รายงานตลาดสินค้าอาหารและผลิตภัณฑ์การเกษตรในสาธารณรัฐเช็ก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 5, 2012 14:30 —กรมส่งเสริมการส่งออก

รายงานตลาดสินค้าอาหารและผลิตภัณฑ์การเกษตรในสาธารณรัฐเช็ก

สาธารณรัฐเช็กเป็นประเทศหนึ่งที่มีเศรษฐกิจเข้มแข็งในกลุ่มประชาคมยุโรป ทำเลที่ตั้งใจกลางของทวีปยุโรปทำให้สามารถ เชื่อมโยงการค้าและการขนส่งไปยังยุโรปกลาง ตะวันตก และตะวันออก อีกทั้งยังมีเมืองหลวงที่สวยงามคือกรุงปราก แต่ด้วยสภาพภูมิอากาศที่ ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกพืชในเขตร้อน ดังนั้นอาหารในประเทศสาธารณรัฐเช็กส่วนใหญ่จึงได้มาจากการนำเข้าเป็นหลัก ประเทศไทย เป็นผู้ส่งออกอาหารจากเขตโซนร้อนที่สาธารณรัฐเช็กไม่สามารถผลิตเองได้ ด้วยเหตุนี้เองประเทศไทยจึงไม่มีคู่แข่งจากผู้ผลิตภายในประเทศ

ประเภทสินค้าอาหารที่ส่งออกจากไทย ตามลำดับความสำคัญ รายละเอียดในตารางประกอบนี้

FOOD AND AGRICULTURAL IMPORTS FROM THAILAND

TO THE CZECH REPUBLIC

                                                                                                                                                                                Growth
                                                                                                          01-03/      01-03/     Growth      Growth      Growth      Growth     01-03/
H.S.            Commodity                                 2007      2008      2009      2010      2011      2011       2012       2008%       2009%       2010%       2011%      2012%
                                                                        unit: thous. USD
1604      Canned fish                                    9 402    11 190     8 911     8 167     9 632     4 356       8 454      19,0%      -20,4%       -8,3%       17,9%      94,1%
1006      Rice                                           4 003    10 287     6 076     7 383     8 967     3 644       3 610     157,0%      -40,9%       21,5%       21,5%      -0,9%
20        Preserved fruits and vegetables                5 884     9 401     4 310     6 493     6 397     1 909       1 641      59,8%      -54,2%       50,6%       -1,5%     -14,0%
2103      Sauces, seasonings, spice-mixtures               935       941     1 157     1 306     1 432       336         369       0,6%       23,0%       12,9%        9,6%       9,8%
1902      Noodles(from 2005 incl. instant noodle soups)  1 007     1 294     1 501     1 247     1 341       383         411      28,5%       16,0%      -16,9%        7,5%       7,3%
1605      Canned seafood                                   649     1 391     1 692       824     1 289       413          58     114,3%       21,6%      -51,3%       56,4%     -86,0%
2106      Other food preparations                          502       579       577       852       885       194         119      15,3%       -0,3%       47,7%        3,9%     -38,7%
03        Fish, crustaceans and mollucs                  1 000     1 070       795       771       795       222         173       7,0%      -25,7%       -3,0%        3,1%     -22,1%
          (fresh,chilled,frozen or dried)
08        Fruits and nuts                                  845       840       836       927       699       194         132      -0,6%       -0,5%       10,9%      -24,6%     -32,0%
06        Cut flowers and plants                           999     1 149       923       567       526       129         102      15,0%      -19,7%      -38,6%       -7,2%     -20,9%
1108      Tapioca starch                                   657       214        55       393       516        31          41     -67,4%      -74,3%      614,5%       31,3%      32,3%
07        Vegetables (fresh,chilled,frozen or dried)       291       421       433       407       251        86          58      44,7%        2,9%       -6,0%      -38,3%     -32,6%
22        Beverages                                         88       638       123       149        20         6          52     625,0%      -80,7%       21,1%      -86,6%     766,7%
1905      Rice paper and similar articles                   40       264        67        55        20         4          15      60,0%      -74,6%      -17,9%      -63,6%     -75,0%
          Other food items                               1 996     2 459     2 216     2 320     2 439       624         832      23,2%       -9,9%        4,7%        5,1%      33,3%
          TOTAL FOOD ITEMS                              28 298    42 138    29 672    31 861    35 209    12 531      16 053      48,9%      -29,6%        7,4%       10,5%      28,1%
          OTHER ITEMS                                  788 918 1 175 788 1 141 518 1 556 035 1 319 856   339 279     339 006      49,0%       -2,9%       36,3%      -15,2%      -0,1%
          TOTAL                                        817 216 1 217 926 1 171 190 1 587 896 1 355 065 351 810 3     355 059      49,0%       -3,8%       35,6%      -14,7%       0,9%
Source: Czech Statistical Office, May 2012

