อสินค้าเหล่านี้มากกว่าสินค้าที่เป็นยี่ห้อทั่วไป ตราบใดที่สินค้านั้นยังมีคุณภาพดี

การทำสินค้าแบรนด์ของตนเองหรือ Own Brand นั้นถือเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันสำหรับห้างซุปเปอร์มาร์เกตที่มีขนาดใหญ่และมีหลายสาขาเนื่องจากจะสามารถเข้าถึง EOS (Economy of scale) มีต้นทุนในการผลิตที่ถูกและอำนาจในการต่อรองที่สูงขึ้น โดยกลยุทธนี้ถือเป็น จุดเสี่ยง (Threat) ที่มีผลกระทบผู้ส่งออก-นำเข้าของไทยที่วางขายสินค้าผ่านช่องทางห้างซุปเปอร์มาร์เกตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของราคา ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยควรปรับ กลยุทธ์ในการขายสินค้าเข้ามาในตลาดจีน โดยการวางแผนจัดการส่วนผสมทางการตลาด (Marketing Mix: 4P) ให้รัดกุมยิ่งขึ้น ได้แก่

1.Product: มีการทำวิจัยศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคจีนในเมืองหรือมณฑลนั้นๆ เพื่อให้สามารถส่งออกสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้

2.Price: การตั้งราคาขายที่อิงกับกำลังซื้อและ/หรือการรับรู้ทางด้านราคาของกลุ่มเป้าหมาย (Price Perception)

3.Place: เพิ่มช่องทางการวางขายสินค้า ที่นอกเหนือไปจากห้างซุปเปอร์มาร์เกต 4.Promotion: การทำโปรโมชั่นเช่นการโปรโมทสินค้า ณ จุดขาย หรือที่เรียกว่า Point of Purchase Promotion เช่น การแจกฟรี (Sample) เป็นต้น

---------------------------------------

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว

พฤษภาคม 2555


แท็ก เซินเจิ้น  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