รายงานข้อมูลการค้าระหว่างประเทศไทยกับเดนมาร์ก

รายงานข้อมูลการค้าระหว่างประเทศไทยกับเดนมาร์ก

๑.ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศไทย- เดนมาร์ก

หน่วย ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มูลค่า         ปี ๒๕๕๔    ม.ค. - เม.ย.  ม.ค. - เม.ย.          % เพิ่ม/ลด
                          ปี ๒๕๕๔       ปี ๒๕๕๕        ปี ๒๕๕๕   ม.ค. - เม.ย.
การค้ารวม     ๙๙๙.๘๓       ๓๕๓.๖๐       ๒๔๖.๔๗               -๓๐.๓๐
การส่งออก     ๗๕๔.๖๘       ๒๗๑.๘๔       ๑๔๖.๔๕               -๔๖.๑๓
การนำเข้า     ๒๔๕.๑๕        ๘๑.๗๗       ๑๐๐.๐๒                ๒๒.๓๒
ดุลการค้า      ๕๐๙.๕๓       ๑๙๐.๐๗        ๔๖.๔๓               -๗๕.๕๗

เดนมาร์กนับเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญลำดับที่ ๔๐ ของไทย โดยในรอบ ๔ เดือนแรกของปี ๒๕๕๕ (ม.ค.เม.ย.) การค้ารวมมีมูลค่าทั้งสิ้น ๒๔๖.๔๗ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ ๓๐.๓๐ เทียบกับช่วงเดียวกันของปี ๒๕๕๔ แยกเป็นการส่งออกจากไทยมูลค่า ๑๔๖.๔๕ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ ๔๖.๑๓ เทียบกับในช่วงเดียวกันของปี ๒๕๕๔ และการนำเข้าจากเดนมาร์ก มูลค่า ๑๐๐.๐๒ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๒.๓๒ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ๒๕๕๔ ไทยเป็นฝ่ายเสียเปรียบดุลการค้ารวมทั้งสิ้นมูลค่า ๔๖.๔๓ ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๗๕.๕๗ เทียบกับช่วงเดียวกันของปี ๒๕๕๔

สินค้าส่งออกของไทยที่สำคัญ ๕ อันดับแรก ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ มูลค่า ๕๐.๘ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ ๕๐.๘ แผงสวิทช์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ์า ๑๐.๖ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ ๒๘.๐๑ เครื่องใช้ไฟฟ์าและส่วนประกอบอื่นๆ ๕.๕ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ ๓๕.๗๖ รองเท้าและชิ้นส่วน ๔.๗ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ ๘๘.๖๗ และส่วนประกอบอากาศยานและอุปกรณ์การบิน ๔.๑ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ๗,๒๙๔.๖๔ และสินค้านำเข้าจากเดนมาร์กที่สำคัญ ๕ อันดับแรก ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ์าและส่วนประกอบ ๑๗.๙ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๓๘.๓๓ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ๑๖.๗ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๕๑.๖๓ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม ๑๐.๖ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ ๖.๙๙ เคมีภัณฑ์ ๖.๗ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ ๘.๖ ผลิตภัณฑ์โลหะ ๖.๓ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓๗๖.๘๙

๒.๑ เดนมาร์กจัดเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดเล็กเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรม มีเทคโนโลยีสูง มีจำนวนประชากรประมาณ ๕.๕ ล้านคน (ปี ๒๕๕๕) การเจริญเติบโตของจีดีพีที่แท้จริงของเดนมาร์กในปี ๒๕๕๔ อยู่ที่ประมาณร้อยละ ๑.๐ ประชากรมีรายได้ต่อหัวสูงถึงประมาณ ๔๑,๑๐๐ เหรียญสหรัฐ/ปี (ปี ๒๕๕๔) เดนมาร์กมีข้อได้เปรียบด้านโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านระบบสาธารณูปโภค การคมนาคมขนส่ง ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบการเงินการธนาคาร ตลาดทุน รัฐบาลไม่มีข้อกีดกันการลงทุนต่างชาติ บริษัทต่างชาติได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกันกับบริษัทเดนมาร์ก เดนมาร์กมีเสถียรภาพทางการเมือง