                        POSITION OF THAILAND ON THE CZECH MARKET
                                     IN THE YEAR 2011
          ________________________________________________________________________
             HS CODE         PRODUCT            MARKET SHARE OF      POSITION OF
                                                     THAILAND       THAILAND ON
                                                      IN 2011        CZ MARKET
          ________________________________________________________________________
            2008 20  Canned pineapples               55,00 %             No. 1
            1604     Canned fish                     12,60 %             No. 2
            1605     Preserved/processed seafood     15,14 %             No. 2
            1006     Rice                            15,20 %             No. 2
          ________________________________________________________________________
Source: Czech Statistical Office, May 2012

สับปะรดกระป๋อง

สถานการณ์การตลาดในปัจจุบัน

          สับปะรดกระป๋องเป็นสินค้านำเข้าหลักอันดับหนึ่งจากประเทศไทย  เนื่องจากเป็นผลไม้เขตร้อนที่ผู้บริโภคคุ้นเคยและนิยมเลือกซื้อ
เป็นประจำ จึงทำให้มีความต้องการของตลาดกว่า 8 พันตันต่อปี แต่ด้วยสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการปลูกจึงต้องอาศัยการนำเข้า

พฤติกรรมของผู้บริโภค
          จากสถิติทางราชการรายงานว่า  สับปะรดกระป๋องร้อยละ  นำเข้าเพื่อใช้ในกลุ่มธุรกิจการจัดเลี้ยง โดยอุตสาหกรรมการผลิตขนม
คบเคี้ยวมีอัตราการใช้สับปะรดกระป๋องมากเป็นอันดับหนึ่ง อันดับสองเพื่อการจัดจำหน่ายในห้างในซุปเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ต
สับปะรดกระป๋องแบบหั่นชิ้นจะมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าแบบแว่นทำให้ขายได้กำไรมากกว่า โดยส่วนใหญ่แล้วผู้บริโภคจะเลือกซื้อสับปะรดกระป๋อง
จากราคาเป็นหลัก เพราะถือว่าหากราคาขึ้นสูง ยังมีผลไม้อื่นที่สามารถทดแทนกันได้ เช่น พีชกระป๋อง, แอปปริคอท, ส้ม และฟักทอง เป็นต้น
          สับปะรดกระป๋อง จะนิยมมอบเป็นของขวัญช่วงคริสมาสต์ ทำให้ความต้องการมีมากขึ้นตามลำดับ ดังจะเห็นได้ว่าในไตรมาสที่ 4
ของปี มีการบริโภคสับปะรดกระป๋องมากที่สุด รวมถึงผลไม้กระป๋องเขตร้อนอื่นๆ เพื่อใช้สำหรับบริโภคโดยตรง, ใช้ตกแต่งหน้าคริสมาสต์เค้ก,
อบขนมปังต่างๆ รวมทั้งใช้ในการจัดเลี้ยง
          การบรรจุภัณฑ์ของสับปะรดกระป๋องจากประเทศไทยร้อยละ 62 เป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบร้อยละ 19
โดยปริมาณรวมของขนาดบรรจุภัณฑ์มีน้ำหนักไม่เกิน 1กิโลกรัมต่อหน่วย

