เช็กแถลงผลการส่งออกพุ่งขึ้นกว่า 6 พันล้านบาท
การแถลงผลการส่งออก ของปี 2554 ซึ่งนับว่ามีมูลค่าสูงที่สุดเป็นครั้งแรก คือ มูลค่า 3 พันล้านเช็กคราวน์ ( ประมาณ 6 พันล้านบาท ) เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 13.3 จากปี 2553 และได้คาดว่าการส่งออกในปี 2555 จะสามารถขยายตัวได้ดี โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเช็ก Mr. Martin Kuba ได้แถลงนโยบายในด้านเศรษฐกิจและผลการส่งออกในรอบปี 2554 ซึ่งรัฐบาลได้เห็นชอบกับกลยุทธ์ของการแข่งขันการค้าระหว่างประเทศ สำหรับปี 2555-2563 โดยนำธงให้การส่งออกเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศและกำหนดวิสัยทัศน์ให้สาธารณรัฐเช็กเป็นหนึ่งใน 20 ประเทศของโลกที่มีศักยภาพการแข่งขันสูงสุด ในอีก 8 ปีข้างหน้า
กลยุทธ์หลักของการส่งออก ปี 2555-2563 มีเป้าหมายสำคัญคือการเพิ่มจำนวนนักธุรกิจผู้ส่งออกรวมถึงมูลค่าการส่งออกในลักษณะที่ยั่งยืนและระยะยาว โดยจะสร้างผลดีต่อการเพิ่มอัตราจ้างงานและรายได้ของภาครัฐและคาดว่ามูลค่าการส่งออกจะเพิ่มรายได้ต่อคนมากขึ้น โดยคิดเป็นอัตราร้อยละ 25 และจำนวนผู้ส่งออก เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 15 ซึ่งจะเพิ่มผู้ส่งออกระดับ SMEs เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 50 ในปี 2563 เช่นกัน
อุตสาหกรรมสำคัญของการส่งออก คือ วิศวอุตสาหกรรม ได้แก่ เครื่องจักรกล เครื่องมือและอุปกรณ์เครื่องจักรต่างๆ และอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า เป็นต้น รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ในสาธารณรัฐเช็ก ที่มีอัตราการขยายตัวต่อปี ประมาณร้อยละ21.2 โดยตลาดการส่งออกหลัก คือ เยอรมัน และกลุ่มอียู รวมกว่าร้อยละ 80 ของการส่งออกทั้งหมด การปรับพันธมิตรทางการค้า จะเน้นประเทศนอกกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจยุโรป ให้มากขึ้น ซึ่งกำหนดประเทศที่ให้ความสำคัญ 12 ประเทศ ได้แก่ บราซิล จีน อินเดีย อิรัก คาร์ซัคสถาน เม็กซิโก รัสเซีย เซอร์เบีย ตุรกี ยูเครน สหรัฐอเมริกาและเวียดนาม และกำหนดกลุ่มประเทศให้ความสนใจพิเศษ 25 ประเทศ อาทิเช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อัฟริกาใต้ แคนาดา นอร์เวย์ สิงคโปร์ รวมถึงประเทศไทย
สำนักงาน กรุงปราก
22 พฤษภาคม 55