๒.๒ เดนมาร์กถือว่าเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤติหนี้สาธารณะในยุโรป และการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก แต่เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในยุโรปแล้ว เดนมาร์กยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจเดนมาร์กยังคงคาดเดาได้ยาก ในปี ๒๕๕๕ - ๒๕๕๖ คาดว่าจะมีอัตราการเจริญเติบโตเพียงร้อยละ ๑ - ๑.๒๕ เนื่องจากเศรษฐกิจยังมีความเปราะบาง ตลาดแรงงานในเดนมาร์กยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ และคาดว่าจะเป็นเช่นนี้ในปี ๒๕๕๕ - ๒๕๕๖ การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจอาจจะช่วยป์องกันไม่ให้อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ลดลงแต่อย่างใด การบริโภคของภาคเอกชนเริ่มขยายตัวอย่างรุนแรงในช่วงไตรมาสที่ ๔ ปี ๒๕๕๔ แต่ก็ยังน้อยเกินไปกว่าที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าจะมีมาตรการการจ่ายเงินบำเหน็ดบำนาญเกษียณอายุก่อนกำหนดก็ตาม การส่งออกเริ่มโดดเด่นตั้งแต่ในช่วงต้นปี ๒๕๕๔ อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราการเติบโตของภาคส่งออกจะอยู่ระดับปานกลางในปี ๒๕๕๕ - ๒๕๕๖

IMD World Competitiveness Report ได้จัดอันดับให้เดนมาร์กอยู่ในอันดับที่ ๑๒ ในโลกในปี ๒๕๕๔ (สวีเดนอันดับที่ ๔ นอร์เวย์อันดับที่ ๑๓ ฟินแลนด์อันดับที่ ๑๕ และไอซ์แลนด์อันดับที่ ๓๑) เดนมาร์กเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปแต่ยังไม่ได้เข้าร่วมใช้เงินสกุลยูโร เดนมาร์กนับว่ายังคงเป็นประเทศที่มีสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดอีกประเทศหนึ่งในสหภาพยุโรป และในโลก ในปี ๒๕๕๔ Forbes และ World Bank ได้จัดอันดับให้เดนมาร์กเป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการดำเนินธุรกิจ (Best Countries for Business 2011) อันดับที่ ๕ เนื่องมาจากระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ซึ่งขับเคลื่อนโดยภาคเกษตรกรรมที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้า และเดนมาร์กมีบริษัทข้ามชาติระดับโลกมากมายเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่น อุตสาหกรรมเภสัชกรรม (Novo Nordisk) การจัดส่งสินค้าทางทะเล (Maersk) พลังงานทดแทน และการค้าระหว่างประเทศ และในปี ๒๕๕๔ เดนมาร์กได้รับการจัดอันดับจาก Transparency International เกี่ยวกับการทุจริตให้อยู่ที่อันดับที่ ๒ (ร่วมกับฟินแลนด์) ที่มีการทุจริตน้อยที่สุดในโลก รองจากนิวซีแลนด์ (สวีเดนอันดับที่ ๔ นอร์เวย์อันดับที่ ๖ และไอซ์แลนด์อันดับที่ ๑๓)

๒.๓ นโยบายเศรษฐกิจของเดนมาร์กของรัฐบาลนาง Helle Throning-Schimdt ในปี ๒๕๕๕ นี้ รัฐบาลวางแผนนโยบายการคลังแบบขยายตัว เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจถึงแม้ว่าจะทำให้ขาดดุลงบประมาณ งบประมาณของรัฐบาลในปัจจุบันยังคงเป็นบวกอยู่ และคาดว่าจะขาดดุลประมาณ ๑๒.๘๙ พันล้านเหรียญสหรัฐในปี ๒๕๕๕ ถึงแม้ว่าต้องใช้นโยบายรัดเข็มขัดในปี ๒๕๕๖ ก็ตาม ซึ่งนโยบายรัดกุมนี้ อาจจะทำให้อัตราการเจริญเติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นเหตุผลในการวิเคราะห์เศรษฐกิจเดนมาร์กว่า อาจจะไม่มีการเจริญเติบโตในปีหน้า