                                  IMPORT STATISTICS
                       IMPORTS OF CANNED PINEAPPLES HS 2008 20
                                TO THE CZECH REPUBLIC
                          VALUE              MARKET SHARE                 GROWTH
COUNTRY              (IN THOUS. USD)             (%)                        (%)
                                  Q1/     Q1/                      Q1/               Q1/
                 2010    2011    2011    2012    2010    2011     2012     2011     2012
Thailand        4 311   4 681   1 482   1 193   70,21   54,99    63,87     8,58   -19,50
Indonesia          37   2 220      27     450    0,60   26,08    24,09  5900,00  1566,67
Germany         1 177     806     256     122   19,17    9,47     6,53   -31,52   -52,34
Austria           246     490     225      68    4,01    5,76     3,64    99,19   -69,78
Italy             124      60      21      14    2,02    0,70     0,75   -51,61   -33,33
Vietnam            13      59       0       0    0,21    0,69     0,00   353,85        x
South Africa       31      49      12       1    0,50    0,58     0,05    58,06   -91,67
Turkey              0      33       0       0    0,00    0,39     0,00        x        x
Poland             58      26      11       0    0,94    0,31     0,00   -55,17  -100,00
Other countries   143      88       1      20    2,33    1,03     1,07   -38,46  1900,00
         TOTAL  6 140   8 512   2 035   1 868  100,00  100,00   100,00    38,63    -8,21
Source: Czech Statistical Office, May 2012

          ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกสับปะรดกระป๋องรายหลักของสาธารณรัฐเช็ก ในปี ไทยมีส่วนแบ่งตลาดกว่าร้อยละ 55 รองมาเป็น
ประเทศอินโดนิเชียร้อยละ 26 , เวียดนามร้อยละ 0.7  และแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นคู่แข่งของไทยทั้งนี้ การนำเข้าสับปะรดกระป๋องจากกลุ่มสหภาพ
ยุโรป เช่น เยอรมัน, ออสเตรเลีย, อิตาลีและโปแลนด์ ล้วนแต่เป็นสับปะรดกระป๋องที่นำเข้าจากแถบเอเชียทั้งสิ้น รวมทั้งประเทศไทย
เพราะกลุ่มสหภาพยุโรปก็มีสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการปลูกสับปะรด ดังนั้นการนำเข้าสับปะรดกระป๋องจากไทย จึงถือว่ามีปริมาณมากกว่า
ร้อยละ 55

ช่องทางการจัดจำหน่าย
          สับปะรดกระป๋องที่วางขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ต ส่วนใหญ่รับมาจากผู้นำเข้าท้องถิ่นอีกต่อหนึ่ง
การส่งสินค้าสับปะรดกระป๋องส่วนใหญ่ส่งมาทางเรือที่ท่า HAMBURG ประเทศเยอรมันหรือมีบางกรณีใช้ท่าเรือ ROTTERDAM  ประเทศ
เนเธอร์แลนด์และขนส่งต่อมายังสาธารณรัฐเช็กโดยทางรถยนต์ เพราะไม่มีพื้นที่หรือท่าเรือติดทะเล

ศักยภาพในการแข่งขัน
          การแข่งขันทางด้านราคา ถือเป็นปัจจัยหลักของตลาดสับปะรดกระป๋อง อีกทั้งความเที่ยงตรงในการส่งสินค้าตามสัญญาที่กำหนดก็ถือ
เป็นส่วนสำคัญของการทำธุรกิจกับร้านค้าปลีก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านการขาย ระหว่างผู้ส่งออกจากไทยและผู้นำเข้าท้องถิ่น ต้องส่งสินค้า
ตรงเวลาเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องค่าปรับ  ทั้งนี้ธุรกิจค้าปลีกอาจเรียกค่าปรับจากผู้นำเข้าท้องถิ่นในกรณีที่ ผู้ส่งออกไทยพลาดการส่งสินค้าตามเวลา
เป็นต้น

