ตลาดระดับบนกับโอกาสของสินค้าไทยในจีน

ตลาดระดับบนกับโอกาสของสินค้าไทยในจีน

ตลาดระดับบนหรือตลาดไฮเอนด์ ( High-end market ) คือ ตลาดสำหรับลูกค้าชั้นดี มีกำลังซื้อสูง มีการบริโภคผลิตภัณฑ์ชั้นเยี่ยม ราคาสูง เป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่มีรายได้และฐานะดี จากอดีตสินค้า ไฮเอนด์เป็นสินค้าสำหรับกลุ่มคนผู้มั่งคั่ง ร่ำรวยเท่านั้น แต่ปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนแปลงไป คนจีนรุ่นใหม่มีความต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตมากขึ้น พร้อมๆกับทรัพย์สินเงินทองที่หามาได้มากขึ้น ส่งผลให้สินค้าไฮเอนด์ คุณภาพระดับพรีเมี่ยม โดยเฉพาะสินค้าแฟชั่นหรูหราส่องประกายรุ่งโรจน์ในจีน เพราะคนจีนรุ่นใหม่ เป็นพวกสุขนิยม ชอบให้ของขวัญชั้นดีกับตัวเอง มีไลฟ์สไตล์ที่หรูหรา รักการ ช็อปปิ้ง มีสังคม เพื่อนฝูงมาก ปาร์ตี้บ่อย ใช้ของดีมีคุณภาพ ซึ่งสินค้าแบรนด์ดังทั้งหลาย ก็หันมาทำตลาดเพื่อสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ ที่นับวันจะมีมากขึ้น ไม่เพียงแต่คนรุ่นใหม่เท่านั้น ยังมีกลุ่มผู้บริหารระดับสูงขององค์กร ที่มีรายได้ดีกว่ามนุษย์เงินเดือนทั่วไป มีรสนิยมดี ทั้งยังมีความรู้และชื่นชอบสินค้าระดับไฮเอนด์กับ แบรนด์เนมหรูอยู่แล้ว และเมื่อกำลังทรัพย์พร้อม ลูกค้าเหล่านั้นก็พร้อมที่จะบริโภคสินค้าระดับสูง และแบรนด์ที่หรูหราขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่สินค้าไทยจะต้องหาโอกาสตอบสนองความต้องการเพื่อผลระยะยาว หากมีเป้าหมายในการที่จะเจาะตลาดลูกค้าระดับบน

1. สร้างการเชื่อมโยงความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม (creative & innovative) ทั้ง ทางด้านดีไซน์ และฟังก์ชันการใช้งาน

2. ใช้วัสดุที่มีคุณภาพดีที่สุด เช่น หนังจระเข้ชั้นดีที่มาจากภูมิภาคเขตร้อน หรือการแกะสลัก จากช่างผู้ชำนาญฯลฯ

3. ใช้วัสดุที่มีค่าและมีราคาแพง มีความสวยงามโดดเด่นเป็นส่วนประกอบ

4. เลือกผลิตสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย หรือผลิตภัณฑ์จากจังหวัดที่มีขึ้นชื่อใน การผลิตสินค้านั้นๆ เช่น ถ้วยชามเบญจรงค์

จากจังหวัดอยุธยา เป็นต้น

5. เลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นงานฝีมือ ใช้ความประณีตสูง มีรายละเอียดซับซ้อน และต้องใช้เวลา ในการผลิต

6. ผลิตในจำนวนจำกัด (limited edition) ช่วยสร้างภาพ "exclusivity" ทำให้สินค้าเป็น ของหายาก และดูพิเศษยิ่งขึ้น

7. คุณภาพสูงเป็น "best of the best quality" และมีระบบการรับประกันซ่อมแซมสินค้า หรือมี registered

number code

8. เกณฑ์การผลิตและวัตถุดิบ ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นธรรมชาติ ปลอดภัยจากสารเคมี

9. สร้างเรื่องราวหรือตำนานให้กับสินค้า

10. ด้านการประชาสัมพันธ์สินค้า ควรออกงานร่วมกับภาครัฐ ในงานแสดงสินค้าใน ต่างประเทศ เพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จักทั้งในกลุ่ม

ผู้นำเข้าและผู้บริโภค

ทั้งนี้ การที่สินค้าไทยจะขยับไปจับตลาดบนได้นั้น ต้องหาวิธีสร้างความแตกต่างด้านอื่น เช่น เพิ่มบริการส่งสินค้าถึงบ้าน ขายสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยและใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ฯลฯ

จากสภาพเศรษฐกิจจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ประชาชนมีรายได้มากขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมในการบริโภคเปลี่ยนไป กล่าวคือ ผู้บริโภคมีความพิถีพิถันมากขึ้นในการซื้อสินค้าและบริการ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อไม่นานมานี้มีการตรวจพบสารปนเปื้อนอาหารในจีน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเรื่องความปลอดภัยของอาหารภายในประเทศ ทำให้ผู้บริโภคบางคนลงทุนซื้ออาหารที่มีโลโก้การันตีด้านความปลอดภัยจากต่างประเทศเพื่อความสบายใจ เป็นต้นทั้งนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคก็ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า ดังนี้