มีบริษัทข้ามชาติเข้ามาลงทุนในเดนมาร์กมากมายโดยใช้เดนมาร์กเป็นศูนย์กลางกลุ่มประเทศนอร์ดิกส์ (Nordic headquarter) เช่น Nestle และ Airbnb เป็นต้น การเข้าสู่ตลาดเดนมาร์กเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเข้าสู่ตลาดอื่นๆ ในสหภาพยุโรป เนื่องจากเดนมาร์กเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ใช้มาตรฐานกฎระเบียบเดียวกับสหภาพยุโรป ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการบริโภคที่ยอมรับสินค้าใหม่ๆ โดยง่าย นิยมสินค้าที่มีนวัตกรรม ดีไซน์ที่แปลกใหม่ รักษ์สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ โดยเฉพาะสินค้าที่อำนวยความสะดวกสำหรับสังคมสูงวัยหรือชะลอความแก่ ภาษาที่ใช้โดยทั่วไปในเดนมาร์กคือ ภาษาเดนนิช แต่ประชากรส่วนใหญ่เข้าใจภาษาอังกฤษจนสามารถนับเป็นภาษาที่สองได้ เดนมาร์กจึงเป็นอีกประเทศหนึ่งที่น่าสนใจในการทดลองตลาดสำหรับผู้ส่งออก กรุงโคเปนเฮเกนถือว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และการค้าในยุโรปเหนือ มีการคมนาคมขนส่งที่สะดวกทันสมัย สนามบินโคเปนเฮเกนได้รับการยกย่องให้เป็นสนามบินที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในยุโรปในปี ๒๕๕๔ จากการจัดอันดับของ Air Transport Research Society

ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจในยุโรปชะลอตัวได้มีนักธุรกิจต่างชาติที่เห็นโอกาสได้เข้ามาเริ่มโครงการลงทุนต่างๆ ในเดนมาร์ก โดยการใช้ผลประโยชน์จากภาวะราคาอหังสาริมทรัพย์ และต้นทุนต่างๆ ราคาตกต่ำลง เช่น ในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๕ บริษัท Zhongkun ซึ่งมี นาย Huang Nubo นักธุรกิจพันล้านชาวจีนเป็นผู้บริหารได้ประกาศความสนใจการเข้ามาลงทุนธุรกิจสวนสนุก Hans Christensen Andersen เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนและทั่วโลกให้เข้ามาท่องเที่ยวในเดนมาร์ก ซึ่งข่าวความสนใจการลงทุนจากนักลงทุนชาวจีนนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนาย Anker Boye นายกเทศมนตรีเมือง Odense

๔. สรุปและข้อคิดเห็น

จากแนวโน้มผู้บริโภคเดนมาร์กที่เข้าสู่สังคมสูงวัย นิยมสินค้าเพื่อสุขภาพ ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อสังคม การซื้อสินค้าและบริการผ่านออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น และนิยมสินค้าอิเลคทรอนิกส์ที่ทันสมัย ผู้ส่งออกไทยจึงต้องเน้นสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคดังกล่าวนี้ เช่น ในภาคการประกอบธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร จากแนวโน้มที่ผู้บริโภคนิยมบริโภคอาหารออร์แกนิกส์ ผู้ประกอบการจึงต้องใช้วัตถุดิบที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ สถานที่ประกอบการต้องมีมาตรฐานความสะอาดสูง เป็นระเบียบเรียบร้อย สินค้าที่สามารถตีตลาดในเดนมาร์กได้ ควรมีจุดเด่นและมีความใส่ใจด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยการเพิ่มมาตรฐานสากลที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกกับสินค้า เช่น ISO 14000/14001 มีมาตรฐานคุณภาพได้รับการยอมรับ หรือเลือกใช้สัญลักษณ์หรือตรารับรองเกษตรอินทรีย์ของสหภาพยุโรป (EU Organic Logo) หรือสัญลักษณ์เกษตรอินทรีย์ของเดนมาร์ก เป็นต้น

นอกจากนี้ ไทยยังสามารถพัฒนาความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุนกับเดนมาร์กในสาขาอื่น เช่นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ พลังงานสีเขียว (Green Energy & Green Technology) เป็นจุดเด่นของเดนมาร์ก และเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเกษตร ซึ่งสินค้าเกษตรกรรมเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของเดนมาร์ก ไทยสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาพัฒนาระบบการผลิตให้ทันสมัย รักษ์สังคม และสิ่งแวดล้อม และเป็นระบบที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

-----------------------------------------------------

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเศ ณ กรุงโคเปนเฮเกน

พฤษภาคม ๒๕๕๕