ขนาดของตลาดและความต้องการของสินค้า
          ความต้องการของตลาดปลากระป๋องและปลาแช่แข็ง (HS 1604 ) ของสาธารณรัฐเช็กมีกว่า 20.5 ล้านกิโลกรัมต่อปี ซึ่งได้จากการ
นำเข้าทั้งสิ้น เพราะสาธารณรัฐเช็กไม่มีพื้นที่ติดทะเล  ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปมีอัตราการบริโภคกว่า 1.4 ล้านกิโลกรัมต่อปี  ในปี 2554
สาธารณรัฐเช็ก นำเข้าปลาทูน่ากระป๋องจากประเทศไทย กว่า 3 ล้านกิโลกรัม จากความต้องการของตลาดทั้งหมด 7 ล้านกิโลกรัมต่อปีพฤติกรรม
ผู้บริโภค
          สาธารณรัฐเช็กมีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่โดยคนรุ่นใหม่ในเมืองหลวงจะคำนึงถึงสุขภาพ และหันไปบริโภคปลามากขึ้น
ในปี 2553 สาธารณรัฐเช็กมีการบริโภคปลากว่า 5.6 กิโลต่อคน และมีอัตราความต้องการอาหารทะเลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะเป็นส่วน
น้อยเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปอื่นๆ ที่มีการบริโภคปลาเฉลี่ยอยู่ที่คนละ 12 กิโลกรัมต่อปี รูปแบบการบริโภคของชาวเช็กนิยมบริโภค
ปลาน้ำจืดคิดเป็นอัตรา 1กิโลต่อคนต่อปี ช่วงเวลาที่มีการบริโภคปลามากที่สุดคือ เทศกาลคริสมาสต์ และอีสเตอร์   ทำให้ผู้จำหน่ายท้องถิ่นต้อง
สนองความต้องการถึง 19  ตันต่อปี ซึ่งกว่าครึ่งใช้สำหรับบริโภคภายในประเทศ และอีกครึ่งเพื่อการส่งออก จากสถิติของกระทรวงเกษตรและ
สหกรณ์ประจำสาธารณรัฐเช็ก รายงานว่าปลาทะเลนั้นมีการบริโภคมากกว่าถึง 4เท่า ด้วยเหตุผลของความหลากหลายของชนิด และราคาที่ถูกกว่า
          จากสถิติของการบริโภคปลาในสาธารณรัฐเช็ก จากการสำรวจของสหภัณฑ์การประมง ระบุว่าปลากระป๋องมีส่วนแบ่งในตลาดผู้บริโภค
ปลาถึงร้อยละ 20  โดยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือปลาทูน่ากระป๋องคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดถึงร้อยละ 37%  รองลงมาเป็นปลาแฮริ่งคิดเป็นร้อยละ
15% ปลาซาดีนและปลา sprats ร้อยละ12%และปลาแม็กเคอเรลร้อยละ 4.5 ตามลำดับ

                                        IMPORT STATISTICS

                                 IMPORTS OF CANNED FISH HS 1604
                                      TO THE CZECH REPUBLIC
                       VALUE              MARKET SHARE         GROWTH
COUNTRY           (IN THOUS. USD)             (%)                (%)
                                 Q1/     Q1/                      Q1/            Q1/
                2010    2011    2011    2012    2010    2011     2012    2011    2012
Poland        18 578  19 416   4 702   3 180   26,39    25,39   11,85    4,51  -32,37
Thailand       8 167   9 632   4 356   8 454   11,60    12,60   31,50   17,94   94,08
Germany       10 791   9 233   2 411   2 327   15,33    12,08    8,67  -14,44   -3,48
Spain          4 275   5 483   1 125   1 630    6,07     7,17    6,07   28,26   44,89
Italy          3 450   5 055     757   1 443    4,90     6,61    5,38   46,52   90,62
Denmark        2 858   3 968     959     400    4,06     5,19    1,49   38,84  -58,29
Philipines     3 669   3 462   2 616     474    5,21     4,53    1,77   -5,64  -81,88
Latvia         2 599   2 967     826     743    3,69     3,88    2,77   14,16  -10,05
Estonia        2 013   2 703   1 249     600    2,86     3,54    2,24   34,28  -51,96
Othercountries13 998  14 542   4 533   7 587   19,88    19,02   28,27    3,89   67,37
      TOTAL   70 398  76 461  23 534  26 838  100,00   100,00  100,00    8,61   14,04
Source: Czech Statistical Office, May 2012