• สินค้าอาหาร : ผู้บริโภคจีนมีความกังวลเรื่องสารเติมแต่งสินค้าอาหาร และมีความไม่เชื่อถือกับผู้ผลิตจีน เนื่องจากประเทศจีนเคยเกิดเหตุการณ์นมผสมสารเมลามีนและข้าวหอมอู่ฉางที่ใส่สารเติมความหอม เป็นต้น จึงทำให้ผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้าอาหารจากต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าอาหารของทารกและสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพ
• เครื่องใช้สอยในชีวิตประจำวัน : ผู้บริโภคนิยมเลือกซื้อเครื่องใช้สอยในชีวิตประจำวันที่มียี่ห้อเป็นที่นิยมของตลาด โดยผู้บริโภครู้จักยี่ห้อของเครื่องใช้สอยต่างๆ จากโฆษณาของสื่อมวลชน เช่น Johnson & Johnson P&G และ Unilever และปัจจุบัน มีแนวโน้มนิยมการใช้สินค้าที่มีส่วนผสมจากสมุนไพรธรรมชาติ เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลถึงการใช้สารเคมีมากเกินไปจะมีพิษต่อร่างกาย
• เครื่องใช้ไฟฟ้า : ผู้บริโภคจีนส่วนมากบริโภคสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากในประเทศและต่างประเทศ และชอบการออกแบบสวยงามทันสมัย ถ้ามีการใช้งานแบบเอนกประสงค์ เข้ากับการตกแต่งบ้าน คุณภาพดี จะได้รับความนิยมมาก
• รถยนต์ : ผู้บริโภคจีนบริโภครถยนต์ที่ผลิตในประเทศจีนมากขึ้น เนื่องจากรูปแบบมีความหลากหลายและราคาจาก 3-4 หมื่นหยวนถึงหลายแสนหยวนมีอย่างครบถ้วน ผู้บริโภคในตลาดล่าง ตลาดกลางสามารถเลือกซื้อได้ตามตลาด แต่ตลาดบนยังนิยมซื้อรถยนต์ที่ผลิตจากต่างประเทศ เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้นิยมบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยตามกระแสความนิยมของโลก และสินค้าฟุ่มเฟือยของประเทศจีนยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในตลาดบนได้

1.กลุ่มชนชั้นกลาง

• เป็นผู้บริโภคกลุ่มหลักในจีน มีรายได้ ดูแลใส่ใจสุขภาพนิยมซื้อสินค้าในห้างและร้าน Brand name มากขึ้น

2.ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก

• จากนโยบาย "ลูกคนเดียว" ทำให้พ่อแม่ต้องทุ่มเทหาสิ่งที่ดีที่สุดมาให้ลูก เด็กจะได้รับการดูแลอย่างดีจากสมาชิกในครอบครัว

พ่อแม่จึงใช้เงินมากมายในการหาซื้อสินค้าที่ดีที่สุด เช่น อาหารเด็กออร์แกนิค ผลิตภัณฑ์นมผงออร์แกนิค ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเด็ก

ออร์แกนิค เป็นต้น

3.กลุ่มผู้บริโภคที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ

• ผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้ความสำคัญต่อความสะดวกสบายของชีวิต สภาพแวดล้อมการเติบโตของรุ่นลูกคนเดียวอยู่ในยุคบริโภคนิยมและ

ได้รับผลกระทบจากกระแสความคิดของประเทศตะวันตก ซึ่งต่างจากคนรุ่นสมัยก่อนที่เน้นแต่ขยันทำงานและเก็บเงิน จึงทำให้

รุ่นลูกคนเดียวให้ความสาคัญต่อความสุขสบายและความเพลิดเพลินจากสินค้าและบริการระดับไฮเอนด์มากขึ้น

4.กลุ่มนักธุรกิจและข้าราชการ

• ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีรายได้สูงและมีหน้ามีตาในสังคม และมีรายได้สูงจึงยอมจ่ายเพื่อสิ่งฟุ่มเฟือย เพื่อบ่งบอกฐานะในสังคม

5.กลุ่มคนรุ่นใหม่

• วัยรุ่นยุคใหม่ใส่ใจเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกและดูแลตัวเองมากขึ้น แม้จะมีรายได้ไม่มากแต่ก็เต็มใจจ่ายแพงขึ้นเพื่อความสุขสบาย และมักใช้จ่ายตามอารมณ์ นิยมการไปนวดสปาเพื่อความผ่อนคลาย

6.ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในจีน

• ผู้บริโภคหลัก คือชาวยุโรป อเมริกาเหนือ ญี่ปุ่นและเกาหลี ประเทศเหล่านี้เป็นกลุ่มประเทศมีรายได้ดี และมีความชื่นชอบสินค้าที่มีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะสินค้าไทยจะได้รับความนิยมอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจีนเป็นตลาดใหญ่ การเจาะตลาดระดับบนยังต้องอาศัยกลยุทธ์ควบคู่อีกหลายอย่าง เพราะไม่ใช่แค่อาศัยปัจจัยด้านราคาและคุณภาพเท่านั้น ทั้งนี้ผู้ส่งออกต้องติดตามข่าวสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นๆ นอกจากนี้ การทำความเข้าใจกับสินค้าคู่แข่ง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ

________________________________________________

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว

พฤษภาคม 2555