          สาธารณรัฐเช็ก มียอดการนำเข้าปลากระป๋องจากประเทศไทยมากเป็นอันดับสอง แต่สำหรับปลาทูน่ากระป๋องจากประเทศไทยถือ
เป็นผู้นำตลาด  ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดกว่าร้อยละ 82 โดยมีสเปนและอิตาลีเป็นคู่แข่งที่สำคัญในกลุ่มสหภาพยุโรป   ส่วนฟิลิปินส์ และเวียดนาม
ถือเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งจากแถบเอเชีย
          การนำเข้าทูน่ากระป๋องส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมคือ ทูน่ากระป๋องแบบสับละเอียด เพราะสามารถนำไปประกอบการรับประทาน
เช่น ใช้ทาขนมปัง หรือใช้เป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหาร อีกทั้งยังนำไปใช้ในกลุ่มธุรกิจจัดเลี้ยง เป็นต้น ถ้าเปรียบเทียบราคาปลาทูน่าของ
ไทยจะถูกกว่าปลาทูน่าที่นำเข้าจากอิตาลีเป็นอย่างมาก โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ GIANA ซึ่งเป็นของ GASTON Co. เป็นบริษัท
ท้องถิ่นที่นำเข้าปลากระป๋องจากประเทศไทยที่ใหญ่ที่สุด
          ถึงแม้ว่าทูน่ากระป๋องจากอิตาลีจะมีราคาแพง แต่ก็เต็มไปด้วยคุณภาพ  โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมคือ RIO MARE ซึ่งนำเข้า
จากอิตาลีโดยบริษัท BOLTON CZECHIA Co. ผลจากการโฆษณาและทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างหนักทำให้ผู้บริโภคตระหนักถึงคุณภาพเป็นอย่างดี

                      IMPORTS OF PRESERVED/PROCESSED SEAFOOD HS 1605
                                  TO THE CZECH REPUBLIC
                             VALUE              MARKET SHARE         GROWTH
COUNTRY                (IN THOUS. USD)              (%)                (%)
                                 Q1/    Q1/                    Q1/            Q1/
                  2010   2011   2011   2012    2010   2011    2012   2011     2012
Ireland          1 069  2 646    300      0   19,47  31,07    0,00 147,52  -100,00
Thailand           824  1 289    413     58   15,01  15,14    5,29  56,43   -85,96
Spain              436    978    193    105    7,94  11,48    9,57 124,31   -45,60
Poland             894    837    250      6   16,28   9,83    0,55  -6,38   -97,60
Germany            715    599    249    121   13,02   7,03   11,03 -16,22   -51,41
Bangladesh         246    437    144     18    4,48   5,13    1,64  77,64   -87,50
China              134    354    113    102    2,44   4,16    9,30 164,18    -9,73
France             147    267      3      2    2,68   3,14    0,18  81,63   -33,33
Indonesia          148    184      9    227    2,70   2,16   20,69  24,32  2422,22
Other countries    877    925    154    458   15,97  10,86   41,75   5,47   197,40
       TOTAL     5 490  8 516  1 828  1 097  100,00 100,00  100,00  55,12   -39,99
Source: Czech Statistical Office, May 2012

          ด้านผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป  ประเทศไทยมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ15.14  โดยส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์กุ้งแช่แข็ง รองจาก
ไอร์แลนด์ซึ่งมีส่วนแบ่งร้อยละ 31.07  ทำให้ประเทศไทยตกเป็นอันดับสองด้านการนำเข้าอาหารทะเลแปรรูป (HS 1605 ) โดยมีอัตราการนำ
เข้าในปี 2554 ถึง 120  thous.kg  ทั้งนี้คู่แข่งที่สำคัญในแถบเอเชียคือ บังคลาเทศ, อินโดนีเชีย, เวียดนาม, อินเดีย, จีน

ช่องทางการจัดจำหน่าย
          ผู้นำหลักประเภทสินค้าปลากระป๋องและอาหารทะเลส่วนใหญ่จะติดต่อโดยตรงกับ ซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือไฮเปอร์มาร์เก็ต โดยมีการจัดหา
ผู้ส่งสินค้าด้วยตนเอง  โดยสินค้าปลากระป๋องมีตลาดหลักคือ กลุ่มผู้ซื้อโดยตรงจากตลาดค้าปลีกเพื่อบริโภคในครัวเรือน และกลุ่มธุรกิจการจัดเลี้ยง
ต่างๆ  สำหรับอาหารทะเลกระป๋องจะเน้นหนักไปที่กลุ่มธุรกิจการจัดเลี้ยงเป็นหลัก

ศักยภาพการแข่งขัน
          สาธารณรัฐเช็กมีแนวโน้มอัตราการเติบโตของตลาดปลากระป๋องเพิ่มมากขึ้น โดยมีแหล่งนำเข้าดั้งเดิมคือจากประเทศไทย แต่ทว่าการ
เข้าร่วมกลุ่มสหภาพยุโรปของสาธารณรัฐเช็กทำให้ประเทศไทยต้องแข่งขันอย่างหนักกับประเทศในแถบยุโรป เช่น โปร์แลนด์, เยอรมัน, สเปน,
อิตาลี  โดยเฉพาะอิตาลีที่มีการสร้างแบรนด์ RIO MARE ให้เป็นที่รู้จักผ่านการโฆษณา  ประเทศไทยควรให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์เช่นกัน
เพราะจากสถิติการสำรวจข้อมูลของผู้นำเข้าพบว่า การโฆษณาทำให้มียอดขายผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้นถึงแม้ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีราคาแพง

ข้าว

สถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน
          เนื่องด้วยสภาพภูมิอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการปลูกข้าว ดังนั้นข้าวในประเทศสาธารณรัฐเช็กทั้งหมดจึงได้มาจากการนำเข้า
สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานว่าการบริโภคข้าวของประชากรในสาธารณรัฐเช็กคิดเป็นค่าเฉลี่ยประมาณ 4.5 กิโลต่อคนต่อปี  โดยภาพรวมแล้ว
สาธาณรัฐเช็กบริโภคข้าว 60-70 พันตันต่อปี ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของผู้บริโภคข้าวคือกลุ่มครัวเรือนที่ซื้อสินค้าผ่านทางซุปเปอร์มาร์เก็ต  และกลุ่ม
ธุรกิจอาหาร (โรงแรม, ภัตตาคาร, ร้านอาหาร, โรงเรียน, โรงพยาบาล, โรงอาหารในบริษัท)

พฤติกรรมผู้บริโภค
          จากสถิติของผู้นำเข้ารายใหญ่ระบุว่า ข้าวที่นำเข้ากว่าร้อยละ 60 ไปสู่ร้านค้าปลีก ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ40 นำไปใช้ในอุตสหกรรม
ผลิตอาหาร
          การบริโภคข้าวส่วนใหญ่เป็นเพียงอาหารประกอบอาหารหลัก เช่นเดียวกับมันฝรั่ง และพาสต้า ซึ่งก็เป็นที่นิยมรับประทาน
ทั้งนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่าในปี 2553  มีอัตราการบริโภคมันฝรั่งคนละ70  กิโลกรัมต่อปี อัตราการบริโภคข้าวคุณภาพดี (ราคา 34,26 K
ต่อกิโลกรัม) คนละ 1กิโลกรัมต่อปี  ส่วนอัตราการบริโภคพาสต้า (ราคา 35,36 Kc . ต่อกิโลกรัม) นั้นอยู่ที่ประมาณคนละ 6.6  กิโลกรัมต่อปี

                              CONSUMPTION OF RICE VS. POTATOES AND PASTA
                                   PER CAPITA IN THE CZECH REPUBLIC
                                              (unit: kg)
Item        1990   1995   2000   2001   2002   2003   2004   2005   2006   2007   2008   2009   2010
Rice         4,3    4,4    4,6    4,4    4,8    5,0    4,6    4,0    5,2    4,9    4,9    4,2    4,5
Potatoes    77,9   76,5   77,0   75,3   76,0   73,6   73,0   72,5   70,0   69,5   71,4   64,9   67,3
Pasta        3,5    3,8    6,5    6,5    6,0    5,6    6,2    6,2    6,2    7,5    6,1    6,6    7,1
Source: The Statistic Yearbook of the Czech Republic, 2012

                                    IMPORT STATISTICS
                      IMPORTS OF RICE 1006 TO THE CZECH REPUBLIC
COUNTRY                VALUE (thous. USD)           MARKET SHARE (%)      GROWTH (%)
                                 01-03/  01-03/               01-03/           01-03/
                   2010    2011    2011   2012   2010   2011    2012    2011     2012
Italy            28 866  36 303  10 203  8 332  58,42  61,54   52,77   25,76   -18,34
Thailand          7 383   8 967   3 644  3 610  14,94  15,20   22,87   21,45    -0,93
Poland            3 825   4 061     652  1 342   7,74   6,88    8,50    6,17   105,83
Greece              303   1 902     345    537   0,61   3,22    3,40  527,72    55,65
India            1 120    1 644     328    308   2,27   2,79    1,95   46,79    -6,10
Netherlands      1 070    1 071     278    306   2,17   1,82    1,94    0,09    10,07
Cambodia           124      651     238    125   0,25   1,10    0,79  425,00   -47,48
Belgium            589      589     176    128   1,19   1,00    0,81    0,00   -27,27
Hungary            485      539      90    129   0,98   0,91    0,82   11,13    43,33
Pakistan           436      398      37    106   0,88   0,67    0,67   -8,72   186,49
Spain              282      327      66     80   0,57   0,55    0,51   15,96    21,21
Other countries  4 924    2 536     619    785   9,97   4,30    4,97  -48,50    26,82
        TOTAL   49 407   58 988  16 676 15 788 100,00 100,00  100,00   19,39    -5,33
Source: Czech Statistical Office, May 2012.

          ตลอดระยะเวลา5 ปีที่ผ่านมา(2550-2555)ประเทศไทยยังครองตำแหน่งอันดับ 2 ของผู้ส่งออกข้าวสู่สาธารณรัฐเช็ก ส่วนแบ่งทาง
การตลาดของประเทศไทยในปี 2554  อยู่ที่ร้อยละ 15.2  รองจากประเทศอิตาลีซึ่งเป็นผู้นำตลาดข้าวโดยมีส่วนแบ่งตลาดถึงร้อยละ 61.5
ในปี 2555

          ตั้งแต่สาธารณรัฐเช็กเข้าร่วมกลุ่มเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปในปี 2547  การซื้อขายข้าวจึงเน้นไปกับผู้ผลิตข้าวในยุโรป
เนื่องจากเป็นเขตการค้าเสรี ดังนั้นจึงทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของอิตาลีแข็งแกร่งขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง ประเทศไทยเป็นอันดับสอง ตามมาด้วย
อันดับสามคือ โปแลนด์ ซึ่งในปี 2554  มีอัตรานำเข้าร้อยละ6.9 ตามมาด้วยกรีช อินเดีย และเนเธอร์แลนด์
          ข้อได้เปรียบด้านภาษีจากผู้ผลิตภูมิภาคยุโรป คือตั้งแต่สาธารณรัฐเช็กเข้าร่วมกลุ่มเศรษฐกิจในสหภาพยุโรป จึงหันไปทำการค้ากับ
ผู้ผลิตข้าวในยุโรป เนื่องจากเป็นเขตการค้าเสรี ส่วนภาษีการค้าของประเทศที่อยู่นอกกลุ่มยุโรปก็เปลี่ยนไปจากเดิมที่ร้อยละ0
          ในเรื่องของปริมาณ ปี 2554  และ2553   ประเทศไทยมีการนำเข้าข้าวสู่สาธารณรัฐเช็กถึง 9,255 ตันและ 7,477 ตัน
ส่วนอิตาลีนำเข้า 42,703  ตัน และ 43,407  ตัน ตามลำดับ

ช่องทางการจัดจำหน่าย
          สินค้าข้าวใช้การขนส่งด้วยการนำเข้าทางเรือ โดยส่วนใหญ่ส่งมาทางเรือที่ท่า HAMBURG หรือมีบางกรณีใช้ท่าเรือ ROTTERDAM
และขนส่งมายังสาธารณรัฐเช็กโดยทางรถยนต์
          การบรรจุภัณฑ์ของผู้นำเข้ารายใหญ่จะมีการนำเข้าข้าวมาแล้วบรรจุภัณฑ์เอง ส่วนใหญ่จะบรรจุเป็นชนิดกล่องหรือถุง อยู่ที่ 0.5-1
กิโลกรัม ทั้งนี้ผู้นำเข้าจะมีการจัดจ้างผู้ขนส่ง เพื่อทำการจัดส่งให้กับผู้บริโภคต่อไป โดยข้าวจะมีตลาดหลักคือ กลุ่มผู้ซื้อโดยตรงจากตลาดค้าปลีก
เพื่อบริโภคในครัวเรือน และกลุ่มธุรกิจการจัดเลี้ยงต่างๆ  ชื่อของผลิตภัณฑ์มีสองแบบคือ  บรรจุภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และบรรจุภายโดย
ใช้ชื่อของบริษัทค้าปลีก เช่น ผู้นำเข้าข้าว PODRAVKA - LAGRIS นำเข้าข้าวมาบรรจุภัณฑ์ส่งจำหน่ายให้ห้าง TESCO ภายใต้ชื่อ "TESCO"
และผู้นำเข้าข้าว PODRAVKA - LAGRIS Co . ยังจำหน่ายข้าวภายใต้ยี่ห้อ "LAGRIS" อีกด้วยส่วนผู้นำเข้าข้าว VITANA ใช้ชื่อสินค้า "BASK"
หรือ "VITANA"ทั้งสองชื่อ ในการขายสินค้าของบริษัทเพื่อสร้างความนิยมในตัวสินค้า

ศักยภาพทางด้านการตลาด
          การพิจารณาศักยภาพการเจริญเติบโตในอนาคตของสินค้าข้าวจากประเทศไทยในสาธารณรัฐเช็ก ยังคงเป็นตลาดผู้บริโภครายใหญ่
โดยจะต้องตระหนักในเรื่องราคาเป็นสำคัญ  และควรพิจารณาทางด้านการค้าของข้าวราคาถูกร่วมด้วย  อย่างไรก็ตามเมื่อสภาพเศรษฐกิจดีขึ้น
ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของผู้บริโภคดีขึ้น ทำให้มีความต้องการข้าวคุณภาพดีเพิ่มขึ้น
          เนื่องจากสาธารณรัฐเช็กไม่สามารถปลูกข้าวได้ และคนทั่วไปขาดความรู้สินค้าเกษตรที่แตกต่างไปจากประเทศของตน  ตัวอย่างเช่น
การให้ความรู้เกี่ยวกับข้าวหอมมะลิในกลุ่มธุรกิจด้านภัตตาคาร, โรงแรม, ธุรกิจจัดเลี้ยง เป็นต้น เนื่องจากข้าวหอมมลิมีลักษณะพิเศษ ที่คุณภาพ
และความหอมใช้เสริฟคู่กับอาหารเอเชีย  อีกประการที่จะส่งเสริมการตลาดของผลิตภัณฑ์ข้าว คือ ต้องจัดให้มีการแนะนำให้ชิมสินค้า ตามซุปเปอร์
มาร์เก็ต หรือ ไฮเปอร์มาร์เก็ต มีการสอนการหุงข้าวที่ถูกวิธี มีการแจกแผ่นปลิวคุณสมบัติของข้าวหอมมะลิ เป็นต้น

       TOP 10 RETAIL COMPANIES IN THE CZECH REPUBLIC
                    (ranked by turnover)
No. GROUP / COMPANY                           TURNOVER
                                            (in CZK bil.)
                                            2010     2011
1.  Schwarz CR                              63,2     65,5
    Kaufland hypermarkets                   40,0     42,0
    Lidl CR supermarkets                    23,2     23,5
2.  Rewe CR                                 51,1     53,6
    Billa supermarkets                      22,2     22,6
    Penny Market (discount stores)          28,9     31,0
3.  Tesco Stores CR                         47,5     51,0
    Tesco hypermarkets
    Tesco department stores
    Tesco supermarkets
    Tesco Express stores
4.  Ahold Czech Republic                    42,3     44,0
    Albert hypermarkets
    Albert supermarkets
5.  Makro Cash & Carry CR                   33,1     32,5
6.  Globus CR                               26,1     27,0
7.  Geco Tabak                              17,7     20,2
8.  SPAR CR                                 13,0     14,1
    Interspar hypermarkets                  12,3     13,4
    Spar supermarkets
    Spar Sumava                              0,7      0,7
9.  OBI CR                                   9,3      9,4
10.-11.  IKEA                                8,5      8,2
10.-11.  Peal                                8,7      8,2
TOP 10   T O T A L                           312      325
Source: Incoma GfK 2012
สรุปรายงานโดย
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศณ.กรุงปราก (พฤษภาคม 2555)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